25 มิ.ย.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 9.00 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ
สำหรับคดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วรวม 4 ครั้ง การนัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2562 ปรากฏว่าครั้งนั้นนายวีระกานต์ จำเลยที่ 4 ป่วย จึงเลื่อนมาวันที่ 23 ก.ย. 2562 ซึ่งเกิดกรณีที่จำเลยที่ 4-7 ขอกลับคำให้การเดิมจากปฏิเสธสู้คดี เป็นขอรับสารภาพผิด ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษากลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาใหม่ ก่อนศาลอาญาจะนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาในวันที่ 6 ก.พ. 2563 อย่างไรก็ตาม วันดังกล่าวมีเหตุเลื่อนอ่านคำพิพากษาฎีกาอีกครั้ง เพราะนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ย้ายที่อยู่ ไม่สามารถส่งหมายนัดให้นายนพรุจได้ ศาลอาญาจึงเลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 30 เม.ย. 2563 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ศาลประกาศให้ใช้ดุลพินิจเลื่อนคดี เป็นเหตุให้ต้องเลื่อนนัดล่าสุดมาเป็นวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 9.00 น.
โดยคดีนี้ ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 ให้จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้องนายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 ริบของกลาง ต่อมาวันที่ 10 ม.ค.2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |