21 มิ.ย. 2563 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาโควิด-19 เริ่มจางลง แต่ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 กำลังจะกลับมา ทั้งที่ประชาชนพึงมีสิทธิ์ได้รับอากาศสะอาด ปราศจากมลพิษ แต่ค่าฝุ่น PM 2.5 กลับมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี ฝุ่นประเภทนี้มีขนาดเล็กทำให้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และยังส่งผลร้ายต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว คณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นชอบ แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติเรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละลอง ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2562 นับจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังเสียที หรือแผนดังกล่าวคือจะเป็นแค่การวาง แพลนนิ่ง เพราะ นิ่งจนประชาชนยังไม่เห็นถึงการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม หากรัฐบาลสามารถนำข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวเผยแพร่ในเว็บไซด์ของรัฐบาลไทยเพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้และตรวจสอบความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการดังกล่าวแบบวันต่อวันได้ ก็จะเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจต่อประชาชนเป็นอย่างมาก
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทุกคันซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 และต้องดำเนินการตรวจตราอย่างเคร่งครัด สั่งปิดโรงงานที่ปล่อยมลพิษเกินค่ามาตรฐาน และจะต้องไม่อนุญาตให้โรงงานนั้นเปิดทำการจนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ พัฒนาแอปพลิเคชันตรวจเช็คคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอุตสาหกรรม และต้องดำเนินนโยบายผลักดันให้พลเมืองเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้รัฐต้องมีนโยบายลดภาษีการต่อทะเบียนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) เป็นร้อยละ 0 สร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศให้ทั่วถึงและเพียงพอต่อความต้องการใช้ภายใน 3 ปี มีช่องจราจรพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะบริเวณที่มีการจราจรติดขัด ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะฟรีในวันที่มีฝุ่นควันเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝน มักเห็นสำนักงานเขตออกมาตัดต้นไม้เนื่องจากเกรงว่าลมที่พัดแรงในหน้าฝนจะพัดกิ่งก้านของต้นไม้ไปโดนสายไฟ บ่อยครั้งการตัดต้นไม้จนแทบจะไม่เหลือใบปราศจากหลักรุกขศาสตร์ทำให้ต้นไม้ตายและไม่สามารถช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อีก รัฐบาลควรดำเนินโครงการนำสายไฟลงดินอย่างเร่งด่วน และสนับสนุนให้ประชาชนปลูกต้นไม้โดยมีแรงจูงใจเป็นนโยบายลดหย่อนภาษี ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ ถ้าหากเรามีอากาศที่บริสุทธิ์ด้วย คุณภาพชีวิตของคนไทยก็จะดียิ่งขึ้น สุขภาพแข็งแรงมากขึ้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจ อย่างที่กล่าวไว้ ก็ควรนำงบประมาณอันมีที่มาจากเงินภาษีของประชาชนมาแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 แน่นอนว่าย่อมคุ้มค่ากว่าการนำเงินของประชาชนไปซื้อเรือดำน้ำ รถถัง และเครื่องบินรบ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |