ท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่หลายธุรกิจต้องประสบกับความซบเซาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน SOdA PrintinG ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่แพ้กัน แต่ทว่าสองซีอีโอพี่น้องอย่าง “ธีรศานต์ สหัสสพาศน์” และ “ธวัชชัย สหัสสพาศน์” ที่ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท โซดา พริ้นติ้ง จำกัด มาเป็นระยะเวลา 14 ปี กลับมีวิธีคิดในการปรับตัวที่น่าสนใจ ประคับประคองธุรกิจต่อไปได้ ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพนักงานที่มีและอีกหลายครอบครัวใน จ.เพชรบุรี อีกด้วย

        สำหรับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา SOdA PrintinG ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการเปลี่ยนมุมมองต่อธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่ด้วยจุดขายใหม่ นั่นคือการลงเล่นในตลาดของขวัญ โดยชูจุดขายกับการเป็นของขวัญแบบนี้มีชิ้นเดียวในโลก เน้นกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ซึ่งจะทำการพิมพ์ภาพที่ต้องการลงบนผ้าใบแคนวาส เพื่อมอบเป็นของขวัญ ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น เพื่อมอบให้กันในโอกาสต่างๆ เช่น วันเกิด วันวาเลนไทน์ วันรับปริญญา และเมื่อสัญญาณวิกฤติโควิด-19 เริ่มต้นขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีอยู่ ไม่ต่างจากคนอื่นๆ

        ธีรศานต์ กล่าวว่า นอกเหนือจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ของขวัญ ยังมีธุรกิจร้านอาหารใน จ.เพชรบุรี ที่ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นทัวร์จีน และด้วยระบบเดลิเวอรีในจังหวัดยังไม่ค่อยแพร่หลาย ทำให้ร้านต้องปิดตัวลง ลูกจ้างที่มีอยู่ในทั้งสองธุรกิจประมาณ 120 คนก็ต้องหยุดงานลง จึงต้องหาทางที่จะปรับธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ ถ้าธุรกิจยังไปต่อได้ พนักงานและลูกจ้างก็จะยังมีงานทำ มีรายได้ในการดำรงชีวิต

        แม้ความคิดที่จะพาธุรกิจให้รอดโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การจะเป็นไปได้จริงนั้นไม่ง่ายเลย  เพราะสถานการณ์ที่ไม่น่าจะมีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะมอบของขวัญให้กันได้ “แทนที่จะคิดเล่นในตลาดของขวัญแบบเดิม เรากลับมาดูที่ทรัพยากรที่มีอยู่ นั่นก็คือเครื่องพิมพ์ที่สามารถผลิตงานพิมพ์ผ้าได้อย่างมีคุณภาพ และมีแรงงานที่พร้อมทำงานจากที่บ้าน ประกอบกับจุดแข็งของธุรกิจเดิม นั่นคือฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ที่บริษัทมีความเข้าใจความต้องการ รวมทั้งสถานการณ์ที่บีบคั้นให้พวกเขาต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตด้วยการใส่หน้ากากในชีวิตประจำวัน ที่ผ่านมาพบว่าการใส่หน้ากากของกลุ่มวัยรุ่นมีความละเอียดอ่อนกว่าที่ใครๆ โดยเฉพาะเรื่องของความอึดอัดในการสวมใส่ หรือทำให้เครื่องสำอางเลอะเทอะ หายใจแล้วมีไอน้ำเกาะแว่น ที่สำคัญคือใส่แล้วทำให้รูปหน้าดูไม่สวย เราจึงปรับมาทำสินค้าที่ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านี้”

        การพัฒนาแมสก์ผ้าของ SOdA PrintinG จึงเริ่มต้นขึ้นและปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง จนได้แมสก์ผ้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งานของบรรดาวัยรุ่นได้อย่างแท้จริง วัสดุมีคุณภาพ น้ำหนักเบา สวมใส่แล้วไม่อึดอัด หายใจสะดวกกว่าแมสก์ผ้าทั่วไป โดยไม่ทำให้มีไอน้ำเกาะแว่นตา รวมทั้งมีความสวยงาม รูปทรงที่เข้ากับใบหน้า และลวดลายที่พิมพ์ลงบนผ้า

        หลังจากที่แมสก์ผ้า SOdA PrintinG เริ่มกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นจากการทำการตลาดออนไลน์ ก็นำมาซึ่งยอดการจำหน่ายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่ากำลังการผลิตก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย “ธวัชชัย” บอกว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหม่สำหรับธุรกิจที่สามารถตีโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นได้ แต่ความสำเร็จที่สำคัญกว่าคือการทำให้สามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวเพชรบุรีได้ โดยหลังจากที่วัสดุในการผลิตถูกพิมพ์ออกจากโรงงานแล้ว จะถูกรับไปตัดเย็บและส่งกลับมาเพื่อทำความสะอาดและตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย ปัจจุบันเรามีเครือข่ายของพนักงานและลูกจ้างเดิม รวมทั้งผู้ต้องการมีรายได้ในช่วงโควิด-19 ที่รับงานไปตัดเย็บอยู่ราว 400 คน แต่ละคนสามารถตัดเย็บแมสก์ผ้าได้ประมาณ 50-100 ชิ้นต่อวัน ขึ้นอยู่กับความชำนาญ ทำให้พวกเขามีรายได้หลักพันต่อวัน สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำกว่าเท่าตัว และยังสามารถทำงานจากที่บ้านได้ด้วย

        ในตอนนี้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อแมสก์ผ้าแฟชั่นหรือสั่งผลิตแมสก์ผ้าพิมพ์ลายได้อย่างสะดวก ผ่านทาง SOdAPrintinG.com รวมทั้งช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของแบรนด์ ซึ่งบริษัท โซดา พริ้นติ้ง จำกัด นับเป็นอีกธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้อยู่รอดได้อย่างน่าสนใจ โดยไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับแรงงานและชุมชนที่จะต้องรอดไปด้วยกัน โดยทุกๆ ยอดการซื้อคือรายได้ที่จะไปสู่ชาวเมืองเพชรบุรีได้อีกหลายครัวเรือน.