19มิ.ย.63- นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา (สพฐ.) ได้กำหนดให้มีการรับนักเรียนเข้าศึกษาในสถานศึกษาในสังกัด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ซึ่งมีการสอบคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกไปแล้วนั้น ขณะเดียวกัน สพฐ.ได้เปิดให้นักเรียนที่พลาดจากการสอบสามารถยื่นความจำนงเพื่อขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จัดหาที่เรียนให้นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา สพท. และโรงเรียนต่างๆ ได้มีการเกลี่ยเด็ก และจัดที่เรียนให้กับนักเรียนที่ยื่นความจำนงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่พึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง แต่อาจจะมีบางส่วนที่ผู้ปกครองยังคงต้องการให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงเท่านั้น ทั้งนี้ทางโรงเรียนก็ต้องพยายามทำความเข้าใจว่าโรงเรียนที่จัดสรรที่เรียนให้ก็มีคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ต่างกัน

“ผมยืนยันมาหลายครั้งแล้ว ว่า หากนักเรียนไม่เลือกที่เรียน รับรองได้ว่าเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน และยังคงยืนยันเช่นนั้นอยู่เหมือนเดิม โดยโรงเรียนไหนเต็มแล้วจะต้องไม่มีการขยายเพิ่มชั้นเรียนแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องแป๊ะเจี๊ยะตามมาอีก ดังนั้นเราต้องป้องกันเอาไว้ก่อน และควรใช้วิธีเกลี่ยเด็กไปเรียนในโรงเรียนที่ยังพอมีที่ว่างอยู่แทน หากไม่เกลี่ยแล้วเลือกที่จะให้โรงเรียนดังขยายห้องเรียนไปเรื่อยๆ โรงเรียนที่ใหญ่อยู่แล้วก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่โตขึ้นไปอีก ในขณะที่โรงเรียนที่ได้รับความนิยมน้อยก็จะยิ่งเล็กลงไปเรื่อยๆ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าวและว่าส่วนกรณีปัญหาของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ที่ผู้ปกครองร้องขอให้ทางโรงเรียนรับเด็กชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 นั้น ตนได้มอบหมายให้ทางโรงเรียนโดยคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษาไปพิจารณาเรื่องนี้ โดยให้ยึดตามหลักเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนดเป็นสำคัญ