"สมคิด" ถก ก.พลังงานผุดแผน "พลังงานสร้างไทย" กระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย คาดลงทุนช่วง 3 ปีกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ลั่นปี 63 ลุยโครงการทั้งสำรวจปิโตรเลียม โรงไฟฟ้าชุมชน และแอลเอ็นจีฮับ เกิดเม็ดเงินลงทุนเกิน 2 แสนล้าน จ้างงานกว่าหมื่นราย
เมื่อวันพฤหัสบดี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่ารองนายกฯ ได้มามอบหมายนโยบาย "พลังงานสร้างไทย" โดยเป็นการเตรียมแผนงานด้านพลังงาน เพื่อลดค่าครองชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนหลังสถานการณ์เชื้อโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยมีสาระสำคัญที่จะดำเนินการ 3 ด้านในช่วงปี 2563-2565 ซึ่งคิดเป็นวงเงินลงทุนด้านพลังงานกว่า 1.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในปี 2563 วงเงิน 200,000 ล้านบาท ปี 2564 วงเงิน 457,000 ล้านบาท และปี 2565 วงเงิน 450,000 ล้านบาท
"การเร่งรัดการลงทุนด้านพลังงานมากกว่า 200,000 ล้านบาท ในปี 2563 จะสามารถสร้างการจ้างงานกว่า 10,000 คน โดยในปี 2563 จะมีการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ เริ่มดำเนินการศูนย์กลางก๊าซธรรมชาติ (แอลเอ็นจีฮับ) และเริ่มการลงทุนพัฒนากริดโมเดิร์นไนเซชัน (Grid Modernization) และศึกษาความเป็นไปได้ของการเชื่อมโยงกริดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียม และเร่งคลังเก็บแอลเอ็นจี"
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า นอกจากนี้จะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นฟูหลังโควิด-19 รวมกว่า 30,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้ชุมชน เกิดการจ้างงานกว่า 8,000 คน ซึ่งต่อจากนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะกระตุ้นให้เกิดการค้าผ่านตลาดนัดออนไลน์ชุมชนโรงไฟฟ้าและท่องเที่ยวเขื่อนทั่วไทย และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะจัดพื้นที่ค้าขายให้ผู้ประกอบการ และเที่ยวทั่วทิศกระตุ้นเศรษฐกิจกับ Blue Card พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีแผนที่จะขยายสายส่งไฟฟ้าเพื่อผันแม่น้ำยมสู่อ่างเก็บน้ำภูมิพลเพื่อชลประทาน และยังช่วยลดปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นได้ด้วย รวมไปถึงการพิจารณาหาแนวทางการนำไฟฟ้าส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
"ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เกิดการลงทุนและสร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 10,000 คน เมื่อครบเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และเตรียมเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ จะมีการใช้ระบบบล็อกเชนเข้ามาช่วยซื้อขายปาล์มภาคพลังงานทั้งระบบ จะเกิดการหมุนเวียนรายได้กว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยจะเร่งเดินหน้าตามแผนงานดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนมีรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป" นายสนธิรัตน์กล่าว
รมว.พลังงานกล่าวด้วยว่า ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการไปแล้ว โดยมีที่เกี่ยวกับการลดรายจ่ายแก่ประชาชนช่วงโควิด-19 รวมกว่า 40,500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา และดำเนินการต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีผ่านมาตรการช่วยเหลือสำคัญ เช่น ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและภาคธุรกิจ ด้วยการบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากการนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจร, การยกเว้นเก็บอัตราค่าไฟฟ้าขั้นต่ำถึง ก.ย.63, การตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ถึง ก.ย.63 และจะพิจารณาขยายไปถึง ธ.ค.63
"รวมถึงการช่วยเหลือส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับรถสาธารณะ โดย ปตท.ช่วยเหลือส่วนต่างราคาจนถึง ก.ค.63 และการจัดโครงการพลังงานร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 แจกแอลกอฮอล์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศกว่า 2 ล้านลิตร การลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันลง 50 สตางค์ต่อลิตร และลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นลง 50 สตางค์ต่อลิตร" นายสนธิรัตน์กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |