26 มิ.ย.63 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาวนายพลตำรวจและอดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล ในพื้นที่ บก.น.8  ข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปแบล็คเมย์เรียกเงิน ถ้าไม่จ่ายข่มขู่จะนำภาพลงโซเชียล

โดยทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พิจารณาตรวจสอบในส่วนของเรื่องวินัยกรณีดังกล่าว หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดทางวินัยให้ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนการดำเนินคดีอาญาให้ พล.ต.ต.สามารถ ศรีวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ดำเนินคดีด้วยความรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หากน่าเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าวหา ก็จะได้เรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญพูล ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ทางเราได้ให้ตัว "ร.ต.อ." ที่ถูกกล่าวหามาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ ในช่วง10-11 โมงเช้า ที่โรงพัก เบื้องต้นก็จะทำการแจ้งข้อหาความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา16 และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งข้อหาทั้ง 2 นี้ สามารถยอมความกันได้ อย่างไรก็ดีทั้ง 2 ข้อหามีโทษอาญาจำคุก 3 ปี แต่ความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มีโทษปรับสูงกว่าคือ 2 แสนบาท โดยในคดีนี้ "ร.ต.อ." มีการส่งภาพไม่เหมาะสมระหว่างตัวเองกับหญิงสาวผู้เสียหายไปให้คนอื่นดู แต่ภาพที่ส่งถือเป็นภาพไม่เหมาะสมเท่านั้น ไม่ใช่ภาพลามกอนาจารแต่อย่างใด

หลังจากรับเรื่องเมื่อวานนี้( 25 มิ.ย.)ก็ส่งเรื่องให้กับต้นสังกัดของ "ร.ต.อ." นายนี้ทันที อีกฝ่ายก็รีบติดต่อมาขอพบทันที เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางเราก็จะฟังความทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.พีรธรรม คำจร รองผกก.(สอบสวน )สน.พระโขนง กล่าวว่าสำหรับความผิดฐานข่มขืนนั้นเกิดขึ้นนานแล้ว เมื่อเลย 3 เดือน จากตอนที่เหตุเกิดขึ้นเมื่อไม่มีการร้องทุกข์ จึงไม่สามารถเอาผิดได้ ซึ่งความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์นั้น เกิดจากมีการส่งภาพเผยแพร่ทำให้เกิดการดูหมิ่นเกลียดชัง จึงถือว่ามีความผิด เบื้องต้นตำรวจจะแจ้งข้อหา "ร.ต.อ." ไว้ 2 ข้อหาก่อนเท่านั้น หากพบความผิดเพิ่มก็จะทำการแจ้งข้อหาอื่นๆ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป