29 มิ.ย.2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับพระราม 2 สาย ธนบุรี – ปากท่อ  !ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ของกรมทางหลวง แล และโครงการทางพิเศษสาย พระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก  (สัญญาที่ 2) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ว่า การลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการเริ่มก่อสร้างและร่วมบูรณาการการทำงานของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง  ลดผลกระทบการจราจรติดขัด เนื่องจากบริเวณสองข้างทางของถนนพระราม 2 มีชุมชนหนาแน่นและมีปริมาณจราจรประมาณ 200,000 คัน/วัน นอกจากนี้ ถนนพระราม 2 ถือเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมขนส่งสู่ภาคใต้ ซึ่งโครงการนี้จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จในปี 2565

“ยืนยันว่าการก่อสร้างจะไม่มีการลดช่องจราจร และจะเริ่มก่อสร้างเป็นช่วงๆช่วงละ 1-1.5 กม. เสร็จแล้วถึงจะเริ่มสร้างจุดต่อไป และจะไม่มีการปิดถนนยาวขณะที่ยังไม่ก่อสร้างเด็ดขาด ส่วนเส้นทางกลับรถนั้นเส้นทางนี้จะไม่มีที่ยูเทิร์น แต่จะก่อสร้างเกือกม้าแทน ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวจะมีทั้งหมด6 จุด และจะก่อสร้างทีหลังหลังจากพื้นราบแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันประชาชนที่ใช้ทางเส้นทางนี้สามารถติดตามจราจรจากแอปพลิเคชั่น Thailand Highway Traffic  ของกรมทางหลวงเป็นการเช็คการจราจรแบบ Real Time ว่าขณะนี้การจราจรเป็นอย่างไร มีการก่อสร้างจุดไหนบ้าง เพื่อที่จะได้ตัดสินใจถูกในการเลือกใช้ทาง”นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวต่ออีกว่า หากเส้นทางนี้แล้วเสร็จยืนยันว่าต่อไปจะไม่มีการก่อสร้างบนถนนพระราม2อีก เนื่องจากการกระทรวงคมนาคม ได้เล็งการพัฒนาเพื่อขยายขีดความสามารถเพิ่มเส้นทางที่จะเดินทางลงสู่ภาคใต้ เส้นทางใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) นครปฐม-ชะอำ ซึ่งจะเป็นเส้นทางลงสู่ภาคใต้อีกทางเลือกหนึ่ง โดยโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)ให้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือคณะกรรมการพีพีพี พิจารณาก่อนเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.)หลังจากนั้น 2สัปดาห์ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี64

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า ทล. จะเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สาย ธนบุรี –  ปากท่อ ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ระยะทางประมาณ 8.335 กิโลเมตร โดยจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างจำนวน 2 จุดก่อน ได้แก่ กม.14+000 ถึง กม.15+000   และ กม.18+000 ถึง กม.20+295 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานงานด้านการจัดการจราจรกับท้องที่และตำรวจ  ทั้งกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และ สน.แสมดำ พร้อมประชุมเชิงบูรณาการกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย   มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ยังมีช่องจราจรจำนวน 12 ช่องจราจรเช่นเดิม (ทิศทางละ  6 ช่องจราจร) เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบน้อยที่สุด