บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมารวมมากกว่า 50,000 รายแล้ว จากผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านราย ส่วนสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตรายวันต่ำกว่า 400 ศพเป็นครั้งที่ 3 ขณะทั่วโลกติดเชื้อใกล้ถึง 9 ล้านราย

แฟ้มภาพ สุสานในเมืองวีลาฟอร์โมซา นครเซาเปาลู ที่ใช้ฝังร่างเหยื่อโควิด-19

    บราซิลเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และผู้ป่วยเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตในบราซิลก็ผ่านหลัก 50,000 ศพแล้ว หลังจากกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 641 รายภายใน 24 ชั่วโมง และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 50,617 ราย

    บราซิลพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกในประเทศเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในบราซิลผ่านหลัก 1 ล้านรายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงวันอาทิตย์ผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,085,038 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในบราซิลสูงกว่านี้มาก เพราะบราซิลยังไม่ได้ตรวจเชื้ออย่างแพร่หลาย

    ประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งเคยเปรียบเทียบโควิด-19 ว่าเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลระดับท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์กักกันโรคประชาชนที่บ้านและปิดธุรกิจ เขาแย้งว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการเหล่านี้เลวร้ายกว่าโรคระบาด เขายังสนับสนุนให้ใช้ยาต้านมาลาเรียทั้งคลอโรควินและไฮดรอกซีคลอโรควินในการรักษาโควิด-19 แม้ว่าองค์การสหประชาชาติและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนถึงความเสี่ยง

    สถานการณ์ในบราซิลเลวร้ายรองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อวันอาทิตย์เผยว่า สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเพียง 305 รายภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นยอดต่ำกว่า 1,000 ศพเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 3 นับแต่การระบาดเข้าสู่ภาวะรุนแรงที่สุดเมื่อกลางเดือนเมษายน ที่สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตวันละไม่ถึง 400 ราย

    แต่ในภาพรวมสหรัฐมีผู้เสียชีวิตมากกว่าบราซิลเกินเท่าตัว โดยยอดล่าสุดในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตในสหรัฐแล้ว 119,975 ราย จากผู้ติดเชื้อสะสม 2,280,912 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลกตามข้อมูลของจอห์นฮอปกินส์ช่วงบ่ายวันจันทร์มี 8,953,598 ราย เสียชีวิต 468,346 ราย

    ราว 20 มลรัฐของสหรัฐพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ศูนย์กลางการระบาดย้ายจากรัฐนิวยอร์กและเมืองในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือไปยังรัฐในภาคตะวันตกเฉียงใต้

    หลายประเทศในลาตินอเมริกาสถานการณ์ยังรุนแรง โดยเฉพาะที่เม็กซิโก, เปรู และชิลี จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นและบีบให้ระบบสาธารณสุขใกล้พังครืน เม็กซิโกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 รายแล้วในตอนนี้ จากผู้ติดเชื้อ 180,545 ราย ส่วนเปรูมียอดผู้เสียชีวิตเกิน 8,000 รายเมื่อวันอาทิตย์ จากผู้ติดเชื้อสะสม 251,338 ราย มากเป็นอันดับ 6 ของโลกรองจากสหรัฐ, บราซิล, รัสเซีย, อินเดียและสหราชอาณาจักร ขณะที่ชิลียอดเสียชีวิตเพิ่มเกือบเท่าตัวจากวันเสาร์ เป็น 7,144 รายในวันอาทิตย์ จากผู้ติดเชื้อ 242,355 ราย.