กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคเรียก ผอ.กองสลากแจงปัญหาหวยแพง แก้ไม่หาย ชี้ช่องคนซื้อแจ้งกองสลากตัดสิทธิ์ผู้ค้าโก่งราคา พร้อมโละโควตาทั้งหมด จัดระเบียบใหม่ เชื่อทำจริงแก้ได้แน่ โดยเฉพาะการรวมชุดขายแพงเวอร์ อัดปัญหาถูกปล่อยมานาน เหตุมีขบวนการได้ผลประโยชน์แอบแฝง   
    นายมานะ โลหะวณิชย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ในการประชุมกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ได้เชิญ พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ท.หนุน ศันสนาคม รองผู้อำนวยการฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ตลาด เจ้าหน้าที่ด้านการเงิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงถึงปัญหาสลากขายเกินราคา มีการซักถามถึงปัญหา สาเหตุสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ ที่จำหน่ายให้ประชาชน ราคาแพงกว่าปกติคือ 80 บาทต่อใบ และปล่อยให้มีการรวมชุดเลขเหมือนตั้งแต่ 2 ใบขึ้นไป แล้วโก่งราคาสูงถึงใบละ 100 บาท จากการสอบถามทำให้รู้ว่าโควตาขายสลากไม่ได้อยู่ในมือผู้ค้าจริงๆ แต่กลับมีการนำมาขายยกเล่มให้คนอื่นอีกทอดหนึ่ง จากนั้นมีการนำมาจัดเป็นชุดเลขเหมือน แล้วจึงจำหน่ายให้ผู้บริโภคทั่วไป สลากจึงมีราคาแพง
    ประธาน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคกล่าวว่า ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางแก้ไข ขอให้กองสลากแถลงออกมาให้ชัด ต่อไปนี้ถ้าผู้ค้ารายใดขายสลากเกินกว่าราคา 80 บาทต่อใบ ให้ผู้ซื้อเอาหมายเลขที่อยู่ในใบสลากนั้นแจ้งมายังกองสลาก แล้วให้ยกเลิกสัญญาผู้ที่ได้รับโควตาไปแล้วนำไปขายเกินราคา ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่าผู้ที่ได้รับโควตาผู้ค้าสลากจะกลัว 
    "วิธีแก้ไขมันมีอยู่ แต่ที่ไม่ทำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงกันหรือไม่ เลยปล่อยปละละเลยกันมาถึงจนถึงทุกวันนี้ ส่วนปัญหาการปล่อยให้รวมเลขเหมือนขายเป็นชุด เมื่อสอบถาม ทำไมกองสลากไม่รวมเอง เขาก็ตอบไม่ได้ ซึ่งวิธีการต่างๆ มันมี ถ้าจะแก้ไข แต่ไม่เอามาใช้ ถ้าร่วมมือกันด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ทำไมจะแก้ไม่ได้" นายมานะกล่าว และว่า กรรมาธิการฯ ได้ย้ำให้นำไปแก้ไขโดยรื้อโควตาทั้งหมด ขอให้โควตาการจำหน่ายสลากตกไปถึงมือผู้ที่ต้องการขายจริงๆ แม้ผู้อำนวยการกองสลากระบุว่า โควตาผู้ค้าตอนนี้มีประมาณ 1 แสนราย หากจะทำให้เป็น 1 ล้านรายก็ทำได้ แต่พอถามว่าจะทำได้จริงหรือไม่ พอไล่บี้ไปไล่บี้มา ก็บอกว่าขอนำกลับไปประชุมกับบอร์ดกองสลากในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.ก่อน แล้วมาชี้แจงอีกครั้งประมาณกลางเดือน ก.ค.
    นายมานะกล่าวว่า ปัญหาสลากแพงถูกปรามาสมาตลอดว่าแก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้ ปฏิวัติแล้วก็ยังแก้ไขไม่ได้ เพราะมันฝังรากลึกมานาน เท่าที่รู้ โควตาปกติที่จะต้องแบ่งให้กลุ่มผู้พิการรับไป หากเขาไปขายใบละ 80 บาท ก็ขายได้แล้วยังมีกำไรต่อใบเฉลี่ยประมาณ 11 บาท ขณะที่โควตาสลากทั่วไป ถ้ารับไปขายจากต้นทาง แล้วขายในราคาปกติ 80 บาท ยังมีกำไร 9.60 บาทต่อใบ แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว แต่ตอนนี้กลับปล่อยให้มีการนำไปรวมชุด ทำเป็นขบวนการ ทำให้จากราคา 80 บาท เมื่อรวมชุดเลขเหมือนไปขายกันใบละ 100 บาท กำไรเปอร์เซ็นต์ตรงนี้ที่เพิ่มขึ้น เบี้ยบ้ายรายทาง ขอถามว่าไปอยู่ในกระเป๋าใครบ้าง
    เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวของกลุ่ม 5 เสือที่ผูกขาดโควตาสลากจำนวนมากมานาน นายมานะกล่าวว่า เราไม่ได้มุ่งเน้นตรงนั้น แต่มองว่าหากแก้ไขปัญหาการขึ้นทะเบียนให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ค้าจริงๆ ถึงเวลาก็จะกระทบเป็นโดมิโนเอง กรรมาธิการฯ บอกทาง ผอ.กองสลากและผู้ชี้แจง ขอนำไปประชุมร่วมกับบอร์ดกองสลากในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.ก่อน เมื่อกรรมาธิการฯ เสนอแนวทางไว้อย่างนี้ ถ้าทางสำนักงานกองสลากฯ โดยเฉพาะผู้อำนวยการ คิดจะแก้ไขก็ทำได้เลย แม้หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ยอดการขายสลากในงวดล่าสุด 16 มิ.ย. จะขายไม่ค่อยได้ เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ แต่เรามองว่าตรงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่กองสลากจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากราคาแพง.