สัปดาห์-สองสัปดาห์ที่ผ่านมา...คงต้องสารภาพตรงๆ นั่นแหละว่า เท่าที่มีโอกาสได้อ่านข่าว-ฟังข่าว พรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง พรรคพลังประชารัฐ แล้ว ออกจะเหน็ด เหนื่อย เมื่อยล้า อยู่พอสมควร แถมบางครั้ง บางครา ยังส่งผลให้เกิดอาการมวนท้อง มวนลำไส้ ตามมาอีกด้วยต่างหาก!!!

                                        ------------------------------------

                แต่ก็เอาเป็นว่า...นับจากนี้ก็คงเข้าช่อง เข้าร่อง กันไปตามสภาพ พอที่จะ อยู่ๆ กันไป โดยอาศัยบารมีของหัวหน้าพรรคคนใหม่อย่าง บิ๊กป้อม ที่อุตส่าห์กระย่อง กระแย่ง  เข้ามาช่วย บายพาส ส่วนจะอยู่กันในแบบไหน อย่างไร อยู่เป็น-อยู่ไม่เป็น ก็คงต้องว่ากันไปตาม ธรรมชาติทางการเมือง ในแบบฉบับ โอลด์ นอร์มอล ทั้งหลาย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ส่วนผู้ที่อยู่เป็น หรืออยู่ไม่เป็นก็แล้วแต่ แต่น่าจะ อยู่ไม่ได้ หรืออยู่ในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เลขาธิการพรรค อีกต่อไปไม่ได้ ต้องถูกกวาดเกลี้ยงไปเป็นแถบๆ จะต้องถูกกวาดออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรี ไปด้วยหรือไม่ อันนี้...คงต้องตามไปลุ้นกันดูอีกที...

                                    -----------------------------------------------

                คือถ้าหากทั้ง 4 กุมาร...มีอันต้องหลุดไปจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่กันแบบทั้งแผง ทั้งยวง อย่างที่ใครต่อใครซุบซิบ นินทา เอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า...ไม่ใช่แค่ส่งผลให้เกิดอาการมวนท้อง มวนลำไส้ แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดอาการขนลุกขนพอง ขนหัวลุก ขนคอตั้ง หรือออกจะเป็นอะไรที่น่าสยดสยองอยู่พอสมควร พูดง่ายๆ ว่า...มันคงไม่ได้ก่อให้เกิดบรรยากาศอันสอดคล้อง กลมกลืน ไปกับความพยายามสร้างสิ่งที่เรียกว่า ความร่วมมือ-ร่วมใจ มากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสำหรับบรรดาพวก มืออาชีพ หรือบรรดา เทคโนแครต ทั้งหลาย...

                                  --------------------------------------------------

                เพราะขนาดเทคโนแครตอย่างพวก 4 กุมาร ที่พยายามปรับเนื้อ ปรับตัว ปรับสภาพยังไงก็แล้วแต่ ยังหนีไม่พ้นต้อง โดนร่วม แบบเจ็บแล้ว เจ็บอีก ระบมไปถึงริดสีดวง ทวารเอาเลยถึงขั้นนั้น โอกาสที่บรรดามืออาชีพ ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย จะกล้าเสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย โดดมาร่วม ครม.ชุดใหม่ของ บิ๊กตู่ โดยมีพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ ที่มี บิ๊กป้อม เป็นผู้นำ และเป็นตัวชี้เป็น ชี้ตาย การอยู่-การไปของรัฐบาลในแต่ละย่างก้าว คงเป็นอะไรที่น่าหวาดหวั่น ขวัญสยองเอามากๆ เรียกว่า...ถ้าไม่ กินดีหมี-หัวใจเสือ ไม่รักชาติจนน้ำลายกระเด็น คงไม่น่าจะมีใครอยากโดดเข้าสู่ พงหนาม มากมายซักเท่าไหร่นัก...

                                --------------------------------------------------

                คือการจัดแผง จัดกระบวนทัพ ระหว่าง บุคลากรทางการเมือง ยังไงๆ..มันคงต้องต่างไปจาก บุคลากรทางการแพทย์ แบบคนละเรื่อง คนละม้วน เพราะสำหรับบุคลากร ทางการแพทย์นั้น ถือเป็นเรื่อง เฉพาะกิจ ที่เอาไว้รับมือกับสถานการณ์โดยเฉพาะ อย่างเช่นการสู้กับเชื้อ COVID-19 โดยตรง การสร้างกรอบ การขีดเส้นแบ่ง หน้าที่และความรับผิดชอบ มันจึงพอทำได้แบบค่อนข้างจะรัดกุมกันพอสมควร แต่สำหรับบุคลากรทางการเมืองนั้น มันออกจะหากรอบ หาเส้นแบ่ง ได้ยากลำบากเอามากๆ แค่แบ่งมาก แบ่งน้อย แบ่งแล้วไม่ถูกใจ ไม่พอใจ ก็มักต้องเกิดการ แย่งหน้าที่ โดย ไม่คิดจะ รับผิดชอบ ใดๆ เอาเลยก็ว่าได้...

                                  ----------------------------------------------------

                ดังนั้น...ต่อให้เป็น ประสาร-ปรีดี-ไพรินทร์ ก็เถอะ!!! ถ้าหาก ไม่รู้จักแบ่ง โดยไม่ต้องสนใจต่อ ความรับผิดชอบ โอกาสที่จะทวารบาน หรือริดสีดวงระบม ไม่ต่างไปจาก 4 กุมาร ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ยิ่งประเภทอ้อนๆ แอ้นๆ แบบ ประสาร ด้วยแล้ว แค่หลับตานึกภาพก็อดสยดสยอง พองขน ขึ้นมาไม่ได้ และน่าจะด้วย จินตนาการทำนองนี้นี่เอง ที่คงทำให้บรรดาพวกผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งหลาย อาจ ถอดใจ หรือ หมดใจ ต่อการสร้าง ความร่วมมือ-ร่วมใจ ตามที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านได้เรียกร้อง วิงวอน เอาไว้ก่อนหน้านี้...

                                  ---------------------------------------------------

                และถ้าการจัดรูป จัดแผง จัดกระบวนทัพ สำหรับ บุคลากรทางการเมือง ดันไม่ได้ออกไปในแนวแบบ บุคลากรทางการแพทย์ ขึ้นมาซะอย่างแล้ว อันนี้นี่แหละ...โอกาสที่จะขนหัวลุกกันไปทั้งบ้าน ทั้งเมือง ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ด้วยเหตุเพราะ เชื้อไวรัสทางเศรษฐกิจ ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า มันออกจะร้ายกาจ ร้ายแรง โหดเหี้ยมอำมหิต ไม่น้อยไปกว่า เชื้อ COVID-19 มากมายซักเท่าไหร่นัก เผลอๆ...อาจโหดกว่า เหี้ยมกว่า เอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะเมื่อบรรดา อุปกรณ์และเครื่องมือ ต่างๆ ได้ถูกใช้ไปแทบหมดแล้ว...

                                  -------------------------------------------------

                ซึ่งก็แน่นอนนั่นแหละว่า...ยิ่ง เชื้อไวรัสทางเศรษฐกิจ มันแพร่ระบาดหนักขึ้นไปเท่าไหร่ ย่อมส่งผลให้ เชื้อไวรัสทางการเมือง มันยิ่งต้องแพร่ระบาดตามมา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ โดยโอกาสที่จะใช้การเมืองแบบ โอลด์ นอร์มอล ไประงับยับยั้ง ไปถ่วง ไปรั้ง แทบเป็นไปไม่ได้แม้แต่น้อย มีแต่ต้อง นิว นอร์มอล กันทั้งแผง  ทั้งกะบิ หรือทั้งกระบวนการเอาเลยถึงขั้นนั้น ถึงอาจจะพอ เอาอยู่ ได้บ้าง แต่จะ นิว นอร์มอล กันในแบบไหน วิธีไหน และอย่างไร อันนี้...คงต้องไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน!!!

                                   -----------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Seneca... “If a man does not know to what port he is steering, no wind is favorable.- ถ้าหากผู้ถือท้ายเรือยังดันไม่รู้ว่าควรนำเรือ ไปยังท่าแห่งไหน ลมก็ไร้ประโยชน์...”

                                   --------------------------------------------------