"ประยุทธ์" โว ครม.สุดซี้ปึ้กทั้งพรรคใหญ่-เล็ก อ้อนแม่ยกพร้อมเป็นสะพานให้เหยียบข้าม ขอให้ไว้วางใจกันต่อไป "สมคิด" มาดุไล่คนใหม่ทำงานไม่เป็นไม่ต้องมา คนเก่าทำงานไม่ได้ไม่ต้องอยู่ "พรรคกำนัน" ส่อเค้าเละ "วรงค์" ไขก๊อกตามหม่อมเต่าอีกราย อ้างมุ่งทำงานด้านข้อมูล-วิชาการ
เมื่อวันพุธที่ 24 มิ.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า และโอกาสสู่สังคม เพื่อพัฒนาชาติไทยอย่างยั่งยืน วุฒิสภา ได้นำคณะ กมธ.เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อรับทราบนโยบายและความคิดเห็น นำไปจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางการสร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า และโอกาสสู่สังคม เพื่อพัฒนาชาติไทยอย่างยั่งยืน และจัดทำแผนงานระดับต่างๆ สำหรับเป็นต้นแบบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณ กมธ.วิสามัญฯ ที่ช่วยกันขับเคลื่อนสร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า และโอกาสสู่สังคม เพื่อพัฒนาชาติไทยอย่างยั่งยืน พร้อมระบุว่าการทำงานต้องดูตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ไปจนถึงปลายทาง โดยต้นทางต้องเริ่มจากสถาบันครอบครัว กลางทางเช่นสถาบันการศึกษา และปลายทางคือการผลิตคนผ่านสถาบันต่างๆ พร้อมฝากให้ช่วยกันหาแนวทางทำให้คนในสังคมคิดถึงผู้อื่นก่อนตนเอง โดยเฉพาะคนที่มีความพร้อมและมีศักยภาพช่วยคนอื่นได้ เช่น การเคารพและไม่รบกวนซึ่งกันและกันบนเสรีภาพที่มีอยู่ หรือการเคารพกฎหมาย
"รัฐบาลพร้อมทำงานอย่างเต็มที่เพื่อประชาชน แม้บางเรื่องยังไม่สำเร็จในทันทีเพราะต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับการสร้างคนดี คนเก่ง และคนกล้าสู่สังคม โดยขอให้เป็นผู้เคารพกฎหมาย และเข้าใจความเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง เชื่อมั่นจะมีคนดี คนเก่งเข้าสู่ระบบการเมือง ร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป" นายกฯ ย้ำ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนคร พร้อมจุดชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเห็นหน้าเห็นตาทุกคน ถือเป็นโอกาสแรกที่ได้ออกมานอกพื้นที่ เพราะก่อนหน้านี้จำเป็นต้องดูแลแก้ปัญหาโควิด-19 จึงขอโทษด้วยถ้าทำให้ใครเดือดร้อน แต่อย่างน้อยสิ่งที่เกิดคือความร่วมมือร่วมใจระหว่างรัฐและประชาชน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนร่วมมือกันและเชื่อฟังกฎหมาย ซึ่งไม่มีอะไรทำได้นอกจากกฎหมาย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องใช้กฎหมายเป็นหลัก
“ช่วงนี้ขอให้ทุกคนรวมใจไทยสร้างชาติ โดยเอาสิ่งที่มีอยู่แล้วทำของเดิมให้ดีที่สุด พร้อมมีการตรวจสอบรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน แน่นอนคิดเห็นไม่ตรงกันเป็นธรรมดา แต่ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นั่นคือกลไกของประชาธิปไตย”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรามี 5 ศาสนา ทุกศาสนาสอนให้คนปรองดอง ไม่ใช่สอนให้เอาเป็นเอาตายชนะคะคาน ไม่มีให้ทะเลาะกัน โดยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องมีอยู่ในหัวใจคนไทยทุกคน ไม่ว่าใครทำอะไรอย่าไปคล้อยตาม เพราะบางคนมีจุดประสงค์ไม่ดีมากนัก แต่ก็จำเป็นเพราะเป็นรัฐบาล และขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมา 1 ปี ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อยและสานต่อสิ่งที่วางไว้ตามยุทธศาสตร์ชาติ
"ขอบคุณที่ไว้ใจมาถึงวันนี้ และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจต่อไป ยืนยันว่าพรรคร่วมมีความร่วมมือกันอย่างดีทุกพรรค ไม่ว่าจะพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กๆ ยังเข้มแข็งกันดี บางคนฟังข่าวอาจไม่สบายใจ แต่ข่าวก็คือข่าว ฟังได้ แต่จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของทุกคน ฝากขอบคุณทุกคนและฝากใจนายกฯ ไว้กับทุกคนด้วย ถ้าจำได้ผมเคยแต่งเพลงสะพาน ซึ่งต้องเป็นสะพานเชื่อมโยงเข้าหากัน ผมพร้อมให้เหยียบข้ามไป นั่นคือหน้าที่ของผม"
จากนั้นนายกฯ ได้นำโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลงสะพานให้ชาวบ้านฟัง พร้อมร้องคลอตามและกล่าวว่า "นี่เป็นแรงบันดาลใจของผม จากจิตใจของผม และคิดว่าวันนี้จิตใจของ ครม.และข้าราชการทุกคนเป็นดวงเดียวกัน คือทำเพื่อประชาชน อะไรไม่ดีต้องแก้ไข อะไรคิดนอกกรอบก็ต้องคิด ปรับจูนแก้ให้ตรงกัน ทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็บอกเหตุผล ถ้าชนกันแบบเดิมไม่มีอะไรทำได้ ซึ่งทุกอย่างคือยุทธศาสตร์ชาติที่มีขั้นตอนอยู่แล้ว กลไกประชาธิปไตยเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ล้มรื้อสร้างใหม่วันเดียว มันไม่ได้ เราเป็นมากว่า 80 ปีแล้ว วันนี้รวมไทยสร้างชาติ สัญญากับผมได้หรือไม่ ขอบคุณและให้กำลังใจทุกคนด้วย ให้กำลังใจตัวเองขอให้โควิดหมดสิ้นไปเร็วๆ"
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องเรียนการใช้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดทำกิจกรรมทางการเมืองขัดต่อวัตถุประสงค์ว่า ไม่มีปัญหา แค่กลุ่ม ส.ส.เดินทางมาหาและไม่มีประชุมเกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวโยงใดๆ กับการดำเนินงานของมูลนิธิ
คนใหม่ทำงานไม่ได้ไม่ต้องมา!
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การใช้สถานที่ของมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ต้องถาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าทำไมกองทัพจึงเปิดพื้นที่ให้นักการเมืองเข้ามาทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งการจัดตั้ง ครม.และการพบปะนักการเมืองเพื่อจัดตั้ง รวมทั้งการสรรหา ส.ว. กองทัพต้องไม่เลือกข้างทางการเมือง ต้องวางตัวเป็นกลางและปกป้องประชาชน
ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กล่าวในงานเปิดตัวนโยบายเศรษฐกิจสร้างไทยของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตอนหนึ่งว่า ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ไม่ต้องถามเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) คนเก่าไป คนใหม่มา เก่าไม่ไป หรือคนใหม่มา ไม่ต้องพูด ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญ เรื่องสำคัญคือไม่ว่าเก่าจะอยู่ หรือใหม่จะมา ต้องเดินตามหลักการ คือต้องทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง สร้างงานให้คนไทย ถ้าคนเก่าอยู่แต่ทำงานไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าคนใหม่จะมาแต่ทำงานไม่ได้ ทำไม่เป็น จะมาทำไม ถ้ารัฐบาลจะอยู่แล้วขับเคลื่อนประเทศไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ นี่คือหลักการบริหารประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลควบคุมได้ดีเยี่ยม แต่สถานการณ์ทางการเมืองกลับมีความเคลื่อนไหวที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งอีกรอบ จึงอยากวิงวอนทุกฝ่ายขอให้หยุดความเคลื่อนไหวทางการเมืองไว้ก่อน ขอเวลาให้ พล.อ.ประยุทธ์มีสมาธิในการทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนก่อน
ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงงานเลี้ยง ส.ส.ของพรรคว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคตอนหนึ่งว่า การทำงานการเมืองขอให้ยึดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลัก ถึงแม้จะชนะการเลือกตั้ง แต่มาโดยไม่สุจริตก็ไม่มีความภาคภูมิใจ ขอให้สมาชิกพรรคทุกคนได้ช่วยกันยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ถึงแม้จะยากลำบากแต่ก็ต้องรักษาไว้ เพราะเป็นจุดแข็งของพรรคที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา และทำให้พรรคเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วยนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพรรค ทั้ง ส.