ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ชมการบินทดสอบต่อหน้าสาธารณะครั้งแรกของเครื่องบินฝึกไอพ่นรุ่นใหม่ "เอที-5 เบรฟอีเกิล" ที่ไต้หวันออกแบบและผลิตเอง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเสริมสร้างการป้องกันทัดทานการท้าทายที่เพิ่มขึ้นของจีน

    ประธานาธิบดีไช่กล่าวถึงพิธีเปิดตัว "เอที-5 เบรฟอีเกิล" เครื่องบินฝึกไอพ่นรุ่นก้าวหน้า (เอเจที) ที่ไทจงเมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นส่วนสำคัญยิ่งของการทำให้การพึ่งพาตนเองในการป้องกันประเทศเป็นความจริง

    "เครื่องบินฝึกรุ่นใหม่นี้มิเพียงสร้างโอกาสการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังส่งต่อประสบการณ์และฝึกฝนผู้มีความสามารถทางเทคนิครุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ" ไช่กล่าว

    เครื่องบินฝึกเอที-5 แสดงการบินต่อหน้าประธานาธิบดีไช่นาน 12 นาที เครื่องบินลำนี้บินทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นเวลาไม่ถึง 1 ปีนับแต่ไต้หวันเปิดตัวเครื่องบินต้นแบบ ที่ใช้งบประมาณราว 2,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นเครื่องบินไอพ่นที่ไต้หวันผลิตเองลำแรกในรอบมากกว่า 3 ทศวรรษ นับแต่ผลิตเครื่องบินรบเอฟ-ซีเค-1 ชิงกั๋ว โดยกองทัพอากาศไต้หวันวางแผนจะผลิต 66 ลำภายในปี 2569 เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินฝึกเอที-3 และเอฟ-5 ลำเก่า

    การเปิดตัวเครื่องบินฝึกรุ่นใหม่ที่ผลิตเองเกิดในช่วงยามที่ฝูงบินรบไอพ่นของไต้หวันที่มีอายุใช้งานนานกำลังเผชิญความท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อนจากจีน ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เครื่องบินจีนเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง

    ปัจจุบันไต้หวันมีเครื่องบินขับไล่อยู่ราว 300 ลำ ทั้งหมดใช้งานมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ซึ่งรวมถึงเอฟ-16 ของสหรัฐ, มิราจ 2000-5 ของฝรั่งเศส และเครื่องบินรบที่พัฒนาเอง สหรัฐเป็นพันธมิตรหลักอย่างไม่เป็นทางการและผู้ขายอาวุธรายใหญ่ของไต้หวัน แต่ที่ผ่านมาไต้หวันประสบปัญหาในการขอซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่จากสหรัฐ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขายเอฟ-16 รุ่นล่าสุด 66 ลำแก่ไต้หวัน เพิ่มเติมจากอาวุธล็อตใหญ่ที่รวมถึงมิสไซล์และยานหุ้มเกราะ.