ซูฮกหัวหน้าป้อม สลายก๊วนพปชร. ปชป.หม่ำดับร้าว


เพิ่มเพื่อน    


    "ประวิตร" ยังเขินไม่กล้าประกาศรับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อ้างต้องรอมติที่ประชุม 27  มิ.ย.ก่อน "ศรีสุวรรณ" ตามขยี้บอกใช้มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ทำกิจกรรมการเมืองส่อผิด "ไพบูลย์" โต้ทันควันยันไม่มีปัญหา ไม่อย่างนั้นนักการเมืองก็ต้องห้ามไป กกต. บอกแทนพี่ป้อมใจจริงไม่อยากนั่งหัวหน้า แต่ต้องรับเพื่อสยบปัญหาต่างๆ "ปชป." หม่ำข้าวเชิญอดีต 3 หัวหน้าพรรคร่วม ยันไม่มีปัญหาคลื่นใต้น้ำแน่    เมื่อวันอังคารที่ 23 มิถุนายน ในเวลา 08.15 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยปฏิเสธตอบคำถามกรณีแกนนำพรรค พปชร.ไปเทียบเชิญให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.  โดย พล.อ.ประวิตรได้แต่ยิ้มเขินผ่านหน้ากากอนามัยที่สวมใส่อยู่ กระทั่งผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าให้หันมายิ้มหน่อย พล.อ.ประวิตรจึงหันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าวแบบเขินๆ ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1
    ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการตอบรับเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. หลังปรากฏภาพจับมือถ่ายรูปกับแกนนำ พปชร.ว่า "ยังไม่ได้ประกาศ คุณพูดไปเอง ต้องไปถามคนที่พูด"  แต่เมื่อถามย้ำว่ามีภาพปรากฏออกมา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ทำให้มีความกลมเกลียวกันไม่ได้หรือ ก็ดีแล้ว"
    เมื่อถามย้ำว่าต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่สามัญ พปชร.ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ใช่ แล้วแต่สมาชิกพรรค"
    ถามอีกว่า ณ วันนี้พร้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมตอบไปหรือยัง มันยังไม่ถึงเวลา" เมื่อถามอีกว่านายกฯ ระบุว่า พล.อ.ประวิตรต้องรับตำแหน่งเพราะจำเป็น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "บางทีคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เราก็ต้องไปดู"
    เมื่อถามว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.จนถึงเลือกตั้งครั้งหน้า หรือเป็นแค่ 6 เดือนตามเป็นข่าว  พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ข่าวที่ไหน ไปถามคนปล่อยข่าว" เมื่อถามย้ำว่าหมายความจะเป็นหัวหน้าพรรค  พปชร.ยาวเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่รู้ ผมยังไม่รู้เรื่องเลย"  
    ด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และรักษาการกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร.กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรตอบรับเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับพรรคการเมือง  ซึ่งพรรค พปชร.เรามุ่งหวังเป็นสถาบันทางการเมือง แม้จะก่อตั้งมาไม่ถึง 3 ปีก็ตาม แต่การได้ พล.อ.ประวิตรที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งทุกคนในพรรคเคารพนับถือ รวมถึงการทำงานในภาคประชาชน จึงถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และในโครงสร้างใหม่จะแบ่งรองหัวหน้าพรรคให้รับผิดชอบในแต่ละภาค ซึ่งตนเองก็เป็นหนึ่งใน กก.บห.ชุดใหม่ด้วย
    น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต และประธานคณะกรรมการนโยบายด้านสตรีของพรรค พปชร.กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็น กก.บห.รุ่นแรกของพรรค มั่นใจว่าการทำงานของ ส.ส. และสมาชิกพรรคภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร จะมีความเป็นหนึ่งเดียว กลมเกลียว พร้อมจะร่วมกันขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากยิ่งขึ้น เพราะ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนในพรรคให้ความรักและเคารพนับถือ มีความรักชาติและมีความเป็นผู้นำสูง สามารถเชื่อมประสาน ส.ส.ในพรรคที่มีความหลากหลายได้อย่างสมดุล
     "พลังประชารัฐอาจเปลี่ยนผู้นำและผู้บริหารพรรค แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมายและความตั้งใจที่จะสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ และทุกคนในพรรคก็พร้อมปรับเปลี่ยนเพื่อไปสู่พันธกิจนี้" น.ส.ธณิกานต์กล่าว
ศรีสุวรรณขยี้บิ๊กป้อม
    ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า การที่แกนนำพรรค พปชร.ได้รวมตัวกันเดินทางไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตรให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยใช้อาคารสำนักงานและห้องประชุมของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่กลับใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในหลายต่อหลายครั้ง อาจขัดต่อข้อบังคับของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในข้อที่ 2.7 ว่าด้วยวัตถุประสงค์ของมูลนิธิที่กำหนดว่า "ไม่ดําเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด" ตามที่นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร (ปลัดกระทรวงมหาดไทย)  ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 28 ก.พ.59 หรือไม่ อีกทั้งสํานักงานของมูลนิธิตั้งอยู่ ณ บ้านพักสวัสดิการ ทบ.  ใน ร.1 รอ. พหลโยธินซอย 8 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกองทัพ เป็นพื้นที่ของทางราชการทหาร เป็นการขัดหรือแย้งต่อ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 และเข้าข่ายความผิดตามระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551 ข้อ 5.5 ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่
    "กรณีดังกล่าวสมาคมฯ ขอเรียกร้องไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย และ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับที่ห้ามเกี่ยวข้องกับการเมืองและผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมหรือไม่ เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานของมูลนิธิต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป" นายศรีสุวรรณระบุ
     นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวตอบโต้นายศรีสุวรรณว่า "ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน ถ้ามูลนิธิเป็นสถานที่ราชการแล้วห้ามไป  นักการเมืองก็ห้ามไป กกต.สิ ซึ่งตนเองตั้งมูลนิธิมามาก ซึ่งก็จะมีข้อบังคับอยู่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ไปนั้นคือไปหา พล.อ.ประวิตร ไม่ใช่ไปหาเรื่องเกี่ยวกับมูลนิธิ และที่ไปเนื่องจากว่า พล.อ.ประวิตรสะดวก ยืนยันว่าไม่ได้ใช้พื้นที่ของมูลนิธิเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง และไม่ได้ให้มูลนิธินำเงินไปบริจาคทางการเมือง ส่วนหากใครมองว่าเป็นเรื่องผิด จะดำเนินการฟ้องก็ไปฟ้องได้เลย และตนเองก็อยู่ในนั้นหากจะฟ้องก็มาฟ้องด้วย แต่ยืนยันไม่เห็นว่าผิดตรงไหน"
    นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงบรรยากาศการไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตรว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  เพื่อขอร้องให้ พล.อ.ประวิตรมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งส่วนตัวยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้อยากจะเป็นหัวหน้าพรรคจริงๆ เลย แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ จึงต้องยอมรับตำแหน่ง และทุกคนในพรรคก็ต้องการให้ พล.อ.ประวิตรมาเป็น 
    ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หาก พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะถูกมองว่าเป็นพรรคของทหารนั้น นายไพบูลย์กล่าวว่า "คนที่เคยเป็นทหาร เกษียณมาและมาเป็นนักการเมืองถือว่าเหมาะที่สุด เพราะทหารเสียสละเพื่อชาติ และการที่ทหารมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นแล้ว ทหารมาเป็นนักการเมืองถือว่าดีที่สุด"
     ส่วนที่ศูนย์ประชุมพรรค พปชร. ย่านรัชดาฯ มีการประชุม ส.ส.พรรค โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ  ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นประธาน  โดยช่วงหนึ่งนายวิรัชได้ชี้แจงถึงการไปเชิญ พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 22  มิ.ย., การเตรียมความพร้อมของ ส.ส.ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในสัปดาห์หน้า และการเตรียมการประชุมสามัญของพรรคเพื่อเลือกหัวหน้า เลขาธิการ และ กก.บห.ชุดใหม่ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้
เสี่ยหนูยินดีบิ๊กป้อม
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  (ภท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรตอบรับเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ว่าทราบข่าวผ่านสื่อ ขอแสดงความยินดีถ้าเป็นจริง ส่วนถ้า พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.แล้วจะทำให้การประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลราบรื่นขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยแสดงปัญหาอะไรในตอนที่ทำงานร่วมกัน  ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ทุกวันนี้ก็ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี อย่าไปมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานกับพรรคแกนหลักเท่านั้น เพราะพรรค ภท.ก็ทำงานร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ  ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราร่วมมืออะไรกันมากมาย อย่างเรื่องดีๆ ไม่พูดกัน  เช่น การขออีไอเอเพื่อสร้างสถานพยาบาล ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
    ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ เพียงแต่ยิ้มเมื่อถูกถามถึงกรณีที่  พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะส่งผลอะไรหรือไม่ และพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรแล้วหรือยัง แต่เมื่อถามถึงในส่วนของ 4 กุมาร ทั้งนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์, รมว.การอุดมศึกษาฯ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ จะยังมีตำแหน่งต่อภายในพรรคหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า "อยากรู้เรื่องอะไร ให้ไปถามเจ้าตัว"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะทำให้การเมืองภายใน พปชร.เรียบร้อยขึ้นหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า "ผมจะรู้ได้อย่างไร ผมไม่ได้อยู่ในพรรค" เมื่อถามย้ำว่าท่านยังมีกำลังใจดีอยู่ใช่หรือไม่ในการทำงาน นายสมคิดกล่าวว่า "ผมทำงานให้นายกฯ"
    เมื่อถามว่าเห็น พล.อ.ประวิตรบอกจำเป็นต้องเข้ามาเพราะในพรรคคุยกันไม่รู้เรื่อง เพื่อให้สามัคคีกัน นายสมคิดกล่าวว่า "เรื่องของพรรคจะรู้เรื่องได้อย่างไร ต้องไปถามคนในพรรค" เมื่อถามว่าแต่ท่านเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค นายสมคิดตอบว่า "ผมไม่ได้ตั้งพรรค แต่ผมคิดให้นายกฯ"
     วันเดียวกันยังคงมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคพลเมืองไทย พร้อมด้วย นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ และนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เดินลงจากตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ในมือคณะที่มาด้วยกันมีซองเอกสารสีน้ำตาลระบุหน้าซองถึง พล.อ.ประวิตรอยู่ด้วย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าเดินทางมาทำเนียบฯ เพื่อพบใคร นายสุรทินพูดหยอกล้อว่ามาพบนายกฯ ขอโควตารัฐมนตรี พร้อมหัวเราะและขอว่าอย่าไปลงแบบนี้ ก่อนที่ นพ.ระวีจะกล่าวว่า "จะมาบอกนายกฯ  ว่าวันนี้กลุ่ม 11 พรรคเล็ก ไม่มีต่อรองรัฐมนตรีแน่นอน อันนั้นเป็นเรื่องของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เพียงคนเดียว" 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ถามนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย หรือยัง นพ.ระวีและนายสุรทินได้แต่เพียงหัวเราะ
ปชป.หม่ำข้าวไร้คลื่นใต้น้ำ!
    ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวยืนยันว่า การรับประทานอาหารร่วมกับ ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรคในเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ไม่ได้มีนัยหรืออะไรเป็นพิเศษ เพราะปิดสมัยประชุมมาหลายเดือน เมื่อช่วงนี้เปิดสมัยประชุมแล้วจะได้มีโอกาสสังสรรค์กันบ้างตามสถานการณ์เท่าที่ทำได้ ส่วนการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมยังไม่ได้ส่งสัญญาณและยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย ซึ่งนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์แล้วว่าการปรับ ครม.ขอให้เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่จะเป็นผู้พิจารณา ดังนั้นในส่วนของการปรับ ครม.ของพรรคจึงต้องเริ่มต้นที่นายกฯ ก่อน เพราะการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ เป็นหลัก
    เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐมนตรีของพรรคจะถูกปรับออก นายจุรินทร์กล่าวว่า การพิจารณารัฐมนตรีของพรรคต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม กก.บห.และ ส.ส.พิจารณาร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเพราะต้องรอนับหนึ่งจากนายกฯ ก่อน ส่วนข่าวลือที่ออกมานั้นไม่ทราบว่ามาจากไหน ส่วนจะมีผลต่อการทำงานหรือไม่นั้น ทุกคนทราบภารกิจดีอยู่แล้วว่า คนที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคก็เท่ากับเป็นตัวแทนที่พรรคส่งไปปฏิบัติหน้าที่ใน ครม. ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องทำอย่างเต็มที่
    ถามว่าพรรคต้องประเมินผลงานของรัฐมนตรีในพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่ายังไม่มีการประเมิน แต่รัฐมนตรีทุกคนทราบภารกิจดีอยู่แล้ว ว่าต้องทุ่มเทกำลังความสามารถและทุ่มเทเวลาให้กับการทำงาน เพราะผลงานที่ปรากฏในรัฐบาลก็จะส่งผลมาถึงพรรค ถ้าสมมุติว่ารัฐมนตรีไปทำหน้าที่ในกระทรวงแล้วไม่มีผลงาน ก็จะกระทบมายังพรรคเช่นเดียวกัน ดังนั้นทุกคนต้องรู้หน้าที่และภารกิจว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ถ้าทำให้รัฐบาลมีผลงาน พรรคย่อมมีผลงานไปด้วยในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
     เมื่อถามว่าถ้าต้องปรับรัฐมนตรีของพรรคบางคน มีเกณฑ์ในการพิจารณาที่ผลงานหรือโควตาอย่างไร นายจุรินทร์ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจากนายกฯ ฉะนั้นจึงไม่อยากพูดอะไรไปก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นประเด็นโดยไม่จำเป็น เพราะเดี๋ยวสัญญาณจะสับสน และเป็นปัญหามากกว่าที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น
    นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงงานเลี้ยง ส.ส.และ กก.บห.ในช่วงค่ำวันที่ 23 มิ.ย. ที่ร้านอาหารทีเฮ้าส์ว่า เป็นงานเลี้ยงปกติประจำเดือนที่จะมีรัฐมนตรีของพรรคหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ หลังจากที่มีการประชุม ส.ส.เสร็จก็จะไปทานอาหารต่อเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกัน ไม่ได้มีนัยทางการเมืองใดๆ และความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อที่ประชุมพรรคสรุปอย่างไร สมาชิกพรรคก็พร้อมปฏิบัติตาม นี่คือพรรคประชาธิปัตย์ที่ทุกคนมีวินัย 
    นายอัครเดชกล่าวอีกว่า งานเลี้ยงครั้งนี้มีนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคมเป็นเจ้าภาพ และทราบมาว่านายถาวรได้เชิญนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวพรรค ปชป.มาร่วมงานด้วย นอกเหนือจากที่มีนายจุรินทร์และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคที่จะมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงตามปกติทุกเดือน
    "ในการประชุม ส.ส.ของพรรควันนี้ จะมีวาระการพิจารณาคัดเลือกตัวเเทนของพรรคไปนั่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2564 ในสัดส่วนของพรรคตามที่วิปรัฐบาลได้แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้พิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในด้านงบประมาณเพื่อไปพิจารณางบประมาณปี 2564 เพื่อให้รัฐบาลใช้เงินภาษีอย่างคุ้มค่าและเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป" รองโฆษกพรรค ปชป.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"