20 มิ.ย.63 - นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาประกาศว่ามีเสียงสนับสนุนให้เป็นรัฐมนตรี จำนวน9เสียง ว่า จากการสอบถามพบว่า พรรคเล็กอย่างน้อย 4 พรรคจาก 11 พรรค ประกอบด้วย พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคประชาภิวัฒน์ และพรรคพลังธรรมใหม่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอยู่ใน 9 พรรคตามที่นายมงคลกิตติ์ได้ประกาศไว้ และไม่ทราบว่า 9 พรรคดังกล่าวเป็นพรรคอะไรบ้าง

ส่วนเรื่องของโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น นพ.ระวี กล่าวว่าสำหรับพลังธรรมใหม่ไม่มีความคิดที่จะไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะรู้ตัวดีว่ามีเพียงหนึ่งเสียง ดังนั้นสิ่งที่จะทำ คือ ทำผลงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนให้ดีที่สุด ซึ่งไม่มีความคิดที่จะไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับตัวตนเอง หรือให้กับพรรคพลังธรรมใหม่ แต่หากสมมุติว่านายกรัฐมนตรีไฟเขียวว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้จะเป็นการปรับครั้งใหญ่ โดยใครที่สามารถรวบรวมเสียงของ ส.ส.ได้ 8-10 เสียง ก็อาจจะมีการพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีให้ โดยพรรคจะเลือกสนับสนุนบุคคลที่คิดว่ามีความเหมาะสม และประชาชนยอมรับได้ต่อไป

นพ.ระวี กล่าวอีกว่า การปรับครม. ย่อมมีผลกระทบดูได้จากบทเรียนของพรรคพลังธรรมในอดีตเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว การที่พรรคพลังธรรมมีการปรับ ครม.ใหม่ทั้งหมดครั้งนั้นส่งผลให้พรรคพลังธรรมแตก และภายหลังจากนั้นในระยะเวลา 1-2ปี พรรคพลังธรรมก็ทรุดและแตกแยกกระเส็นกระสายไปคนละทิศ นี่ถือเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับพรรคพลังธรรมในอดีต ต่อมาพรรครัฐบาลในอดีตหลายๆพรรค ที่ได้มีการปรับ ครม.หลายๆครั้ง ในที่สุดก็กระเทือนจนเกิดปัญหา เพราะว่าการปรับนั้นไม่ใช่แค่พรรคพลังประชารัฐเพียงอย่างเดียว อีกทั้งจะต้องมีคำถามไปที่พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีเสียงต่างกันอยู่8เสียง ควรจะ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเท่ากันเหมือนเดิมหรือไม่ รวมไปจนถึงพรรคชาติพัฒนาที่มีเสียงเพียงแค่4เสียงยังจะสามารถได้โควตารัฐมนตรีอยู่หรือไม่ หรือแม้กระทั่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่มีเสียงเพียงแค่ 5 เสียงยังจะคงได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นกระทรวงใหญ่อยู่อีกต่อไปหรือไม่ มันก็จะมีปัญหา แต่ว่าการปรับครั้งนี้ปัญหาอาจจะไม่มากก็ได้ อาจจะมีการแตกแยกเล็กๆ แต่ทุกคนก็อาจจะต้องยอมรับ

นอกจากนี้ นพ.ระวี ยังกล่าวถึงการปรับทีมเศรษฐกิจ ว่า ถ้าทีมเศรษฐกิจดูเข้าท่า เป็นไปได้ ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ และพรรคพลังธรรมใหม่ก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากเลือกมาแล้วไปไม่รอด เจอเสือสิงห์กระทิงแรด อย่างนี้ก็จะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงพอจะทราบอยู่ และคิดว่าท่านก็คงจะมีจุดยืนของท่าน ว่าจะเลือกแล้วให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ หรือว่าจะเป็นเพียงการแก้ปัญหาภายในเป็นหลักโดยไม่ได้คำนึงถึงผลในระยะยาว