ส.พรรคไปทานข้าวกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ หรือโผการปรับชื่อรัฐมนตรีของพรรคว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียงเรื่องที่ยื่นหนังสือขอให้พรรคเปิดประชุมเพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางการทำงาน ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีจุดยืนอย่างไร ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากที่สุด โดยไม่กระทบกับหลักประชาธิปไตยในการร่วมรัฐบาลเท่านั้น
“การที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้พรรคเข้มแข็ง ไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น เพราะทราบว่ามีทีมอดีต ส.ก.และ ส.ข.เขตสายไหมลาออกจากพรรค จึงอยากให้พรรคเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อไม่ให้มีใครต้องลาออกจากพรรคอีก”
วรงค์ทิ้งกำนันอีกราย
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงการนัดหารือกลุ่ม ส.ส., อดีต ส.ส. และ กก.บห.พรรค รับฟังปัญหาของอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคที่โรงแรมอนันตรา สาทร ว่าอยากให้มาพบปะพูดคุยและแสดงความรู้สึกกัน ว่าในพื้นที่มีปัญหาอะไรบ้าง มีอะไรเป็นอุปสรรคในการทำงานพื้นที่บ้าง และต้องการให้ กก.บห.ช่วยเหลืออย่างไร และไม่มีการพูดคุยเรื่องการเปลี่ยน กก.บห.และเรื่องของการปรับ ครม. เพราะเป้าหมายหลักคือต้องการนำพรรคไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งเท่านั้น ดังนั้นขออย่าได้ระแวง
วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "มีโอกาสปรึกษานายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.ถึงปัญหาทางการเมืองในยุคปัจจุบันที่จำเป็นต้องให้ความรู้แก่ประชาชน ซึ่งสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ แต่การสังกัดพรรคการเมืองอาจมีข้อจำกัด จึงตัดสินใจขอลาออกจากสมาชิกพรรค รปช. โดยตั้งใจจะไปเชิญชวนผู้ที่มีความห่วงใยประเทศมาตั้งกลุ่มการเมือง ให้ความรู้และเสนอทางออกปัญหาของบ้านเมือง รวมทั้งจะไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้แก่สถาบันทิศทางไทย"
นพ.วรงค์ให้สัมภาษณ์ภายหลังอีกครั้งว่า คิดจะลาออกพักหนึ่งแล้ว และได้คุยกับนายสุเทพว่าการทำงานในเชิงวิชาการของตนเองนั้น คือการหาข้อมูล ข้อเท็จจริง นำมายืนยันหักล้างข้อมูลที่บิดเบือนของกลุ่มการเมือง ซึ่งมีนักวิชาการจำนวนมากที่เต็มใจช่วย แต่ไม่เต็มใจสังกัดพรรค จึงทำให้การช่วยงานขาดความต่อเนื่องและทำงานลำบาก ดังนั้นจึงตัดสินใจลาออกเพื่อความคล่องตัว เพราะเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและใช้ข้อมูล
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าน้อยใจที่พลาดตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค จึงลาออก นายวรงค์กล่าวว่า "ไม่เกี่ยวกัน คนละเรื่อง ยืนยันว่าไม่ได้น้อยใจลาออกตามที่ลือกันว่าพลาดตำแหน่ง เพราะคุยแต่แรกกับนายสุเทพแล้วว่ามาช่วยงานที่พรรค ไม่ได้คาดหวังตำแหน่งอะไร และมั่นใจว่าถ้าไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิก รปช. ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรคในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ก็จะมีสมาชิกพรรคเสนอตำแหน่งหรือเลือกให้ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารพรรคแน่นอน จึงขอลาออกก่อน เพื่อการทำงานด้านวิชาการและให้ข้อมูลที่เป็นจริง"
ทั้งนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน อดีตหัวหน้าพรรค รปช.ก็ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและหัวหน้าพรรค รปช.ไปก่อนหน้านี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |