ห้ามเยี่ยม 4 แกนนำ นปช. ถูกกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 "นิพิฏฐ์" เขียนถึงคนพัทลุงบ้านเดียวกัน "วีระกานต์-วิภูแถลง" ขอให้พี่รักษาสุขภาพและออกมาใช้ชีวิตข้างนอกในไม่ช้านี้ ขณะที่ "พิภพ" ตอก "สุชาติ" แกนนำพันธมิตรฯ ก็ติดคุกกันเพียบ

    เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ทีมงานของ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก นพ.เหวง ว่าแจ้งข่าวเรื่องการงดเยี่ยมแกนนำ นปช. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีคนจำนวนมากสอบถามถึงการเข้าเยี่ยมแกนนำ นปช. ที่ถูกจำขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งทางญาติของแกนนำ นปช. ได้รับแจ้งว่าแกนนำทุกคนต้องเข้ารับการกักตัว 14 วัน ไม่ให้บุคคลภายนอก รวมถึงญาติเข้าเยี่ยม โดยทางเรือนจำได้ให้เหตุผลว่าเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 หรือโคโรนาไวรัส ให้ทนายความเท่านั้นที่สามารถเยี่ยมได้
       ทั้งนี้ ทางทนายความและญาติของแกนนำบางส่วนจะเข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้อีกครั้ง สำหรับรายละเอียดการเยี่ยมภายหลังจากนี้ จะได้แจ้งทางเพจดังกล่าวหรือช่องทางอื่นต่อไป
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงคดีดังกล่าวว่า ปิดฉากคดีบุกบ้านพลเอกเปรม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ศาลฎีกาตัดสินจำคุกจำเลยกรณีบุกบ้านพลเอกเปรม 2 ปี 8 เดือน ในจำนวนนั้น มี 2 คนที่ถือได้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกับผม คือพี่วีระ มุสิกพงศ์ อดีต ส.ส.พัทลุง และพี่แถลง หรือวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ในทางการเมืองเราอยู่ตรงข้ามกันมาตลอด และเราสู้กันมาอย่างเอาจริงเอาจัง ตามแนวทางที่เราเห็นต่างกัน
        ครั้งหนึ่งตอนที่พี่ยกพวกมาบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ผมอยู่ในสโมสรทหารบก เทเวศร์ เพื่อต่อสู้กับพี่ (แต่เราไม่ได้เจอกัน) เวลาเจอกันข้างนอกเราก็ไม่คุยกันเรื่องการเมือง แต่เราคุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศ ถามเพียงเรื่องสุขภาพซึ่งกันและกัน พี่วีระลงสมัคร ส.ส.แข่งกับผมหลายครั้ง จุดแข็งของเราคือเราเคารพประชาชน เราต่างไม่ซื้อเสียง ถ้าพี่วีระซื้อเสียง ผมก็คงไม่ได้เป็นผู้แทนของคนพัทลุง เมื่อแพ้-ชนะ เราจึงไม่โกรธกัน ผมเคารพพี่ในเรื่องนี้
         "ผมไม่ตัดสินแนวคิดทางการเมืองของพี่ แต่เมื่อพี่เดินมาถึงจุดหมายปลายทางของการต่อสู้แล้ว ผมก็เคารพการต่อสู้นั้น ขอให้พี่รักษาสุขภาพและออกมาใช้ชีวิตข้างนอกในไม่ช้านี้" นายนิพิฏฐ์ ระบุ
    ทั้งนี้ หลังจากศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษายืนจำคุกแกนนำนปช. นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ แนวร่วมคนเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาเชิงประชดประชันว่า คดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็น Sound of Silence หรือ มีแต่ความเงียบ ไม่มีความคืบหน้า
    ต่อมา นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Pibhop Dhongchai ชี้แจงว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม.ถูกศาลฎีกาพิพากษาลงโทษ 5 แกนนำ 1 ผู้ประสานงานให้จำคุกคนละ 8 เดือน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ในคดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วัน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปีกว่า ศาลอุทธรณ์ลดโทษเหลือ 8 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกคนละ 8 เดือน และขณะนี้ทางทำเนียบรัฐบาลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอีกกว่า 10 ล้านบาท ต่อแกนนำและผู้ประสานงาน คดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีที่ศาลแพ่ง
        ส่วนคดีสนามบินถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้ายซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์จำเลยในคดีนี้มีกว่า 90 คน ส่วนคดีแพ่ง 2 คดี มีคดีการท่าฯ และหอบังคับการบิน คดีสิ้นสุดที่ศาลฎีกาไปแล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยเกือบพันล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ทั้งแกนนำ พธม.ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อยู่
         และที่มวลชนบุก NBT ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลืออีกสองสามคนที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และก็ยังมีบางคนที่ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร
        ส่วนตัวผมเองและพรรคพวกนั้น ก็อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนกบฏ ในคดีการชุมนุม คปท. แต่ถูกฟ้องร่วมในคดีของ กปปส.ที่โดนข้อหากบฏ
         ในระหว่างการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มวลชน พธม.ถูกลอบยิงด้วย M 79 เกือบทุกคืน ทำให้มีคนตายไป 10 คน และบาดเจ็บพันกว่าคน พิการ 4 คน
       นอกจากนี้ มวลชน พธม.ยังถูกตำรวจล้อมปราบที่บริเวณหน้ารัฐสภา ตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงหัวค่ำในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อย่างโหดเหี้ยม โดยผู้สั่งการของฝ่ายรัฐบาลที่ถูก ป.ป.ช.ฟ้องร้อง ถูกศาลยกฟ้องทั้ง 5 คน
         ในสมัยนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.ยังถูกลอบยิงตอนเช้ามืด กลางกรุงเทพมหานคร ด้วยกระสุนสองร้อยกว่านัดพร้อมกระสุน M 79 ทำให้บาดเจ็บสาหัสร่วมกับคนขับรถ จนบัดนี้ยังจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว
        นี่ยังไม่นับเหตุการณ์การชุมนุมของ คปท.และ กปปส. ที่ถูกลอบยิงทั้งกระสุนปืนและ M 79 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเช่นเดียวกับการชุมนุมของ พธม. ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
         จึงรายงานมาเพื่อทราบ เพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริงของประชาชนทุกหมู่เหล่า
         ขณะที่ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Puangtip Boonsanong ว่า “Sound of silence คิดๆ ดูอีกทีก็จริง ในวันที่พี่กูน้องกูเกือบร้อยคนกับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือต้องถูกใส่กุญแจมือเดินเรียงแถวขึ้นรถเรือนจำ ก็ไม่เห็นมีใครแหกปากเรียกร้องหาความยุติธรรมอะไร ทุกคนเงียบ เดินเชิดหน้า อย่างมีเกียรติ เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ในวันที่พี่กูน้องกูต้องสื่อสารผ่านทางลูกกรง ก็ไม่ได้โวยวายขอความเห็นใจจากใคร วันที่ออกจากเรือนจำ พี่น้องกูบางคนตกงาน เมียทิ้ง และมีคนที่พ้นโทษออกมาแล้วเสียชีวิตเพราะป่วยในคุก มีใครได้ยินเสียงเขาเหล่านั้นบ้าง พี่น้องเสื้อแดงหลายคนก็เป็นเช่นกัน Sound of silence”.