24 มิ.ย.63 - ที่สน.ชนะสงคราม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ เดินทางเข้ามอบตัวตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ 45/2563 ลง 11 มีนาคม 2563 ในข้อหา เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะ โดยไม่แจ้งให้ผู้รับแจ้งทราบก่อนเริ่มการชุมนุม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง บริเวณหน้าโรงเรียนอนุกูล จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าได้เดินทางมาสังเกตการณ์และให้กำลังใจด้วย

โดยโตโต้เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ซึ่งจากนี้ทางตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ โดยให้แพทย์จากรพ.ตำรวจ มาตรวจร่างกายพร้อมนำตัวขึ้นรถไปส่งยังจ.กาฬสินธุ์ท้องที่เกิดเหตุ ทั้งนี้บริเวณรอบสน. ชยะสงคราม มีประชาชนมาให้กำลังใจ และมีกำลังตำรวจดูแลพื้นที่โดยรอบ

นายปิยรัฐเผยว่าตนไม่เคยทราบเลยว่ามีหมายจับ ก่อนหน้านี้ก็เดินทางไปทั่วภาคอีสาน กระทั่งวันนี้จึงพึ่งทราบ และได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าพบตำรวจ ทั้งนี้ความผิดของตนคือคดีพรบ.ชุมนุม ที่ไม่แจ้งการชุมนุมในกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีแค่โทษปรับ แต่ถึงต้องออกหมายจับเลยเหรอ

นายปิยรัฐกล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนมีรายชื่อว่าจะถูกลอบสังหารนั้น ตนไม่กังวล เพราะปกติก็จะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว หลังจากนี้ประชาชนก็ต้องระวังตัวด้วย เจ้าหน้าที่รัฐจะทำแบบนี้กับประชาชนจริง ๆ เหรอ อยากฝากบอกรัฐบาลว่าประชาชนต้องสามารถแสดงออกได้ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้

ทางนายปิยบุตรกล่าวว่า วันนี้ตนมาให้กำลังใจโตโต้ เพราะในอดีตโตโต้เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ตอนนี้มาเป็นเครือข่ายประสานงานภาคอีสานตอนล่างของคณะก้าวหน้าด้วย ทั้งนี้ในฐานะที่ตนเป็นเป็นอาจารย์สอนนิติศาสตร์และเคยเป็นประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร อยากตั้งข้อสังเกตว่า ตัวโตโต้นั้นอยู่จ.กาฬสินธุ์มานาน ไม่นานมานี้ตนก็พึ่งไปพบอยู่ในพื้นที่ ก็ไม่เห็นตำรวจจะว่าอะไร แต่พอมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อเช้านี้ กลับมีหมายจับ

ดังนั้นตนจึงขอตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาทางรัฐพยายามใช้กฎหมายยิบย่อยในการจัดการคนที่ออกมาชุมนุม ทั้งกรณีการผูกโบว์ขาวรำลึกวันเฉลิมที่กระทรวงกลาโหม ก็ใช้พรบ.ความสะอาด การชุมนุมที่สกายวอล์ก แยกปทุมวันก็ใช้ข้อหาอนาจารเล่นงาน ซึ่งเป็นการเอากฎหมายยิบย่อยมาใช้จัดการการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า ตนฟังนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องการต่ออายุพรก.ฉุกเฉิน พร้อมบอกว่าอย่าเอามิติการเมืองมามอง เพราะจะเอาไว้ใช้ควบคุมโรค ตนก็อยากให้รัฐบาลอย่าเอาพรก.ฉุกเฉินมาจับคนที่แสดงออกทางการเมืองขอให้ติดตามดูว่าการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตอนเช้ามืดวันนี้และการแสดงออกช่วงเย็นที่ลานสกายวอล์กแยกปทุมวันนั้น จะมีคนโดนหมายจับกี่คน ถ้ามีคนโดนหมายจับเยอะ การที่นายกรัฐมนตรีพูดว่า พรก.ฉุกเฉินมีไว้ควบคุมโรคนั้น ถือว่าฟังไม่ขึ้น การเปิดพื้นที่ให้คนแสดงออกทางการเมืองนั้น ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้หรอก

ที่ผ่านมาเวลาตนเดินทางไปไหน ก็มีเจ้าหน้าที่คอยตาม ก็ไม่รู้ว่ากฎหมายไหนมาใช้ สิ่งเหล่านี้คือการคุกคามเสรีภาพการแสดงออก ซึ่งตนเข้าใจว่าการขับรถติดตามตนนั้น เป็นการทำตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าการแสดงออกทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องปกติ อยากให้เข้าใจเขาเข้าใจเรา หากมีคนมาติดตามผู้บังคับบัญชาของท่านทุกวี่ทุกวันบ้าง จะรู้สึกอย่างไร ขอยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เป็นภัยต่อสังคม แต่เป็นพลเมืองคนไทยที่อยากให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น