ว่าที่คุณพ่อ คุณแม่ลูกสาม เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา กับ มิค-บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ ที่วันนี้ยกบ้านมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ถึงเรื่องบีบหัวใจ เบนซ์มีเลือดคลั่งในมดลูก จนต้องแอดมิทโรงพยาบาล พร้อมกับเรื่องผลอัลตร้าซาวด์ลูกคนที่สามนิ่งไม่ขยับตัว
ถามพ่อมิคก่อนในท้องแม่เบนซ์ตอนนี้ดีใจขนาดไหน?
มิค : ดีใจที่สุดในโลก คือจริงๆ แล้วน้องที่อยู่ในท้องตอนนี้เป็นพี่ของปริมกับปราง เราเก็บไข่ไว้ เราเข้าใจว่าเบนซ์มีลูกยาก คุณหมอก็เลยบอกว่าเก็บไข่ไว้ก่อนไหม เผื่อแพลนอยากจะมีลูกหลายๆคน ถ้าวันหนึ่งเบนซ์อายุเยอะเราก็เก็บไข่ไว้ก่อน แต่พอเก็บไว้เสร็จคุณหมอช่วยรักษาเนื้องอกในมดลูกของเบนซ์ แล้วกินฮอร์โมนแล้วก็ผลิตเองก็คือได้ปริม ผลิตคนที่สองเองก็ได้ปราง ทีนี้เราอายุ 40 กันแล้วก็เลยคิดว่าเอาไงดี จะมีลูกอีกคนไหม คุณหมอก็เลยบอกว่าในเมื่อที่เก็บมาแล้วก็เอามาใช้สิ
เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา แล้วมันบีบหัวใจมากมันเกิดอะไรขึ้น?
เบนซ์ : หนูเลือดออก ปกติถ้าเราท้องอาจจะมีเลือดออกนิดหน่อย มีประจำเดือนเด็กๆเป็นไปได้ แต่ว่าของเบนซ์อารมณ์มันเหมือนถุงน้ำคร่ำแตก ซึ่งมันเป็นเลือดทั้งหมดไม่ใช่น้ำ หนูตกใจมาก ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้กระแทก นั่งอยู่บนโซฟาเฉยๆ แล้วแค่จะลุกไปหาลูก เลือดมันออกมามา หนูก็เลยรีบวิ่งไปห้องน้ำ แล้วก็รีบไปหาหมอ
ไปหาหมอทันใช่ไหม?
มิค : ทันครับ คือเราเข้าใจว่าถุงน้ำคร่ำแตก แล้วลูกเราตอนนั้นเพิ่ง 3 เดือน เราก็นั่งคิดตายแล้ว...มันยังไม่ถึงเวลาคลอด พอไปถึงโรงพยาบาลปุ๊บน้าหมอไม่อยู่ ก็ให้หมออีกคนอัลตร้าซาวด์ข้างนอกก่อน พออัลตร้าซาวด์เสร็จสิ่งหนึ่งที่เราเห็นเบนซ์ตั้งแต่ในรถเลยคือเครียดตลอดทาง แล้วพอไปถึงที่นู่นดันได้ข่าวดีทันทีคือคุณหมอพูดคำแรกว่าเด็กยังอยู่ แต่มันมีภาพพออัลตร้าซาวด์เด็กไม่ขยับเลย ลูกเรานอนนิ่ง จากทุกครั้งดีดๆ นี่คือนิ่งเลย แต่หัวใจยังเต้นอยู่ เราก็เอาไงดี คุณหมอเลยบอกว่าอยู่ให้คุณหมอดูอาการอีกวัน คุณหมอบอกว่าคุณพ่อ คุณแม่ทำใจนะครับ อย่างที่หนึ่งคือเด็กยังอยู่ แต่สภาวะนี้เรียกว่าสภาวะคนแท้งนะ แท้งคุกคาม แต่ยังไม่ได้แปลว่าแท้ง เดี๋ยวเราดูกันต่อ
เบนซ์ : แล้วอีกอย่างที่คุณหมอพูดแล้วเราใจหายเลย คุณหมอพูดว่า คุณพ่อ คุณแม่ ตอนนี้คือ 50 : 50 เพราะน้องไม่ขยับเลย แล้วเลือดที่ออกมันอยู่ข้างในมดลูกเลย อยู่กับลูกเลย แล้วถ้าเลือดออกอีกมันมีสิทธิ์ที่จะดันรกกับเด็กออกมาด้วยกัน เพราะว่าเลือดมันใหญ่กว่าเด็ก
คืนที่พยาบาลบอกว่า 50 : 50 แล้วเราต้องนอนโรงพยาบาล อะไรที่มันวิ่งอยู่ในหัวเราตลอด?
