"ตู่-จตุพร" แจงยิบ ทำไมไม่มีชื่อเป็นจำเลยคดีบุกบ้านป๋าเปรม โวยโดนเล่นเกมสกปรกหาว่ารอดคนเดียว ประกาศเชื่อไม่รอด เพียงแต่คดียังไม่จบ "แรมโบ้" เดินสายอีสาน จับมือ "อานนท์" อดีตประธานหมู่บ้านคนเสื้อแดง สลายกำลังแดงมาหนุนบิ๊กตู่
หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้ตัดสินจำคุกอดีตแกนนำ นปช.คนเสื้อแดง ในคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 โดยตัดสินจำคุกนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวระหว่างจัดรายการที่พีซทีวีว่า จากกรณีดังกล่าว มีข่าวว่าตนอยู่ในสำนวนที่ 2 เพราะอัยการได้แยกฟ้อง เรื่องนี้เดิมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ควรจะเป็นเรื่องกันได้เลย บรรดาตำรวจชุดเจรจาขณะนี้เกษียณกันไปแล้ว มีหลายคนที่เกี่ยวข้อง จากอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามก็มาอยู่ในฝ่ายเดียวกัน หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเราก็พยายามทบทวนความจำทั้งหลายว่า หากไม่มีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม แม้บนเวทีประกาศว่าจะอยู่กันจนรุ่งสางก็ตาม แต่ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ชุดเจรจา เพราะในขณะนั้นก็ไม่รู้ว่ามีมือที่ 3 เท้าที่ 4 เริ่มผสมกันมากมาย คดีนี้เมื่อเข้าไปถึง จากชั้นพนักงานสอบสวนไปสู่พนักงานอัยการ ปรากฏว่าอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทำให้เรื่องถูกส่งกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในขณะนั้นพ้นจากตำแหน่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในฐานะผบ.ตร.ในยุคนั้นมีความเห็นแย้งต่ออัยการ เมื่อตำรวจกับอัยการมีความเห็นแย้งกัน ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาก็ให้อำนาจเป็นของอัยการสูงสุด ในขณะนั้นคือนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นผู้ชี้ขาดว่าสั่งฟ้อง ต่อมาเมื่อนายชัยเกษมพ้นจากตำแหน่งก็มาเป็น รมว.ยุติธรรม สังกัดพรรคเพื่อไทย และชี้ขาดว่าสั่งฟ้อง เป็นการสวนทางกับอัยการเดิม ทำให้มีการแยกเป็น 2 สำนวนฟ้อง โดยสำนวนแรกคือบรรดาหมู่มิตรทั้ง 5 คนที่ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ส่วนสำนวนที่ 2 คือ ตน, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และมีบุคคลอื่นๆ ซึ่งคดีเดินหน้าต่อไป เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาต่อไปตามสำนวนที่ 2 คดีนี้ที่ได้ไปนั่งฟังและให้กำลังใจบรรดาหมู่มิตรมานั้น เราเข้า-ออกคุกมา 4 รอบแล้วย่อมเข้าใจ ในการอ่านคำวินิจฉัยในคดีก็พ่วงชื่อตนเป็นระยะๆ คนที่อยู่ในศาลก็รู้ว่าโอกาสรอดนั้นเท่ากับศูนย์
"มีความพยายามเล่นเกมสกปรกโดยพยายามอธิบายว่าคดีนี้ผมรอดเพียงคนเดียวนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเชื่อว่าผมไม่รอด เพียงแต่พอยังมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ตลอดการต่อสู้ของทุกฝ่ายในห้วงกว่า 10 ปีนี้ไม่ควรจะมีใครต้องมาติดคุก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม เพราะแต่ละฝ่ายแม้ความเชื่อจะแตกต่างกัน แต่การต่อสู้ทางการเมืองก็ไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ กันทั้งสิ้น" ประธาน นปช.กล่าว
วันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุมตักสิลาคอนเวนชั่น โรงแรมตักสิลา อ.เมืองฯ จ.มหาสารคาม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรับมอบคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด และได้มอบป้ายเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ให้กับผู้นำเครือข่ายวิสาหกิจฯ ทั้ง 20 จังหวัด ที่มาร่วมพิธีกว่า 1,000 คน โดยมีนายอานนท์ แสนน่าน อดีตประธานเครือข่ายหมู่บ้านคนเสื้อแดง แห่งประเทศไทย และแกนนำ ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง โดยในงานมีการเชิญอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัดขึ้นมอบคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง และนายสุภรณ์ได้มอบป้ายและธงหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน เรารักประเทศไทย "รวมไทย สร้างชาติ" ตามแนวนโยบายของรัฐบาล
นายสุภรณ์ได้กล่าวปราศรัยในงานดังกล่าวตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่อยากจะเห็นคนไทยทุกหมู่เหล่าทุกภาคส่วน มีความสมัครสมานสามัคคี ปรองดอง ไร้ความขัดแย้ง ไม่มีแบ่งสีแบ่งฝ่าย ให้คนไทยทุกคนรวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้แนวทาง "รวมไทย สร้างชาติ".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |