ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ประเทศไทยยังทำสถิติสวยงามไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 31 วันแล้ว แต่ก็เป็นไปตามคาด หลัง "บิ๊กตู่" จั่วหัวไว้วันก่อนว่าในเมื่อโควิดยังไม่จบ ก็จำเป็นต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายในระยะที่ 5 มีความล่อแหลมต่อการระบาดของโควิดมากที่สุด เช่น การเปิดเรียน เราจึงต้องให้ความสำคัญในการป้องกันอย่างมาก จึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป เพราะหากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องใช้กฎหมายถึง 5 ฉบับมาแทนที่ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมีประสิทธิภาพเท่ากับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" เลขาธิการ สมช. "พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา" ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณามาตรการผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 แจงเหตุผลหลังที่ประชุมเคาะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.63 พร้อมย้ำว่าได้พิจารณาในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง ข่าวกรอง กฎหมายและสาธารณสุข

      ๐ ตั้งแต่เกิดศึกสายเลือดใน พปชร. "เฮียกวง" สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พูดแต่ละดอกบาดลึกกินใจตลอด คราวก่อนก็บอกในทำนองคนดีๆ อยู่ในการเมืองไม่ได้ ล่าสุดวันพุธในเวทีแถลงข่าวนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทยและโครงการ New Gen Hag บ้านเกิด มาโทนร้อนแรงบอกเลยว่าอย่ามาโทษว่าใครทำเศรษฐกิจแย่ ถ้าคนเก่าอยู่แล้วไม่สามารถทำได้ ก็ไม่ควรอยู่ ถ้าคนใหม่มา ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องมา มาทำอะไร ขณะนี้คนเก่ายังอยู่ แต่ถ้าอยู่แล้วช่วยประเทศไม่ได้ ไม่ต้องอยู่ นี่คือหลักการในการบริหารประเทศ เล่นเอานักข่าวหูผึ่ง รุมซักเฮียกวงหลังลงจากเวที แต่เจ้าตัวไม่ยอมขยายความเพิ่ม งานนี้เลยต้องพึ่งระดับเนติบริกรให้ช่วยถอดความ รองนายกฯ วิษณุออกตัวก่อนว่าถนัดตีความกฎหมาย แต่ก็ยังอุตส่าห์อธิบายแทนว่าคงพูดเพราะตัดความรำคาญสื่อที่ถามทุกวัน​ เรียกว่ายิ่งนับถอยหลังปรับ ครม. ก็ยิ่งเห็นเฮียกวงเก็บอาการไม่อยู่ ต่างกับ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" 1 ใน 4 กุมาร ที่มีข่าวจะโดนโละแน่ แต่กลับนิ่ง แถมช่วงหลังก็ยึดมาตรการโควิดเป๊ะ ใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอล เว้นระยะห่างทางสังคมกับเฮียกวง ท่ามกลางข่าวหนาหูว่ามีหลายกลุ่มใน พปชร. อย่างกลุ่มผู้กองธรรมนัส ก๊วนมาดามเดียร์ ออกโรงหนุนให้นั่งเก้าอี้คุมพลังงานต่อ แล้วก็อย่าลืมว่าคนที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดก็คือ "บิ๊กตู่" ซึ่งก็มีโควตากลางอยู่ในมือ และป๋าดันที่หย่อนสนธิรัตน์ลงตำแหน่งนี้ตั้งแต่แรกก็บิ๊กตู่อีกนั่นแหละ ถ้าเปิดไฟเขียวให้อยู่ใน ครม.ประยุทธ์ 2/2 ต่อ ใครจะทำอะไรได้จริงมั้ย

      ๐ วันเสาร์นี้ได้ฤกษ์ทำพิธีกรรมเสียที พลังประชารัฐนัดประชุมใหญ่สามัญ บ่ายโมงที่เมืองทองธานี นอกเหนือจากวาระรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2562 รายงานงบการเงินของพรรคประจำปี 2563 แก้ไขข้อบังคับพรรค การเลือกคณะกรรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไฮไลต์ก็อยู่ที่การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ตัวหัวหน้าพรรคใหม่ เลขาฯ พรรค ตีตั๋วนอนจองกันมาตั้งแต่ไก่โห่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเปลี่ยนสถานะจากประธานยุทธศาสตร์พรรค มาเป็นหัวหน้า พปชร.อย่างเต็มตัวและเป็นทางการซะที ไม่ต้องคอยชักใยอยู่หลังฉาก โดยมี "เสี่ยแฮงค์" อนุชา นาคาศัย ทำหน้าที่แม่บ้านพรรค ขนาดเต็งหามเบียด "สันติ พร้อมพัฒน์" เข้ามาได้ ก็ไม่แคล้วยังมีข่าวเล็ดลอดเมาธ์กันหึ่งใน พปชร.ว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" กำลังขึ้นหม้อ ทำผลงานเข้าตาบิ๊กป้อม พานายวัฒนา สิทธิวัง ชนะเลือกตั้งซ่อมจังหวัดลำปาง เขต 4 ชนิดทิ้งห่างคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น หนำซ้ำที่ผ่านมาถ้าพูดถึงคะแนนความประพฤติในพรรคแล้วสูงลิ่ว ทำตัวเรียบร้อย ไม่เกเร แล้วก็ยังเป็นคนใจถึงพึ่งได้ คุม ส.ส.ประมาณ 20 คน ติดปัญหา (ใหญ่) เดียว เรื่องภาพลักษณ์ที่มีคดีอื้อฉาวในอดีต ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็เพิ่งรับคำร้องให้วินิจฉัยปัญหาสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.และรัฐมนตรี สุดท้ายจะมีเซอร์ไพรส์หรือแค่ขำๆ เดี๋ยวได้รู้กัน.