พ่อฟ้าไม่หยุดฝัน! ตั้งเป้าลุยส่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น คุมพื้นที่ในระดับฐานราก ขณะที่นักวิชาการเขย่ารัฐบาลบิ๊กตู่ อปท.พร้อมมา 8 ปีแล้ว ไม่ต้องรองบฯ ซัดต้องคำนึงถึง ปชช.เป็นหลัก ไม่ใช่ความพร้อมพรรคการเมือง

    เมื่อวันอาทิตย์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า  ร่วมกับนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล, นายชารีฟ อนันตศาสน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จ.ภูเก็ต พรรคอนาคตใหม่ และทีมคณะก้าวหน้า พบปะพูดคุยกับชาวภูเก็ต ภายใต้หัวข้อ "ก้าวไปกับคณะก้าวหน้า"
    นายธนาธรกล่าวว่า เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ส.ส.ในพรรคได้ไปเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 54 คน สานต่อนโยบายเดิมของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคนที่ถูกตัดสิทธิ์จากพรรคอนาคตใหม่มารวมตัวกันเป็นคณะก้าวหน้า รณรงค์ปักธงความคิดส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมืองสู่ระดับฐานราก
    "คณะก้าวหน้าจะส่งผู้สมัครเข้าไปทำงานการเมืองระดับ อบจ., เทศบาล และ อบต. เพื่อให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ประชาชนมีงานทำทุกคน ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เหล่านี้เป็นภารกิจสำคัญที่จะทำวันนี้ เพื่อต้องการชักชวนคนภูเก็ตที่รักบ้านรักเมืองมาร่วมกันในแนวทางที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน โดยประกาศเจตนารมณ์ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ อบจ. 76 แห่ง, เทศบาล 2,454 แห่ง, อบต. 5,320 แห่ง และการปกครองรูปแบบพิเศษ กทม.และพัทยา รวมทั้งหมดกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ" นายธนาธรระบุ   
    นายธนาธรระบุต่อว่า เชื่อว่าเราทำได้ มีนโยบายมีแนวคิดที่ดี โดยจะแข่งขันด้วยนโยบาย ซึ่งการจัดทำนโยบายที่ดีมาจากการรับฟังความเดือดร้อนจากประชาชน ทำให้การเมืองเป็นเรื่องนโยบายไม่ใช่ผลประโยชน์ ขอให้มาร่วมกันในการเมืองระดับท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศไทยจะเปลี่ยนได้ต้องมาจากระดับข้างล่างขึ้นข้างบน ขอย้ำว่าเราต้องสร้างการเมืองท้องถิ่นที่มีคุณภาพ แข่งขันด้วยนโยบาย
    วันเดียวกัน นายบรรณ แก้วฉ่ำ นักวิชาการด้านการกระจายอำนาจ ในฐานะอนุกรรมาธิการและเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อรับฟังความเห็นและประเมินความพร้อมการจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกประเภท ก่อนนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาความเหมาะสม
    “ได้เสนอให้มีการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เริ่มจากกรุงเทพมหานคร ท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สามารถจัดพร้อมกันได้ ขณะที่เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเมืองพัทยา เป็นอีกกลุ่มที่อาจจะจัดพร้อมกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกพร้อมกัน สำหรับประเด็นควรเลือกตั้งประเภทใดก่อน ยืนยันว่า อปท.ทุกประเภทสามารถจัดเลือกตั้งทันที โดยเทียบให้เห็นกรณีหมดวาระตามปกติ มีเวลาเพียง 45 วัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมความพร้อมได้ทัน แต่ที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมนานกว่า 8 ปี" นายบรรณระบุ
     นายบรรณกล่าวว่า ที่ประชุมสอบถามว่าจะมีอุปสรรคเรื่องงบประมาณหรือไม่ และจะต้องรองบประมาณปี 2564 หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าสามารถใช้งบประมาณปี 2563 จัดเลือกตั้งได้ทันทีแต่โดยทางปฏิบัติ รัฐบาลควรจัดสรรงบมาให้ อปท.โดยตรง และปรับแก้ระเบียบปฏิบัติให้ชัดเจน
    “หากไม่สนใจจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเว้นช่วงมาหลายปี จะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะใช้สิทธิเลือกผู้นำท้องถิ่น โดยการพิจารณาจัดการเลือกตั้งจะต้องคำนึงถึงประชาชน ไม่ใช่คำนึงถึงความพร้อมในการสรรหาผู้สมัครของพรรครัฐบาลมาลงสมัครในการเลือกตั้งท้องถิ่น” นายบรรณกล่าว.