เบนซ์ : จริงๆ หนูร้องไปตั้งแต่ขึ้นรถมาโรงพยาบาลแล้ว ปกติหนูเป็นคนที่ไม่ร้องไห้เลย หนูเป็นคนที่ค่อนข้างแข็งแรง แล้วก็พออยู่ในบ้านทำตัวเหมือนไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอขึ้นรถ หนูร้องตั้งแต่เดินขึ้นรถ แล้วรู้สึกว่ามันไม่โอเคเลย แล้วเราไม่เคยเจอ เบนซ์พูดตรงๆเลยนะ มันก็เป็นความผิดเบนซ์เพราะเบนซ์ไม่ระวัง เพราะว่าจริงๆแล้วเบนซ์ไม่ควรอุ้มลูก ไม่ควรนั่งกับพื้น ไม่ควรยกของ ไม่ควรทำอะไรเร็วๆ หลายอย่างที่หมอเตือนตั้งแต่แรก แล้วเบนซ์ก็ยังให้นมลูกด้วย ซึ่งทุกอย่างคือผิด ซึ่งพอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไอ้ตรงที่นั่งนั่นคือความผิดเราล้วนๆ โทษตัวเองเลย ถ้าหัดอยู่นิ่งๆบ้าง ทำตามที่หมอบอก เราก็อาจจะไม่เป็นอย่างนี้
แล้วช่วงไหนที่แอบกระซิบกับลูกในท้องว่าเกาะดีๆนะลูก อยู่กับแม่นะ?
เบนซ์ : เบนซ์พูดตลอดเวลา พูดกับทุกคนตั้งแต่ลูกคนแรก แต่ว่าคนนี้ตอนอยู่ในรถนั่นแหละ เบนซ์ก็พูดกับเขาบอกว่า ทุกคนรออยู่นะ มาเกาะแล้วขอให้เกาะแน่นๆนะ อุตส่าห์จะได้เกิดแล้ว ถ้าหนูไม่อยู่อีกกี่ปีกี่ชาติกว่าจะได้เจอกัน หรือว่าจะได้เกิดอีกก็ไม่รู้ ก็พยายามพูดกับเขาว่าอยู่ด้วยกันนะ
คุณพ่อวันนั้นที่อยู่โรงพยาบาลแล้วเขาบอกว่า 50 : 50 คิดอะไรบ้าง?
มิค : อันดับแรกสวดมนต์เลยทันที ยืนอยู่เฉยๆ ทำทุกอย่างปกติก็สวดมนต์ในใจตลอด เสร็จแล้วมันไม่มีที่พึ่งทางอื่นแล้ว ผมโทร.หาหมอดูที่บ้านดูประจำ แล้วได้ข่าวดี หมอดูคนนี้บอกว่าไม่มีอะไร ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย
เบนซ์ : แต่อีกคนที่ทำให้เราสบายใจคือคุณแม่พี่มิค เพราะคุณแม่พี่มิคเขาจะเป็นคนนั่งสมาธิอยู่แล้ว และพอมีเรื่องอะไรไม่ดีเขาก็จะเตือนก่อน แต่ว่าอันนี้คุณแม่โทร.มาหาเบนซ์แล้วบอกว่าแม่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ดีนะลูก น้องน่าจะยังโอเค เราก็รู้สึกดีขึ้นมา
ตอนนี้ถือว่าปลอดภัย?
มิค : ปลอดภัยดีแล้วครับ แต่ก็ต้องระวัง เบนซ์จะลืมเสมอว่าคนเล็กเราไม่ได้ผลิตธรรมชาติ คุณหมอก็จะเตือนอยู่เสมอว่าต้องระวังนะ
แต่เห็นว่าตอนแรกพี่เบนซ์ไม่ยอมแอดมิทเพราะเป็นห่วงน้องปริม น้องปราง?
เบนซ์ : ไม่เคยไม่นอนกับลูก ก็เลยรู้สึกว่าไม่นอนกับลูกไม่ได้ ก็เลยขอหมอว่ากลับบ้านได้ไหม แต่คุณหมอก็บอกว่าขอเลย ขอร้องให้นอนเลย เพราะถ้าไม่นอนเรารู้เลยว่าเราต้องทำนั่น ทำนี่ มันมีสิทธิ์ที่จะหลุด ก็เลยเอาพี่ปริมไปนอนกับเบนซ์
มิคคุณอยากจะขออะไรภรรยา?
มิค : แม่เป็นแม่ที่ดี พ่อไม่คิดว่าจะไปหาแม่หรือหาคู่ชีวิตที่ดีขนาดนี้ได้ที่ไหน แต่แค่เรื่องบางเรื่องแม่ไม่ต้องทำ อย่างเวลาคุณตา คุณยายมา ญาติๆ มา แล้วหนูต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ต้องทำ ชี้นิ้วสั่งได้ เรามีสิทธิ์เราท้อง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |