ช้างป่าประจวบคีรีขันธ์ตายเป็นตัวที่ 4 ในรอบเดือน ล่าสุดเป็นช้างสีดอเพศผู้หนักกว่า 2 ตัน ถูกคนเฝ้าสวนยางยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่หัว อ้างช้างวิ่งเข้าชาร์จจึงต้องป้องกันตัว
เมื่อคืนวันเสาร์ นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รับแจ้งเหตุช้างป่าถูกยิงตายในสวนยางพาราบ้านรวมไทย หมู่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงส่งเจ้าหน้าที่พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านยางชุม ร่วมตรวจสอบ พบจุดเกิดเหตุอยู่ในสวนยางด้านหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) พบช้างสีดอ เพศผู้ อายุประมาณ 25-30 ปี สูง 270 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน ล้มหัวทิ่มอยู่ในร่องน้ำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเลือดไหลออกจากหัวใกล้กับกกหูและบริเวณใบหน้า ทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายณรงค์ อรภักดี ชาวบ้านที่เฝ้าไร่อยู่ในบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ยางชุม เบื้องต้นนายณรงค์ยอมรับว่าเป็นคนยิง เนื่องจากช้างตัวดังกล่าววิ่งมาทางตน จนเข้ามาใกล้จึงยิงไป 1 นัดเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากกลัวจะโดนช้างทำร้ายเหมือนเหตุการณ์ช้างเหยียบคนเสียชีวิต
พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 4 ข้อหากับนายณรงค์ คือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และกระทำความผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
ด้านเจ้าหน้าที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้รับแจ้งมีช้างออกมารบกวนกินพืชไร่ของชาวบ้าน จึงได้ทำการผลักดันให้กลับเข้าป่า ซึ่งช้างสีดอตัวดังกล่าวได้หนีมาโดยมุ่งหน้ามาทางโครงการกุญชรและผ่านสวนยาง ซึ่งมีนายณรงค์เดินเฝ้าอยู่ และมุ่งตรงทางนายณรงค์ จนถูกนายณรงค์ยิงสวนจนตายคาที่ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนนายณรงค์อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนซากช้าง ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ และทางทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ จะทำการผ่าพิสูจน์หาร่องรอยของกระสุนต่อไป โดยช้างป่ากุยบุรีตัวนี้ถือเป็นช้างป่าที่ตายเป็นตัวที่ 4 ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
นายธรรมนูญ เต็มไชย หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ จ.เพชรบุรี ส่วนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีพบช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีตายผิดธรรมชาติต่อเนื่อง 4 ตัว ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม-28 มิถุนายน 2563 ในฐานะที่รับผิดชอบในพื้นที่ป่ากุยบุรีซึ่งมีช้างมากกว่า 300 ตัว ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก และหลายหน่วยงานต้องเร่งรัดหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ปัญหานี้นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าเหมือนในอดีต
ทั้งนี้ เดิมการแก้ปัญหาพื้นที่ป่ากุยบุรีได้วางแผนไว้ 3 ระยะ โดยมีการดำเนินการในระยะแรกเมื่อปี 2558 และประสบความสำเร็จพอสมควร ทำให้กุยบุรีเป็นพื้นที่นำร่อง ทั้งเครือข่ายคณะทำงาน การมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งการจัดการภายในของอุทยานฯ จากนั้นยอมรับว่ามีอุปสรรคในการทำงานระยะที่ 2 และระยะที่ 3 เนื่องจากหลายหน่วยงานไม่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาจากการทำงานด้านมวลชน ซึ่งควรจะเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการเสนอแนวทางและร่วมแก้ไขปัญหา
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 ช้างป่าเพศผู้มีงา อายุ 7 ปี หนักประมาณ 700 กิโลกรัม ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง นอนเจ็บในไร่ขนุนบริเวณที่ดิน ส.ป.ก.หุบหนองเสือ บ้านวังไทร หมู่ 7 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่จะตายใน 3 วันต่อมา จากนั้นวันที่ 2 มิ.ย.63 พบซากช้างป่าขนาดใหญ่ริมห้วย บริเวณสวนมะม่วง หมู่ 5 บ้านกระทุ่น ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบที่งวงมีรอยไหม้พันติดอยู่กับลวดสายไฟ ตายจากถูกไฟฟ้าชอร์ต วันที่ 12 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่อุทยานพบซากช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี ไม่มีงา จมในสระน้ำ หมู่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี มีกระสุนปืนลูกซองฝังอยู่ในผิวหนังช้างหลายจุด และล่าสุดช้างป่าถูกคนเฝ้าไร่มะม่วงยิงตาย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |