29 มิ.ย.63 -ที่สนามบินภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานการเดินทางเยือนพื้นที่จังหวัดภาคใต้ชายฝั่งทะเลอันดามันคือ จ.พังงาและภูเก็ต ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดยการตลอดการเดินทางระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายนนี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อพบปะและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมสำหรับการลงเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคณะก้าวหน้า ซึ่งถือเป็นเดินสายครั้งแรกของนายธนาธร นับตั้งแต่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่และภายหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โดยมี นายไกลก้อง ไวทยการ แกนนำคณะก้าวหน้า และนายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ สัดส่วนภาคใต้ ร่วมเดินทางไปในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวทีพบปะผู้สนับสนุนและสมาชิกอดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังคงเดินหน้าทำงานต่อในนามเครือข่ายคณะก้าวหน้าของทั้งสองจังหวัด นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งในการพูดคุยว่า ตนเดินทางมาที่จังหวัดพังงาและภูเก็ตเป็นที่แรกหลังมีการเปิดน่านฟ้าให้เดินทางในประเทศได้ เพื่อยืนยันกับทุกคนว่า การที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ไม่สามาาถทำให้ตนและอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทุกคนหยุดการทำงานเพื่อประชาชนได้ และในอนาคตตนและคณะก้าวหน้าจะเดินทางเพื่อไปพบปะประชาชนเช่นนี้อีกทั่วประเทศ เพื่อนำปัญหาต่างๆไปประสานงานขับเคลื่อนร่วมกับ ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ที่บัดนี้อยู่กับพรรคก้าวไกล และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และให้ความรู้แลกเปลี่ยนกับประชาชนทั่วประเทศ
นายธนาธร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คณะก้าวหน้ากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนในระยะต่อไป คือการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งคณะก้าวหน้ายืนยันที่จะส่งผู้สมัครในส่วนของ อบจ.ในภาคใต้อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นจังหวัดใดบ้างจะมีความคืบหน้าต่อไป เพราะเราเห็นว่า รัฐราชการที่รวบอำนาจอยู่ที่ส่วนกลางคือหนึ่งในปัญหาสำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกพื้นที่ในประเทศไทยขาดการพัฒนา ทำให้เรื่องราวปัญหาต่างๆ ต้องถูกนำไปหารือในสภาโดย ส.ส. แทนที่จะเป็นอำนาจของท้องถิ่นจัดการได้ทันที ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอำนาจ งบประมาณ การตัดสินใจ ทุกอย่างอยู่ที่ส่วนกลางทั้งหมด ประชาชนเสียภาษีก็ถูกนำไปที่ส่วนกลางก่อนแล้วค่อยรอให้ส่วนกลางจัดสรรมา ไม่มีประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางถึงสูงที่ไหน ที่มีระบบการจัดการภาษีเช่นนี้อีกแล้ว ทุกประเทศเคลื่อนไปในทิศทางที่ส่งภาษีลงท้องถิ่นให้เป็นจำนวนมากที่สุดก่อนทั้งนั้น
"นี่คือเหตุผลที่คณะก้าวหน้าต้องการลงมาเขย่าการเมืองท้องถิ่น เราต้องการแสดงให้เห็นว่าเรา มีความรู้เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เรามีความรู้ ประสบการณ์ เทคโนโลยี มีศักยภาพที่จะทำได้ มีนโยบายและแนวคิดที่ดี เราเชื่อว่าเราทำได้ จะแพ้หรือชนะไม่ใช่ประเด็น เราทำให้การเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องของนโยบาย ไม่ใช่ผลประโยบน์ อิทธิพล และระบบอุปถัมภ์ เราทำเรื่องนี้สำเร็จมาแล้วในระดับชาติ เราจะทำมันได้อีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยจะเปลี่ยนได้ต้องอาศัยทั้งแรงจากข้างล่างจากข้างบน ข้างบนเราต้องมี ส.ส.