ผู้ปกครองพาเด็กชาย 2 คนเข้าพบตำรวจรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกับผู้ใหญ่ที่เป็นเครือญาติอีก 5 คน ข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 อาของเหยื่อเผย หลังออกมาแฉเรื่องนี้ กลับถูกพี่น้องรุมด่า บ้างก็ข่มขู่
    เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ผู้ปกครองได้นำตัวเยาวชนชาย 2 คน อายุ 11 ปี และ 14 ปี ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ว่ามีส่วนร่วมกับผู้ใหญ่อีก 5 คน ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้าพบ ร.ต.อ.กาฬสิน ปากวิเศษ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี และทีมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นนำตัวเด็กพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนให้ผู้ปกครองนำเยาวชนทั้งสองกลับบ้าน เพื่อรอไปพบทีมสหวิชาชีพ อัยการ ที่ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรีต่อไป ส่วนการประกันตัวนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
    ที่มาของคดีนี้ สืบเนื่องจากพี่สาวของเด็กหญิงวัย 12 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในเขต อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบว่าน้องสาวมีอาการปวดท้องรุนแรง จึงพาไปพบแพทย์ ตรวจพบเด็กมีร่องรอยถูกกระทำชำเรา ต่อมาผู้ปกครองเด็กได้เข้าแจ้งความตำรวจ จากการสอบปากคำเด็กระบุว่าเหตุเกิดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 นายโด้ซึ่งเป็นญาติ ได้ข่มขืนแล้วขู่ห้ามบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ต่อมาผู้ใหญ่ซึ่งเป็นญาติอีก 4 คน ได้ร่วมข่มขืนเด็ก รวมถึงเยาวชนทั้ง 2 คน ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดสุพรรณบุรีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 7 คน และจับกุมผู้ต้องหาวัย 21-51 ปี จำนวน 5 คนไว้ได้ โดยการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 7 เป็นการกระทำต่างคนต่างกรรมและต่างช่วงเวลา ซึ่งเด็กหญิงยืนยันครั้งสุดท้ายที่ถูกกระทำคือเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่หนึ่งในนั้นยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว และศาลให้ประกัน
    ด้านผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองคนกล่าวว่า ไม่เชื่อว่าลูกของตนจะเป็นผู้กระทำแน่นอน แต่ความจริงจะเป็นยังไง วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน ให้รอกระบวนการทางกฎหมายก่อน
    ส่วนนางนก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของเหยื่อ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนออกมาแฉพฤติกรรมของกลุ่มผู้กระทำผิด ทำให้ถูกญาติพี่น้องรุมด่า และบางคนมีการข่มขู่ด้วย และยังมีญาติบางรายขู่จะฟ้องกลับตน ก็ไม่รู้เหมือนกันจะฟ้องตนเรื่องอะไร แทนที่จะสำนึก เรื่องนี้ตนจะเดินหน้าสู้ เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับน้อง เพราะตนเลี้ยงมาแต่แบเบาะ และน้องก็เรียกตนแม่ทุกคำ ตอนนี้ที่กังวลใจมากก็คือ 3 ใน 5 ผู้ต้องหาเป็นเขยต่างถิ่น และถูกปกป้องโดยญาติของน้องเอง ไม่นึกว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดใกล้ตัวเราเอง ที่สำคัญเป็นญาติกันด้วย จึงเป็นห่วงความปลอดภัยของน้อง.