'กวีพี่คนดี' ร่ายกลอนรักสีส้ม 'ฮาร์ท สุทธิพงศ์' บ่นเบื่อโฆษณาหลังข่าวภาคค่ำ


เพิ่มเพื่อน    

25 มิ.ย.63 - เพจเฟซบุ๊ก P.khondee ( พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความว่า ศิลปินที่จงใจแซะ ข่าวในพระราชสำนัก ว่าเป็น โฆษณาหลังข่าวค่ำ และแซะว่า ไม่ศรัทธาในระบอบทีวี ความจริงพูดตรงๆเลยได้นะ เพราะการวิจารณ์ทำได้ ถ้าคิดว่าไม่บิดเบือนมันก็ไม่ผิดกฎหมายหรอก

คิดเล่นๆว่า ถ้ามีคนไปติดตามทำข่าวกิจกรรมของเขาคนนี้ทุกวัน ความนิยมเขาจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ประชาชนจะเห็นเรื่องอะไรดีๆของเขาคนนี้บ้าง ขนาดไม่ได้ออกทุกวัน ออกมาทีไรไม่เคยก้าวพ้นเรื่องทะลึ่งตึงตัง ลามกจกเปรต ที่ตนเองนึกว่าเท่ นึกว่าขำ

เขาบอกว่า ตอนเด็กๆศรัทธาละครช่องหนึ่ง แต่โตขึ้นหันไปชอบอีกช่องหนึ่งแล้ว ก็ตนทำงานที่ช่องนั้นอยู่นี่นา มีหรือจะมาชมช่องอื่น แต่คนอื่นที่ชมชอบช่องอื่น ก็ไม่ต้องไปดูถูกเขา ว่า สลิ่ม หรือ น้ำเน่า รู้ไหม ช่องที่อยู่นั่นก็ไม่ใช่จะไม่มีละครจักรๆวงศ์ แต่ทำแล้วมันสู้ช่องต้นตำรับไม่ได้เท่านั้นเอง

แอบสงสัยว่า ถ้า แก่กว่านี้ อยากแรงกว่านี้ จะไปลงที่ช่อง" ว้อยซ์ "แทนรึเปล่านะ

บางคนเห็นข่าวเป็นการโฆษณา แต่การโฆษณากับเห็นเป็นข่าว มันขึ้นอยู่กับมิจฉาทิฏฐิของแต่ละคนโดยแท้ บางคนเห็นข่าวในพระราชสำนักมันขื่นขม เห็นเดินหน้าประเทศไทยที่มีผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายงานให้ฟังมันขื่นขม แต่ เมื่อฟังทักษิณเดี่ยวไมโครโฟน ในรายการ ทักษิณพบประชาชน ทุกแซทเทอร์เดย์ มันเดย์ กลับกระชุ่มกระชวย ก็แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละคนนะ ความศรัทธา ไม่มีใครบังคับใครได้ อย่าพยายามบิดเบือนว่ามีใครไปบังคับ

แค่ไม่ศรัทธา ไม่มีใครไปเอาผิด ท่านและ ผู้สนับสนุนก็แดกดันกันจ๋อยๆอยู่ทุกวัน ความจรองแค่ไม่ศรัทธา ก็ไม่จำเป็นต้องแดกดันขนาดนั้น แต่จะทำก็ทำไป อย่าเผลอไผลให้ล้ำเส้นกฎหมายก็แล้วกัน

ผู้นำประเทศทำงานให้ประชาชนเรื่องอะไรบ้างไม่อยากให้มีข่าว แต่เด็กอ้วนสองคนประท้วงนั่นประท้วงนี้ออกข่าวแม่มทุกวันไม่เคยจะบ่น ใครจะศรัทธาแบบไหนก็ตามแต่จิตใจ และ รสนิยมของท่านเถิด

เพราะฉันรู้ว่า รักเธอนั้นเป็นสีส้ม มาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนฟังกี่รอบไม่เคยเข้าใจ ว่า อะไรคือสีส้ม เพิ่งมาเข้าใจก็วันนี้ คงประมาณว่า จะแดงก็ไม่กล้าแดง ขอแค่ส้มๆ ก็แล้วกัน ระวังเฮิร์ทคนเดียวไม่มีบาส

ทั้งนี้ กวีพี่คนดี ยังได้โพสต์บทกลอนเรื่อง "รักนี้สีส้ม" มีเนื้อหาดังนี้

     เพราะรักนี้ เป็นสีส้ม อมแดงเรื่อ
จึงไม่เชื่อ ในสีเหลือง จะเรื่องไหน
คนทำดี ไม่ศรัทธา ไม่ว่าไร
แต่กับคน ที่หนีไป ไยศรัทธา

     จะรักยิ่ง หรือชิงชัง ฟากฝั่งไหน
ไม่มีใคร ไปเคี่ยวเข็ญ หรือเข่นฆ่า
ข่าวเน้นเน้น กลับเห็น เป็นโฆษณา
เรื่องสร้างมา กลับเห็น ว่าเป็นจริง

     เพลงจะดี แค่ไหน คงไม่รุ่ง
เพราะมีจิต ไปพยุง และสุงสิง
กับบรรดา คนพาล ที่ต้านคิง
คิดละทิ้ง ลืมสิ่งดี ที่มีมา

     กับพวกโกง ที่โยงเชื่อม กลับเลื่อมใส
กลับเชื่อใจ ไม่มองเห็น เป็นปัญหา
ยังเกาะติด เหมือนเห็บหมัด ยังศรัทธา
ช่วยกันพร็อพ พาแกนดา ว่าดีจริง

ก่อนหน้านี้ นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท นักร้องดูโอในตำนานเบิร์ดกะฮาร์ท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เรื่องเสื้อยืดหมดศรัทธา ทำให้ผมนึกถึงละครทีวี สมัยเด็กๆ ผมเคยศรัทธาละครช่อง 7 โตขึ้นหน่อยก็เปลี่ยนมาดูช่อง 3 ศรัทธามากจนถึงกับไปขอสมัครทำงานที่นั่นด้วยซ้ำ

แต่ป้จจุบันอายุมาก เห็นอะไรๆมากขึ้น เบื่อโฆษณาหลังข่าวภาคค่ำ เบื่อมุกเดิมๆ หมดศรัทธากับระบอบทีวีไทย เลยหันมาดู YouTube กับ Netflix แทน
ความศรัทธาหรือความเลื่อมใสนี่คล้ายกันครับ เป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ง่ายๆ ต้องแยบยลและละมุนละม่อม ต้องปรับ tactic (แปลว่าชั้นเชิง) ให้เหมาะสมกับยุคสมัยและเหตุการณ์ปัจจุบัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"