ตำรวจยืนยันเครื่องตรวจปัสสาวะทั่วโลกยอมรับใช้กันแพร่ในต่างประเทศ และพร้อมให้"เสก โลโซ"ฟ้องร้องได้หากเห็นว่าทำเกินกว่าเหตุกรณีบุกบ้านตามหมายศาล

8 ม.ค.61 ที่สำนักงานตรำวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือเสก โลโซ นักร้องชื่อดัง แสดงความไม่มั่นใจการกระบวนการตรวจปัสสาวะของเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันไม่ได้ใช้สารเสพติดเป็นสารจากการทานยานอนหลับและยารักษาโรคไพโบล่าร์ ว่า การพิสูจน์ว่าผู้ใดใช้สารเสพติดหรือไม่นั้น ไม่ใช่เฉพาะกรณีของเสก โลโซ ไม่ว่าใครก็ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ว่าปัสสาวะที่เป็นสีม่วงเป็นสารชนิดใด

"การตรวจสอบสารเสพติดของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ ตำรวจทั่วโลกใช้กัน เครื่องมือตรวจสอบสารเสพติดที่ที่ใช้ตรวจปัสสาวะเสก โลโซ ก็ใช้ตรวจสารเสพติดกับคนทั้งประเทศนับล้านคนมีความแม่นยำ ผลการพิสูจน์สามารถนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรมจำนวนมาก ถึงแม้เบื้องต้นผลการตรวจปัสสาวะจะมีสีม่วง แต่ผลการตรวจสามารถแยกแยะได้ว่าปัสสาวะสีม่วงจากยาที่ทานเข้าไปหรือสีม่วงเพราะสารเสพติด และสามารถตรวจลึกลงไปได้อีกว่าสารเสพติดที่เสพเข้าไปเป็นสารเสพติดชนิดใด"  

ส่วนกรณีที่เสก โลโซ นำหลักฐานตัวยาชนิดต่างๆที่ทานอยู่มาแสดงต่อสื่อมวลชนนั้น กระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ ขณะเดียวกันทางเสก โลโซ บอกจะฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่บุกเข้าบ้านทำเกินกว่าเหตุนั้น ก็สามารถทำได้แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีเหตุและผลวิธีการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญาที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ ทุกอย่างมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติจะสามารถชี้แจงได้

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่นักร้องดังพยายามอ้างรู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงมีความคุ้นเคยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นั้น ไม่ทราบเจตนาของเสก โลโซ กระบวนการยุติธรรมอ้างความคุ้นเคยไม่ได้ เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ได้เข้าไปควบคุมการจับกุมตัวเสกเองที่บ้าน เกรงจะมีปัญหาในการจับกุมจึงลงไปบัญชาการด้วยตนเอง เรื่องนี้ถือว่า ผบ.ตร.มีความรับผิดชอบห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ สุดท้ายทุกฝ่ายปลอดภัย ยืนยันได้ว่ากฎหมายคือกฎหมายทำตามอำนาจหน้าที่ ใครทำผิดกฎหมายถึงจะสนิทกับใครกฎหมายไม่ได้ยกเว้นใช้กฎหมายฉบับเดียวกันทั่วประทศ

เมื่อถามถึงกรณีที่ เสก โลโซ โพสต์ภาพคู่กับตำรวจบ่อยครั้ง ต้องการดิสเครดิตของตำรวจหรือไม่ รอง ผบ.ตร.ตอบว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนจะใช้วิจารณญานอย่างไร เรื่องนี้ตำรวจทำงานตรงไปตรงมา ถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดีกับเสก กรณียิงปืนขึ้นฟ้า ตำรวจจะเป็นจำเลยสังคมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ต้องดูองค์ประกอบของการโพสต์ โพสต์ข้อความที่เป็นจริงหรือเป็นเท็จ หมิ่นประมาทผู้อื่นหรือไม่ หรือผิดกฎหมายอาญาขอ้หนึ่งข้อใดหรือไม่ ถ้าผิดก็เข้าองค์ประกอบ ถ้าไม่ผิดก็ไม่เข้าองค์ประกอบ ส่วนคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงออกนอกพื้นที่เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินการไปอย่างอิสระ ไม่ให้มีข้อครหา ถ้าไม่ผิดก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามเดิม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าให้เสก โลโซ มองกรีตูน บอดี้แสลม เป็นตัวอย่างที่ดี กลับตัวกลับใจให้ข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดกับเจ้าหน้าที่ ทำเพื่อสังคม พล.ต.อ.วิระชัย ตอบว่า ใครก็ตามที่เคยกระทำผิดมาแล้วกลับเนื้อกลับตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมควรให้อภัยผู้ที่กระทำความผิดแล้วกลับเนื้อกลับตัว รณรงค์ไม่ให้ใครกระทำความผิดซ้ำ   

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจนคบาล พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ เสก โลโซ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทำนองว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปจับกุมตนเองในบ้าน เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะตั้งใจจะมอบตัวอยู่แล้วหลังจากเสร็จคอนเสิร์ตที่พัทยานั้น ยืนยันว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมาย ตำรวจมีทั้งหมายค้นและหมายจับ และทั้งมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าตัวผู้ต้องหาอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวในขณะนั้น ส่วนที่เสก โลโซ อ้างว่าขอให้ตำรวจรอทนายความก่อน ตนยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องรอ เพราะทนายความเดินทางมาถึงแล้ว และได้คุยกับตำรวจแล้ว แต่ทางคุณเสกก็ยังไม่ยอมออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องบุกเข้าจับกุม แต่หากเสก มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็ให้ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ได้ทันที

ส่วนผลตรวจสารเสพติดในปัสสาวะของเสก แพทย์ได้จำแนกและยืนยันชนิดของสารเสพติดคือเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และ สารเอ็มดีเอ็มเอ ในกลุ่มประเภทยาอีชัดเจน การที่คุณเสกอ้างว่ามาจากการรับประทานยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและยารักษาโรคไบโพล่า หรือตำรวจไม่พบของกลางอุปกรณ์การเสพยาเสพติดภายในบ้านนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของคุณเสก แต่หลักฐานทุกอย่างชัดเจนอยู่ในผลตรวจร่างกายของคุณเสกอยู่แล้ว โดยขอให้ศาล รวมถึงสังคมเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนประเด็นเรื่องที่เสก อ้างว่าตนเองไปกล่าวหาว่าคุณเสกหลอนและเพี้ยนสามารถเสกพระพุทธรูปดินให้กลายเป็นเพชรได้ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กล่าวหาหรือพูดหมิ่นประมาทเช่นนั้น แต่เป็นการพูดคุยกัน เสกบอกเองว่า อยู่ๆพระก็กลายเป็นเพชรขึ้นมา ตนเองก็เพียงรับฟังไว้ว่า “เหรอ” ก็พูดแค่นี้เอง ที่เห็นคล้ายเม็ดทรายเมื่อถูกแสงแล้วเป็นสเก็ต ผมไปหมิ่นเขาเมื่อไหร่ หรือถ้าเสกจะฟ้องก็ฟ้องได้เลยเป็นสิทธิส่วนบุคคล ยินดีให้ฟ้อง ผบช.น.กล่าว