19 มิ.ย.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (งานโยธาสายสีส้มตะวันตก และงานเดินรถตลอดทั้งเส้น) มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท คาดว่าจะออกหลักเกณฑ์ ทีโออาร์ ได้ภายในเดือนกรกฏาคม 2563และเปิดให้เอกชนยื่นประมูลในเดือนตุลาคม คาดว่าจะสรุปผลการประมูลได้ภายในสิ้นปี 2563

สำหรับประเด็นที่มีชาวบ้านออกมาคัดค้านการเวนคืนที่ดินนั้น ไม่ได้น่ากังวล เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อทำความเข้าใจกันทุกอย่างก็จบลงได้ ซึ่งเงินค่าเวนคืนไม่ได้จบแค่ครั้งแรกเท่านั้น เช่นโครงการมอเตอร์เวย์เส้นบางใหญ่-กาญจนบุรี หากไม่พอใจมีสิทธิ์อุทธรณ์ใช้กระบวนการทางศาลปกครองได้ ขอเพียงให้ทุกอย่างต้องอยู่บนความจริง ยึดหลักกฎหมาย และประชาชนได้ประโยชน์

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะมีกำหนดเปิดประมูลงานโยธา มูลค่ากว่า 8หมื่นล้านบาทภายในเดือนก.ย.นี้ โดยคาดว่าจะสรุปผลการประมูลได้ภายในสิ้นปี 63เช่นกัน และเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สามารถเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งสายทาง ทาง รฟม.มีแผนจะเปิดประมูลงานเดินรถและพัฒนาระบบ (O&M) รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงราษฎร์บูรณะ-คลองบางไผ่

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิตว่า ขณะนี้คาดว่าคงเปิดให้บริการไม่ทันในปี 64 เนื่องจากยังติดปัญหาการเข้าพื้นที่ก่อสร้าง และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ซึ่งผู้รับเหมาได้ขอขยายสัญญาออกไปอีก 500 วันด้วย ส่วนการบริหารงานเดินรถนั้น ควรให้เอกชนเข้ามาบริหารในลักษณะเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) แทน เพื่อประหยัดงบรัฐบาล และเดินหน้าโครงการได้ทันที

“ให้นโยบายไปว่า ประชาชนต้องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเวลานี้ทุกโครงการต้องพยายามทลายทุกข้อจำกัด ดูกติกาโลกด้วย เพื่อให้เอกชนสนใจมาลงทุน ซึ่งการ PPP อาจมากกว่า 30 ปีก็ได้ บางประเทศเปิดให้ PPP ได้ถึง 99 ปี เข้าสร้างมาตรการจูงใจให้คนมาลงทุน ถ้าเราจะแข่งกับโลก แล้วต้องอยู่กับกติการตัวเองแล้วไม่สามารถให้คนมาลงทุนได้ก็ต้องแก้”นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะเกิดการแพร่ระบาดของชื่อไวรัสโควิด-19 ไม่กระทบต่อการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดต้องเดินหน้าต่อตามแผนที่วางไว้ เพราะกระทรวงคมนาคมมีหน้าที่พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะรองรับความต้องการของประชาชน ทุกโครงการจะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลพร้อมที่จะยืดหยุ่นอายุสัมปทานให้อย่างเหมาะสมไม่จำเป็นต้องแค่ 30 ปี รวมถึงการพิจารณาเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19ทำให้รายได้ลดลง ซึ่งก็ต้องรอดูตัวเลขที่เหมาะสม และขอยืนยันว่าเรามีคณะกรรมการกลั่นกรองที่รอบคอบ โปร่งใสและตอบได้ทุกคำถาม