เรียกสอบ3พยาน เอี่ยวแผนแหกคุก 'บรรยิน'อ่วมหนัก


เพิ่มเพื่อน    


    กองปราบฯ เรียก 3 พยาน "ทนาย-อดีต ส.ส.-ลูกชาย" ให้การ "บรรยิน" วางแผนแหกคุก  เผยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาหนัก ขณะที่นายกฯ ถึงกับอึ้ง เคยเห็นแต่ในหนัง ไม่เชื่อผู้ต้องขังจะสามารถทำได้ กำชับ จนท.เร่งหาข้อยุติและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.  กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ว่าได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามผลการทำงาน หลังได้แบ่งหน้าที่ไปแล้ววานนี้ เบื้องต้นได้ออกหมายเรียกพยานบุคคลสำคัญทางคดีมาสอบปากคำทั้งหมด 3 รายให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้กำหนดว่าจะแจ้งข้อหากรณีการวางแผนแหกคุกแก่ พ.ต.ท.บรรยินเมื่อใด เพราะยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมมากที่สุด
    พ.ต.อ.เอนกกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการแถลงต่อศาลของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่ระบุว่าถูกขังอยู่ไม่มีทางจะหลบหนีจากคุกได้นั้น กองปราบปรามมีพยานหลักฐาน เส้นทางการเงินกับการติดต่อสื่อสารถึงแผนการดังกล่าวชัดเจน แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจ เพราะเจ้าตัวจะอ้างอย่างไรก็ได้ ลำพังคำให้การของคนคนเดียวไม่สามารถเชื่อถือได้ เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีแผนการแหกคุกอีกหรือไม่
    รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบุคคล 3 รายที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ออกหมายเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานนั้น ประกอบด้วย 1.ทนายความที่ช่วยประกันตัวนายโจ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน 2.อดีต ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ที่นายโจติดต่อไปขอความช่วยเหลือ แต่ได้รับการปฏิเสธ และ 3.นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ หรือบอส บุตรชาย พ.ต.ท.บรรยิน หลังนายโจให้การว่าเป็นเพื่อนกับนายบอส  จึงได้ติดต่อไปหาเมื่อออกจากเรือนจำ
    สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีพยายามแหกคุกเพิ่มเติมแก่ พ.ต.ท.บรรยิน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาในความผิดฐาน "เป็นผู้ใช้ จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด, กระทำให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล หลุดพ้นจากการคุมขัง, ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน และพยายามหน่วงเหนี่ยวกักขัง" กรณีวางแผนลักพาตัวภรรยา ผบ.เรือนจำมาใช้ต่อรองในการหลบหนีออกจากคุก
    ช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์   ซึ่งตกเป็นจำเลยในอีกคดี คือฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมายังศาล ที่ศาลอาญาพระโขนง ถนนสรรพาวุธ  แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ หลังศาลนัดสืบพยานในคดีนี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการคุมตัวมานั้นมีตำรวจหน่วยหนุมาน บก.ป. และตำรวจหน่วยอรินทราช 26 บช.น.ร่วมทำการคุมตัวมาด้วย ขณะที่บริเวณศาลอาญาพระโขนงมีหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบของศาล ก่อนมีการสืบพยานในเวลา 09.00 น.ของวันนี้ ตลอดจนมีการวางกำลังตำรวจมาดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่ง บช.น.จัดกำลังตำรวจ  บก.สปพ.และ สน.บางนาทำงานร่วมกับตำรวจศาลและกรมราชทัณฑ์ ซึ่งบรรยากาศโดยรอบเป็นไปตามปกติ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง
    วันเดียวกัน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีข่าวชุดสืบสวนกองปราบฯ พบ พ.ต.ท.บรรยินวางแผนแหกคุกว่า เห็นเป็นข่าวหลายวันแล้ว ตนนึกว่าเป็นหนัง ดูหนังมากไปหรือเปล่า มันคงทำไม่ได้หรอกมั้งแผนแหกคุก มีแต่ในเน็ตฟลิกซ์ที่มีหลายเรื่อง ถ้าทำได้ก็แสดงว่าบกพร่องแล้ว ตนคิดว่าไม่น่าทำได้อยู่แล้ว 
    "แต่ถ้ามีการวางแผนแหกคุกจริงก็ว่ากันไป ต้องสอบสวนติดตาม และได้ย้ำกับกรมราชทัณฑ์ให้ดูแลสอดส่องพฤติกรรมผู้ต้องขังให้ดีที่สุด ต่างคนต่างร้องกันไปมานั่นคือปัญหา แต่หากยุติได้ตั้งแต่ขั้นต้น โดยให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวนแล้วจบ แต่อันนี้วิจารณ์ทุกวันทำกันไม่ทันหรอก" นายกฯ ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"