โควิด-19 กระทบต่อเนื่องฉุดเอ็มพีไอ เดือนพ.ค. หดตัว 23.19%


เพิ่มเพื่อน    

 

30 มิ.ย.2563 นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนพ.ค. 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.19% โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่หลายประเทศได้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว กิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักลง รวมทั้งกิจกรรมด้านการขนส่ง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้ลดวันทำงานลง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ในเดือนพ.ค. มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 26.86% เป็นต้น ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมเดือนพ.ค. อยู่ที่ 52.84%

ทั้งนี้ สถานการณ์เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นหลังดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 2.86% จากการเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้นในบางอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) ที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ผลิตภัณฑ์ปลาแช่แข็ง สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง การแปรรูปผักผลไม้ นม แป้งมันสำปะหลัง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมยาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.07% นับเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 2 หลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

นายอิทธิชัย กล่าวว่า อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีเอ็มพีไอ ได้แก่ การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง โรงงานยังคงหยุดสายการผลิต ประชาชนเริ่มทำงานที่บ้านจึงลดการเดินทางลง การหยุดกิจกรรมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบจากต่างประเทศและถูกปิดช่องทางการขายทั้งในและต่างประเทศ

ในขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในนี้ ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.89% เนื่องจากผู้ผลิตบางรายได้เพิ่มสัดส่วนในการรับจ้างผลิตสินค้ามากขึ้นจากปีก่อนที่เน้นการผลิตตามแผนการตลาดของตัวเองเท่านั้น , อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.15% โดยสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารที่เก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง , เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.07% จากผลิตภัณฑ์ยาเม็ด ยาแคปซูล และยาครีม เนื่องจากมีความต้องการใช้ต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และกลุ่มนม รวมถึง อาหารทะเลแช่แข็ง

“สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมิ.ย.จะกลับมาดีขึ้น โดยจะได้เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจจากมาตรการเงินเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลในส่วนต่าง ๆ ที่คืบหน้าค่อนข้างมาก อาทิ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท รวมถึงการผ่อนคลายให้กิจกรรมและกิจการบางประเภทสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ เช่นเดียวกันกับในหลายประเทศที่มีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง”นายอิทธิชัย กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"