เพื่อไปทำกฎหมายเพื่อปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ ข้างล่างเราต้องมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาท้องถิ่นผ่านนโยบายเราทุกคนร่วมกันเราจะทำได้" นายธนาธร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในการเยือนพื้นที่ครั้งนี้ นายธนาธรและทีมงานยังได้รับปัญหาของผู้ประกอบการด้านต่างๆ ของทั้งสองจังหวัด อาทิ ผู้ประกอบการสถานบันเทิง อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ผู้ประกอบการรถตู้ ห้าบเร่แผงลอย และบริษัทนำเที่ยวซึ่งต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ถ้วนหน้า โดยนายธนาธร ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ในขณะนี้ พูดอย่างตรงไปตรงมาคือไม่ดีขึ้นในเร็ววันแน่นอน จะคลี่คลายอย่างเร็วที่สุดคือเมื่อมีวัคซีนเกิดขึ้น แล้วยังต้องรอการผลิตเพื่อกระจายสู่ประชากรทั้งโลกอีก ดังนั้น ในช่วงนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือการรักษากระแสเงินสดให้มากที่สุดและพยายามลดค่าใช้จ่ายลง สำหรับในจังหวัดพังงาและภูเก็ต สิ่งที่เป็นธุรกิจหลักคือธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ผู้ประกอบการบางท่านได้แสดงความเห็นในเรื่องความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตนเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ภาคธุรกิจจะสามารถมาร่วมกันใช้เวลาช่วงนี้ในการฟื้นฟูธรรมชาติและพื้นที่การท่องเที่ยว ปรับปรุงฟื้นฟูคุณภาพสินค้าและบริการให้รองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือการฟื้นฟู แต่นอกจากการฟื้นฟูแล้วยังจำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่ ที่ผ่านมาเราขาย sea-sand-sun ของเดิมมาตลอด เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะสร้างจุดขายใหม่ขึ้นมา
"แน่นอนว่าหลายอย่างเป็นเรื่องที่ภาครัฐต้องดำเนินการ แต่คำถามคือถ้าภาครัฐไม่ฟังก์ชั่นและไม่เข้ามาดำเนินการจะทำอย่างไร สำหรับผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ชุมชนจะร่วมลงแรงลงใจทำกันเองโดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ผมเข้าใจดีถึงความรู้สึกว่าพึ่งพารัฐไม่ได้ เมื่ออำนาจถูกรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง และท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการตัดสินใจอะไรเลย แต่เรื่องพวกนี้ถ้าชุมชน ภาคประชาสังคมมีข้อเสนอที่ดี มีข้อเสนอในการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันไปในทิศทางเดียว ถ้าประชาสังคมมีพลัง เอกชนมีพลัง ลงมือคนละไม้ละมือทำกันได้ ก็สามารถลงมือทำได้ทันที นี่เป็นเรื่องที่ผมมีความสนใจอยู่ และอยากมาช่วยดำเนินกระบวนการในการสร้างนโยบายในการพัฒนาให้กับทุกคนที่นี่อีกครั้งในการมาเยือนในครั้งต่อๆ ไป" นายธนาธร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายธนาธรและทีมงานได้เดินทางพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการในพื้นที่จริงที่ตลาดปันสุข ที่ภาคประชาสังคม โดย มูลนิธิพัฒนาป่าตอง ได้เปิดพื้นที่บริเวณลานจอดรถ โรงแรมป่าตอง เบย์ฮิลล์ เรสซิเดนซ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ให้พ่อค้าแม่ขายที่เคยขายของอยู่ริมหาดป่าตอง และได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มาเปิดร้านขายของเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งนายธนาธรได้ร่วมอุดหนุนซื้ออาหารที่ตลาดหลายร้าน นำไปรับทานร่วมกันกับทีมงานและผู้สนับสนุน พบปะพูดคุยกันในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ก่อนจะร่วมกันกิจกรรมกับกลุ่มขยะมรสุม ที่เป็นอาสาสมัครเยาวชนที่ดูแลหาดป่าตอง ในการร่วมกันเก็บขยะบนชายหาดด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |