ไล่บี้อัยการอุ้ม'โอ๊ค' ยื่นปปช.ฟันยกพวง ใช้ดุลยพินิจขัดกัน!


เพิ่มเพื่อน    


    ไม่ยอมให้ "พานทองแท้" รอดง่ายๆ ประชาธิปัตย์-พลังธรรมใหม่แยกกันไล่บี้ หลัง "บิ๊กอัยการ" มีคำสั่งไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงินกรุงไทย “แจ็ค-วัชระ” ยื่น ป.ป.ช.เอาผิดยกพวง ตั้งแต่อสส.-รอง อสส.-คณะทำงาน ฐานใช้ดุลพินิจที่ขัดกันในการสั่งคดีเดียวกัน พรรครัฐบาลยังหวัง “วงศ์สกุล” กลับคำสั่ง ยื่นอุทธรณ์ ก่อนเส้นตายสุดท้าย 25 มิ.ย.  
    ภายหลังจากที่คดีฟอกเงินการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ที่มีพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลย ได้ยุติลงจากเหตุที่คดีดังกล่าวฝ่ายอัยการโดยรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุด คือนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่อุทธรณ์คดี จนทำให้คดีสิ้นสุดลง  
    เมื่อวันจันทร์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ คณะทำงาน รองอัยการสูงสุด อัยการสูงสุดกับพวก ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามกฎหมายอาญา ม.157 และเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ตามกฎหมายอาญา ม.200 จากกรณีที่มีความเห็นไม่อุทธรณ์ต่อศาลสูงคดีนายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
      นายวัชระกล่าวอีกว่า ศาลตัดสินยกฟ้อง แต่มีผู้พิพากษาที่เป็นหัวหน้าคณะได้ทำความเห็นแย้งไว้ โดยให้ลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ 4 ปี และคณะทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีมติว่าให้อุทธรณ์คดีต่อ ทางอัยการจะต้องอุทธรณ์คดีต่อศาลสูง เพื่อวินิจฉัยให้สิ้นกระแสความสงสัยต่อสาธารณชน แต่คดีนี้อัยการกลับมีความเห็นว่าไม่อุทธรณ์คดีต่อ จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ขัดกับดุลพินิจที่สั่งฟ้องในตอนเริ่มคดี เพราะตอนเริ่มคดีพนักงานอัยการต้องเห็นว่าจำเลยมีความผิดจริงจึงฟ้องคดี การที่มีความเห็นไม่อุทธรณ์ต่อ และให้ความเห็นว่าเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาล แสดงให้เห็นว่าอัยการรู้อยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีความผิด แต่ใช้ดุลพินิจสั่งฟ้องกลั่นแกล้งจำเลยเพื่อให้ได้รับโทษทางอาญาหรือไม่ การใช้ดุลพินิจที่ขัดกันในการสั่งคดีเดียวกัน ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชน ไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานของความสมเหตุสมผล และไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติของอัยการ
     โดยนายวัชระกล่าวว่า ได้แนบฎีกาคดีต่างๆ ในการใช้ดุลพินิจของอัยการที่ไม่อุทธรณ์หรือไม่ฎีกาสำหรับการดำเนินคดีกับตระกูลชินวัตร ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีหลายคดีที่ควรจะจบและถึงที่สุดไปตั้งแต่ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แล้ว แต่อัยการกลับยื่นฎีกา ทั้งที่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลในตระกูลชินวัตร ซึ่งเป็นความผิดต่อแผ่นดิน โดยมีราชการเป็นผู้เสียหายและการฎีกาคดีตระกูลชินวัตรจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่พนักงานอัยการจะทำให้คดีถึงที่สุดเพียงแค่ชั้นอุทธรณ์เท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติสามารถไต่สวนตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการในคดีทั่วไปของประชาชน เพื่อใช้เปรียบเทียบกับการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการในคดีของตระกูลชินวัตร ก็จะเห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายในการสั่งคดีของอัยการได้ การกระทำของอัยการเปรียบเสมือนกับการตัดตอนความยุติธรรมมิให้นำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลสูง ซึ่งมิอาจยอมรับได้ จึงต้องยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.วินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป
    วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด จากกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งไม่อุทธรณ์ในคดีนายพานทองแท้ ชินวัตร
    โดยเนื้อความบางส่วนในหนังสือเปิดผนึกระบุว่า “ประชาชนกำลังเฝ้ารอ และมีความหวังให้ทบทวนการสั่งไม่อุทธรณ์ในคดีฟอกเงินของนายพานทองแท้ โดยในเวลานี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็ยังไม่ได้แถลงถึงเหตุผลที่มีคำสั่งไม่อุทธรณ์ในคดีนี้ ถึงวันนี้เราเชื่อว่าอัยการสูงสุดได้ติดตามข่าวสาร มิได้นิ่งนอนใจ และรับทราบถึงกระแสความเคลือบเเคลงสงสัยในการสั่งไม่อุธรณ์คดีนี้กระจายไปอย่างกว้างขวาง และตั้งความหวังว่าท่านอัยการสูงสุดอาจจะกำลังมีแนวคิดทบทวนเพื่อพิจารณาอย่างรอบคอบ สมเหตุสมผล และยกเลิกคำสั่งไม่อุทธรณ์ในคดีนี้
    หนังสือดังกล่าวย้ำว่า พรรคพลังธรรมใหม่ขอให้อัยการสูงสุดฟังเสียงประชาชนที่ยังเชื่อมั่นศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ท่านควรพิจารณายกเลิกคำสั่งที่ลงนามโดยรองอัยการสูงสุดที่ได้ลงนามแทนท่านอัยการสูงสุด เพื่อเปิดทางการทบทวนในการยื่นอุทธรณ์ในคดีนี้ แต่ถ้าท่านยังยืนยันว่าไม่ทบทวนคำสั่งไม่ยื่นอุทธรณ์คดีขึ้นสู่ศาลสูง ท่านควรแถลงถึงเหตุผลในทุกประเด็นให้สังคมสิ้นสงสัย ว่าเหตุใดท่านไม่เดินไปให้สุดตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้อัยการสูงสุดไม่ควรปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เราเห็นว่าเวลาที่เหลืออีก 4 วันจนถึงวันที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ให้ถึงวันที่ 25 มิถุนายนนี้ อัยการสูงสุดยังพอมีเวลา ซึ่งถือว่าเป็นห้วงเวลาที่สำคัญ และควรใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
    “ทางพรรคพลังธรรมใหม่ยังเชื่อมั่นในจุดยืนของท่านอัยการสูงสุด และเชื่อมั่นในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งต้องดำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน และคงไว้ซึ่งความถูกต้องเป็นธรรม หวังว่าท่านจะใช้โอกาสครั้งนี้สร้างบรรทัดฐานใหม่ และเร่งกอบกู้ภาพลักษณ์ของการทำหน้าที่ทนายแผ่นดินให้กลับมาเป็นที่คาดหวังของประชาชนตามกระบวนการยุติธรรม ก็จะถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี” จดหมายดังกล่าวของพรรคพลังธรรมใหม่ระบุไว้.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"