อดีตสปช.ชี้ 'หนังหน้าไฟ' เหตุ 'สมชัย' ออก


เพิ่มเพื่อน    

11 เม.ย. 61 - นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวว่า การลาออกจากปลัดกระทรวงการคลังของนายสมชัย สัจจพงษ์ เพราะไม่พอใจที่ถูกย้ายไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้น เป็นที่เข้ากันได้โดยอาจมองว่าถูกลดบทบาทความสำคัญ การทำงานในตำแหน่งปลัดคลัง กับเลขาฯสภาพัฒน์ ทั้งหน้าที่ ความรับผิดชอบมีความแตกต่างกันมาก คนเป็นเลขาฯสภาพัฒน์ นอกจากต้องเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคารแล้ว ยังมีงานอื่นๆที่ต้องรับผิดชอบ เช่น โครงการเมกกะโปรเจ็คต์ต่างๆที่กำลังดำเนินไป รวมทั้งการเป็นแม่งานด้านการปฏิรูปประเทศที่จะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับการขับ เคลื่อนการปฏิรูป

นายบุญเลิศกล่าวว่า แผนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้านประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา กฏหมายแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศกำหนดให้ สภาพัฒน์ ทำหน้าที่สำนักเลขา นุการของคณะกรรมการปฏิรูป ทั้ง 11 ด้าน ซึ่งจะมีคนของสภาพัฒน์มานั่งเป็นเลขานุการในคณะ กรรมการปฏิรูป 11 คณะ หน้าที่หลักๆต้องประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและประชาชนภาคส่วนต่างๆ, เผยแพร่แผนการปฏิรูปประเทศ, ประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูป, ประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครม. รัฐสภา, จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินการประจำปี เป็นต้น

“เกือบครบ 4 ปีแล้วที่คสช.เข้ามามีอำนาจ การปฏิรูปประเทศถูกวิจารณ์ว่าล้มเหลว ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน การประกาศใช้แผนปฏิรูปด้านต่างๆก็ยังไม่แน่ว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เกิดผลสำเร็จตามแผนหรือไม่ สภาพัฒน์คือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อน งานจะมาก และหนักหนาสาหัส ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง เป็นหนังหน้าไฟ ถ้าล้มเหลวก็จะโทษสภาพัฒน์ เพราะกฏหมายไปเขียนให้อำนาจหน้าที่ไว้อย่างนั้น การที่ปลัดคลังไม่อยากมาเป็นเลขาฯสภาพัฒน์จึงเข้าใจได้ ผมเองก็เห็นใจ ซึ่งในความเป็นจริงคงจะมีสาเหตุอื่นๆรวมอยู่ด้วยที่ท่านลาออก” นายบุญเลิศกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"