ฉายแววรัฐมนตรี! 'เต้' โชว์กึ๋น 20 ปัญหาการศึกษาไทยในยุค New Normal ที่ควรแก้ไข


เพิ่มเพื่อน    

20 มิ.ย.63 - นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

 "ปัญหาการศึกษาไทยในยุค New Normal ที่ควรแก้ไข"                               

ในแนวคิดของผมที่อยู่ในแวดวงการศึกษามากว่า 15 ปี ทั้งประสบการณ์ตรง เคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนจิตรลดา ,อาจารย์พิเศษในโรงเรียนมัธยมหลายแห่ง ,อาจารย์ติวเตอร์หลายสถาบันสอนทั้ง วิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี พื้นฐานวิศวกรรม สอนจนถึงระดับ อุดมศึกษาปี 1-2  เคยอยู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งทำงานในภาคประชาชนตรวจสอบการทุจริตหลากหลายโครงการ อาทิ การทุจริตการรับนักเรียนหรือแป๊ะเจี๊ย การทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล การทุจริตโครงการ safe zone school การทุจริตโครงหนังสือยืมเรียน การทุจริตสร้างห้องเรียน e-class room/e-library การทุจริตจัดซื้อคุรุภัณฑ์อาชีวะงบไทยเข้มแข็ง  การทุจริตเงินกองทุน ใน สกสค. การจัดซื้อแท๊ปเล็ต   พร้อมเสนอแนะแก้ปัญหาต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมมองปัญหาออกว่าปัญหาแต่ละเรื่องจะแก้อย่างไร กระทรวงศึกษาธิการ  มีหน่วยงานในกำกับ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สภาการศึกษา การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) การศึกษาเอกชน (สช.)  สกสค.  องค์การค้าของ สกสค. และ คุรุสภา  มีข้าราชครูกว่า 4 แสนคน นักเรียนกว่า 12 ล้านคน ผู้ปกครองกว่า 24 ล้านคน  ข้องเกี่ยวกับประชาชนโดยตรง ผมจึงสรุปสิ่งที่ควรแก้ไข พอสังเขป  ดังนี้

1.รัฐควรจัดสรรจ่ายค่าบำรุงการศึกษาแทนผู้ปกครองทุกคนขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ เตรียมอนุบาล-อนุบาล-ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา-ปวช1-3 เรียนฟรีจริงๆ ให้เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน                             

2.รัฐต้องดูแลเด็กตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-อนุบาล ช่วง 1.5-6 ขวบ อย่างดีที่สุด เป็นช่วงที่พัฒนาสมองดีที่สุด อาทิ เพิ่มอาหารเสริมสมอง(นมโรงเรียน) เพิ่มทักษะคิดวิเคราะห์ ความฉลาดทางอารมณ์ เพิ่มงบอุดหนุนอาหารกลางวัน

3.จัดการอุดหนุนรายหัวนักเรียนใหม่ ทุกระดับ ให้เหมาะกับขนาดโรงเรียน ใกล้ไกลให้สอดคล้องกัน โดยไม่มีจุดรั่วไหลในการทุจริตงบรายหัวที่ซ้ำซ้อนกัน          

4.เพิ่มชั่วโมงการสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน อีก 1-2 เท่า ทุกระดับ จากปกติ

5.แก้ปัญหาราคาหนังสือแบบเรียน สำหรับ นักเรียน 12 ล้านคน อาทิ วิชาคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ ของ สสวท. ที่มีราคาแพงมากไม่สอดคล้องกับภาคเอกชนที่มีราคาเหมาะสม ทำให้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักเรียนได้หนังสือไม่เคยครบ 8 กลุ่มสาระ ได้แค่  3 สาระ เพิ่มภาระผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์เงินอุดหนุนค่าหนังสือรายหัวนักเรียน

6.จัดการเรียนการสอนแบบเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงยังไม่มีวัคซีนแก้ไวรัสโควิด-19 ลดเวลาเรียนในห้องเรียน เรียนเป็นผลัด  เพิ่มสัดส่วนเรียนผ่านออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งจัดหาสื่อการเรียนการสอน ระดับ เตรียมอนุบาล-อนุบาล-ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา สำเร็จรูป หรือ ครูผู้สอนบันทึกเทปการเรียนการสอนไว้ให้นักเรียนเรียนและทบทวน รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกเพื่อการเรียนการสอน 

7.จัดทำวิชา ประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้นักเรียนทุกระดับซึมซับอยู่ในสายเลือดของความเป็นชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่มีมาอย่างยาวนานกว่าเกือบ 800 ปี 

8.แก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย ครู ผู้บริหาร ให้เกิดความยุติธรรม สุจริต เป็นธรรม  โดยโอนอำนาจไปเป็นของ  เขตพื้นที่การประถมศึกษา และ  เขตพื้นที่การมัธยมศึกษา ตามเดิม

9.การเลื่อนวิทยฐานะครู ขึ้นอยู่กับคุณภาพของนักเรียนแรกเริ่มเปรียบเทียบปัจจุบัน โดยไม่ผูกติดกับการอบรมครูหรือการทำผลงาน

10.ส่งเสริมให้นักเรียนที่มีความสามารถแต่ละด้านไปให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะ ด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กีฬา ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ

11.แก้ปัญหาขนาดห้องเรียนให้เหมาะสมกับคุณภาพผู้เรียนไม่เกิน ห้องละ 20 คน(อนุบาล) ห้องละ 30 คน(ประถม) ห้องละ 40 คน(มัธยม) เฉพาะโรงเรียนขนาดกลาง ใหญ่ ใหญ่พิเศษ เป็นการกระจายทรัพยากรครู สถานที่ ภาระงานให้ได้ประสิทธิภาพ อีกอย่างเป็นแก้ปัญหาแป๊ะเจี๊ยหรือทุจริตการเข้าเรียนไปในตัว

12.ส่งเสริมให้นักเรียนศึกษาต่อในระดับอาชีวะศึกษา เพิ่มตลาดแรงงานเฉพาะด้าน ให้มีเงินเดือนตั้งแต่เรียน ปวช1-3 รองรับกับงานภาคเอกชน ที่มีคุณภาพ สามารถทำงานได้เลย                        

13.แก้ปัญหานักเรียน นักศึกษา ตีกัน โดยใช้วิชาการทหารนำ                             

14.แก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศของครูกับนักเรียน โดยใช้กฏหมายบังคับ และ ให้ครูมีที่ปลดปล่อยตามกฏหมาย

15.แก้ปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบ ตัดหนี้ดอกเบี้ยเดิม ตั้งธนาคารครูแห่งประเทศไทย เพื่อซื้อหนี้เก่า  เริ่มใหม่ ให้ดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5-4.5% ทำให้ครูมีสภาพคล่องในชีวิตมากขึ้น 

16.แก้หนี้ องค์การค้าของ สกสค.กว่า 6 พันล้านบาท โดยการใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า  สร้างรายได้เพิ่ม คานอำนาจราคาหนังสือกับเอกชน

17.ปรับปรุงให้คุรุสภามีความเข้มแข็งในการควบคุมมาตรฐานวิชาชีพ

18.ปรับปรุง สกสค. โดยเฉพาะ กองทุน ช.พ.ค.-ช.พ.ส.เพิ่มศักยภาพให้การดูแล ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

19.ส่งเสริมให้โรงเรียนเอกชนมีความเข้มแข็ง เพื่อแข่งขันกับโรงเรียนรัฐบาล เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ

20.เพิ่มศักยภาพสภาการศึกษาให้เป็นมันสมองในการขับเคลื่อนการศึกษาภาพรวม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"