เห็นภาพของโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ นี้แล้วสะท้อนชัดเจนถึงจุดยืนคนละด้านของสองคนที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

                ไบเดนจากพรรคเดโมแครตบอกว่าถ้าเขาได้เข้านั่งทำเนียบขาวจะออกกฎให้คนอเมริกันทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ

                ทรัมป์ยืนยันว่าเขาไม่ใส่หน้ากาก เพราะไม่เชื่อว่ามันจะป้องกันไวรัสโควิดได้

                ทรัมป์อ้างว่าที่ตัวเลขคนติดเชื้อของคนอเมริกันสูงที่สุดในโลก ก็เพราะมีการตรวจคัดกรองมากที่สุดในโลกเช่นกัน

                ดังนั้นในความเห็นของทรัมป์ ถ้าลดการตรวจ จำนวนคนติดเชื้อก็จะลดลงไปเอง

                นี่คือตรรกะเพี้ยนๆ ของผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกที่สร้างความงุนงงไปทั่วโลกวันนี้

                แต่ที่แน่ๆ คือคนทั้งโลกกำลังมีความประหวั่นพรั่นพรึงกับจำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตของสหรัฐอเมริกาที่พุ่งขึ้นอย่างสูงตลอดเวลา

                ยอดติดเชื้อใหม่รายวันของสหรัฐฯ พุ่งสูงทำสถิติใหม่เกือบทุกวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

                พร้อมกับข้อมูลที่น่ากลัวมากๆ ว่าอาจมีผู้คนมากกว่า 20 ล้านคน ในอเมริกาที่ติดเชื้อ โควิด-19

                หากเป็นจริงก็จะเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่รายงานถึง 10 เท่าตัว

                วันที่ผมเขียนคอลัมน์อยู่นี้ (เสาร์ที่ 27 มิถุนายน) ตัวเลขคนติดเชื้อต่อวันของสหรัฐฯ สูงถึง 44,000 และตาย 558 คน

                ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกของโลกเมื่อเดือนธันวาคม

                ตัวเลข 20 ล้านนี้ไม่ใช่สถิติที่ปล่อยออกมาจากฝ่ายต่อต้านทรัมป์

                แต่แหล่งข้อมูลคือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ที่เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกา อาจจะมากกว่าที่รายงานถึง 10 เท่า

                เป็นตัวเลขที่อ้างอิงจากการประเมินผลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ที่รายงานยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาล่าสุดอยู่ที่ 2.5 ล้านคน

                นั่นหมายความว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในอเมริกาอาจมากกว่า 20 ล้านคนไปแล้ว

                คำอธิบายจาก CDC คือการประเมินสถานการณ์จากการเก็บตัวอย่างเลือดจากผู้คนทั่วประเทศ พบว่ามีหลายกรณีที่ไม่พบเชื้อ เพราะไม่สามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้ทันการ

                หรือไม่ก็เพราะเน้นการตรวจหาเชื้อกับผู้ที่แสดงอาการเป็นส่วนใหญ่

                หน่วยงานป้องกันโรคระบาดหลักของสหรัฐฯ หรือ CDC จึงประเมินว่า ตอนนี้ชาวอเมริกันราว 6% จากกว่า 300 ล้านคนทั่วประเทศ ติดโควิด-19 แล้ว

                ตัวเลขนี้ทรัมป์ไม่ยอมรับรู้ เพราะยังยืนยันว่าอีกหน่อยโรคระบาดนี้ก็จะหายไปเอง

                เพราะเขาต้องการจะสร้างภาพทางบวกเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง

                ข่าวร้ายใดๆ เกี่ยวกับโควิดจะมีการปฏิเสธจากทรัมป์...แต่ขณะเดียวกันก็จะถูกย้อนแย้งโดยนายแพทย์ใหญ่ Anthony Fauci ตลอด

                ล่าสุดคุณหมอออกมาบอกกล่าวกับประชาชนคนอเมริกันให้ “จริงจัง” กับการแพร่เชื้อที่รุนแรงขึ้น อย่าทำเป็นเล่นไป หายนะกำลังรออยู่ถ้ายังประมาท

                ที่ต้องออกมาเตือนอย่างนี้ เพราะคุณหมอบอกว่าหลายรัฐทางตะวันตกและตอนใต้ของอเมริกา มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งสูงตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา

                ไม่ว่าจะเป็นแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย เนวาดา โอกลาโฮมา และเท็กซัส

                เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ว่าการรัฐเท็กซัส Greg Abbott ออกคำสั่งเร่งด่วนย้อนศรนโยบายการคลายล็อกมาตรการต่างๆ

                กลับมาจำกัดการดำเนินกิจการของธุรกิจและบริการบางอย่าง เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ

                เหตุเพราะเท็กซัสมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 50% ในช่วงสัปดาห์เดียว

                รัฐฟลอริดาก็หนาว รีบสั่งห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบาร์ เพราะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งเกือบ 9,000 รายวันเดียว

                คำสั่งใหม่นี้มีผลตั้งแต่เที่ยงวันศุกร์ เวลาท้องถิ่น สั่งให้บาร์ทั่วรัฐที่มียอดขายเหล้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของรัฐ ปิดทำการเสีย

                ส่วนธุรกิจที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ก็จำกัดให้เหลือแค่จัดส่งอาหารตามบ้านเท่านั้น

                ร้านอาหารก็ต้องลดกิจกรรมลง โดยให้เปิดรับลูกค้าได้ไม่เกิน 50% เริ่มวันจันทร์นี้

                หากมีการชุมนุมเกิน 100 คน ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่นก่อน

                ในหลายรัฐมีการบอกกล่าวเหตุผลที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะคนหนุ่มสาวที่ไม่ยอมสวมหน้ากาก ไม่รักษาระยะห่างทางสังคม

                มีผลให้คนสูงอายุต้องตกอยู่ในความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น

                อะไรๆ ในอเมริกากำลังเครียดจัด...จับตาให้ใกล้ชิดทุกฝีก้าวจากนี้ไป

                เพราะสหภาพยุโรปกำลังจะประกาศห้ามคนจากอเมริกาเข้าประเทศตราบเท่าที่ตัวเลขคนติดเชื้อยังพุ่งอย่างนี้

                มีหรือที่ทรัมป์จะยอมให้ยุโรปเล่นงานภาพลักษณ์ตัวเองอย่างนี้....คนที่ประกาศ Make America Great Again จะไม่ยอมให้คนอื่นตะโกน

                Make America Sick Again! แน่นอน.