30 มิ.ย.63 - ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในการประชุมส่วนราชการประจำเดือนมิถุนายน 2563 นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้แจ้งถึงแนวทางการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2535 ว่าจากกรณีทุบรื้ออาคารบอมเบย์เบอร์มา ที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นโบราณสถาน ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนที่จังหวัดแพร่ ตามมาตรา 10 ระบุชัดว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซ่อมแซม แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทำลาย เคลื่อนย้ายโบราณสถานหรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถาน หรือขุดค้นสิ่งใดๆ หรือปลูกสร้างอาคารภายในบริเวณโบราณสถาน เว้นแต่จะกระทำตามคำสั่งของอธิบดีหรือได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี
นายไกรสิน กล่าวว่าถ้าหนังสืออนุญาตนั้นกำหนดเงื่อนไขไว้ประการใดก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นด้วย ส่วนบทลงโทษหลักๆมี 2 มาตราคือ มาตรา 32 ที่ระบุว่า ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีหรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกรมศิลปากรจะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี อีกมาตราคือ มาตรา 35 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดไว้ในหนังสืออนุญาตตามมาตรา 10 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สวนรุกขชาติเชตวัน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่ เพื่อสำรวจตรวจสภาพชิ้นส่วนโครงสร้างอาคารที่ถูกรื้อถอนไป รวบรวมข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำผังรูปแบบเพื่อการบูรณะ ตามโครงการบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อฟื้นคืนสภาพโบราณสถานอาคารศูนย์เรียนรู้ป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน (อาคารที่ทำการบริษัทอีสต์เอเซียติก และบริษัทบอมเบย์เบอร์ม่า) จ.แพร่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |