ผลประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า พรรคพลังประชารัฐจะจัดการประชุมใหญ่พรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ในวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ เมืองทองธานี
บนความชัดเจน ไม่มีพลิก ก็คือที่ประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐจะเทเสียงเห็นชอบให้ "บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ-ผู้จัดการรัฐบาล" ขยับจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ มานั่งแท่นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ แทนอุตตม สาวนายน ส่วนเลขาธิการพรรคคนใหม่ที่จะมาแทนสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ถึงตอนนี้ลงตัวแล้วที่เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาสัย ส.ส.ชัยนาท แกนนำกลุ่มสามมิตร
"บิ๊กป้อม-เสี่ยแฮงค์"
จึงจะเข้ามาเป็น "ดูโอ-บุ๋นบู๊ คุมหางเสือพลังประชารัฐ" อย่างเป็นทางการตั้งแต่เสาร์หน้า 27 มิ.ย. หลังจากก่อนหน้านี้ บิ๊กป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตัวจริง อยู่หลังฉากการตั้งพรรคพลังประชารัฐมาร่วมสองปี ตั้งแต่สมัยเป็นรองนายกฯ-รมว.กลาโหม ยุครัฐบาล คสช.
ขณะที่แกนนำคนอื่นๆ โดยเฉพาะพวกรัฐมนตรีของพลังประชารัฐ ก็จะเป็นรองหัวหน้าพรรคไปตามสัดส่วน-โควตา ที่ก็จะมีอาทิ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สมศักดิ์ เทพสุทิน, ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขณะที่สันติ พร้อมพัฒน์ ที่เคยเป็นแคนดิเดตเลขาธิการพรรค ก็จะไปเป็นผู้อำนวยการพรรค
โดยรายละเอียดเรื่องขั้นตอนการเลือกกรรมการบริหารพรรค-จำนวนกรรมการบริหารพรรคจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการจัดทำข้อสรุปที่จะออกมาเป็นข้อบังคับพรรค ที่คณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดประชุมใหญ่พรรค ซึ่งมี ไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน จะนำข้อสรุปเสนอให้ที่ประชุมใหญ่พรรคเห็นชอบและดำเนินการต่อไปในวันที่ 27 มิ.ย.
จากนั้นคาดว่าเมื่อการจัดทัพ-แชร์อำนาจรอบใหม่ในพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาลเสร็จสิ้นลง ที่จะต้องมีบางกลุ่มเสียอำนาจ-เสียหน้า อย่าง "กลุ่มสมคิด จาตุศรีพิทักษ์-อุตตม สาวนายน" ที่สูญเสียการคอนโทรลอำนาจในพรรคพลังประชารัฐไปจนหมดสิ้น
หลังจากนั้น ฉากต่อไปทางการเมืองก็คงนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี "ประยุทธ์ 2/2" ตามมาในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งถึงตอนนั้น สถานการณ์โควิดน่าจะคลี่คลายมากขึ้น หากไม่มีการระบาดซ้ำ ผนวกกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ก็จะผ่านสภาวาระแรกในสัปดาห์หน้านี้แล้ว อีกทั้งปลายเดือน ก.ค. ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงเตรียมพิจารณาจัดทัพอำนาจต่างๆ เช่น การแต่งตั้งผู้นำทหาร-ตำรวจคนใหม่ ที่ปีนี้ถือว่าพิเศษและมีความสำคัญ เพราะจะมีการแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งสิ้น ทั้ง ผบ.ทบ.-ผบ.สส.-ผบ.ทอ.-ผบ.ทร. และ ผบ.ตร. ที่น่าจะเริ่มพิจารณาทำไปในจังหวะใกล้เคียงกันกับการปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2
การปรับทัพในพรรคพลังประชารัฐในสัปดาห์หน้านี้ จึงเป็นฉากแรกของการจัดทัพอำนาจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่จะขึ้นสู่ปีที่ 2 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ฉากการเมือง ระยะสั้นสิ่งที่ต้องจับตาดูก็คือ หลังการจัดทัพในพรรคพลังประชารัฐเสร็จสิ้น และมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นแล้ว "กลุ่มสมคิด-อุตตม” ในพลังประชารัฐและรัฐบาลจะมีสถานะอย่างไร จะยังยืนยัน "มาด้วยกัน ก็ไปด้วยกันหมด” แบบที่คนในกลุ่มอย่าง สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ เคยพูดไว้หรือไม่ ซึ่งก็คือ หากมีใครคนใดคนหนึ่งจาก 4 เก้าอี้รัฐมนตรีเวลานี้คือ สมคิด-รองนายกฯ, อุตตม-รมว.การคลัง-สนธิรัตน์ รมว.พลังงาน-สุวิทย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ ต้องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี ทุกคนก็พร้อมโบกมือลาไปด้วยกันหมดยกแผง ในฐานะทีมสมคิด หรือจะออกมาในแนว หากมีใครคนใดคนหนึ่งหรือสองคนยังอาจได้ไปต่อ คนที่ได้อยู่ต่อในประยุทธ์ 2/2 ก็พร้อมจะแยกออกจากทีมเพื่อกอดเก้าอี้ต่อไป
ซึ่งถึงตอนนี้ หลายฝ่ายในพลังประชารัฐเชื่อว่าความเป็นไปได้น่าจะออกมาสูตรแรก คือทีมสมคิดอาจจะ “หลุดยกทีม-ไปทั้งแผง”
จนเริ่มเกิดกระแสข่าว บิ๊กป้อม-ผู้จัดการรัฐบาล เตรียมทาบทามนักธุรกิจ-นักการเงินการธนาคารบางคนที่คุ้นเคยกับแกนนำรัฐบาล ให้เตรียมเข้ามาร่วมงานรัฐบาลไว้แล้ว หากประเมินว่าบางตำแหน่ง เช่น รมว.การคลัง สุดท้ายหากจะดันสันติ พร้อมพัฒน์ จาก รมช.การคลัง ไปเป็น รมว.การคลัง อย่างที่มีกระแสข่าว แล้วกระแสตอบรับอาจไม่เป็นทางบวกต่อภาพรวมของรัฐบาลพลเอกประวิตร ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ก็คงไม่อยากฝืนกระแสสังคม ต้องหาตัวเลือกที่ดีกว่า
โดยกระแสข่าวการทาบทามมือเศรษฐกิจคนใหม่ๆ ให้เข้ามาร่วมรัฐบาล ข่าวที่ออกมาก็ยังไม่ระบุชัดว่าเป็นใคร มีแต่ชื่อของนายแบงก์-อดีตผู้บริหารธนาคารรุ่นใหญ่หลายคนถูกโยนหินถามทางผ่านสื่อ ตลอดจนบางกระแสก็อ้างว่าอาจเป็นบุคคลที่มาช่วยงานรัฐบาลที่อยู่ในคณะกรรมการชุดต่างๆ เวลานี้ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าตัวจริงเสียงจริงที่บิ๊กตู่-บิ๊กป้อมเล็งๆ ไว้คือใคร
จะมีก็แค่ข่าวบางกระแสบอกว่า บางชื่อที่บิ๊กป้อมเตรียมทาบทามให้มาช่วยทีมเศรษฐกิจรัฐบาลอาจเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง แต่บุคคลดังกล่าวมีความใกล้ชิดและทำงานร่วมกับสมคิด-อุตตมมาหลายปี จึงเกรงใจสมคิด-อุตตม หากจะต้องเข้ามาเสียบแทน เลยอาจปฏิเสธเพื่อรอจังหวะที่ดีกว่านี้ หรือบางกระแสก็บอกว่าเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่เคยมีชื่อรัฐบาลจะทาบทามให้มาร่วมผ่าตัดฟื้นฟูการบินไทย เป็นต้น
มองไปแล้ว ความไม่ชัดเจนของเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการปรับ ครม.กว่าจะเกิดขึ้นก็เดือนหน้าหรือสิงหาคม อีกทั้งเมื่อยังไม่มีสัญญาณว่ากลุ่มสมคิดจะตัดสินใจอย่างไร ฝ่ายบิ๊กป้อมและคนที่ถูกทาบทามก็ต้องรอประเมินสถานการณ์ให้นิ่งก่อนถึงค่อยขยับ
ส่วนท่าทีของคนในกลุ่มสมคิดอย่าง "อุตตม-รมว.การคลัง” เมื่อถูกสื่อถามถึงกระแสข่าวจะหลุดจาก รมว.การคลัง เขาคุมจังหวะการแสดงความเห็นแบบเรียบๆ ไว้ว่า “ไม่กังวล เพราะยังคงทำหน้าที่ต่อไปและการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ จึงขอให้ทุกคนทำตามหน้าที่ มีอะไรก็ต้องทำไป เพราะนายกรัฐมนตรีเองยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับ" พร้อมกับย้ำหลังถูกถามว่า หากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อจะลาออกจากพรรค พปชร.หรือไม่ ด้วยการยืนยันว่า “ไม่เคยคิด และไม่ถอดใจ”
นี่คือท่าทีของคนในกลุ่มสมคิด ก่อนหน้าการประชุมใหญ่พลังประชารัฐและก่อนปรับ ครม. ซึ่งหลังการปรับ ครม. หากคนในกลุ่มหลุดยกทีม ท่าทีดังกล่าวอาจไม่เหมือนเดิมก็ได้!!!!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |