ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีพระราชทานเพลิงศพ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง (เป็นกรณีพิเศษ) ณ วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ ทาง เปิ้ล-หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยา พร้อมพี่ชาย เอก-ธเนศ  วรากุลนุเคราะห์  ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกในครั้งสุดท้ายที่ต้องร่วมส่งบุคคลอันเป็นที่รักไปสู่สรวงสวรรค์

            โดยเปิ้ล หัทยา เผยว่า “สำหรับการเตรียมงานในวันนี้ได้มีคุยกันว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าเกิดในเรื่องของตารางเราก็เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่สำหรับใจก็ใจหายค่ะ ในส่วนของพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ วันนี้จะมีเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนมาทำพิธีให้ อัญเชิญกล่องไฟพระราชทาน อย่างที่บอกว่าเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ถือเป็นเกียรติสูงสุดของผู้วายชนม์และครอบครัว

          ต้องบอกว่าพี่ตั้วเป็นคนเงียบๆ เวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับโลกโซเชียล แต่ว่าเขามีผลงานให้เห็น เราเชื่อว่าเมื่อเขาจากไป เราก็ได้เห็นคำอำลาคำไว้อาลัย รวมทั้งผลงานต่างๆ ที่ปรากฏอยู่หลากหลายช่องทาง ทั้งทีวี วิทยุ โลกโซเชียลหรือทางเพื่อนๆ ที่โทรศัพท์เข้ามา เราก็เลยรู้สึกว่าเหมือนพี่ตั้วยังอยู่  

          อย่างพี่น้องสวนกุหลาบบอกว่าอยากจะมาร่วมร้องเพลง เพราะว่าเขาโตมาด้วยกันที่สวนกุหลาบ จึงอยากมาร้องเพลงให้พี่ตั้วฟัง ส่วน อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ก็คุ้นเคยกับพี่ตั้วเป็นอย่างดี อยากมาเป่าขลุ่ย ส่วน หนึ่ง จักรวาล เคยทำงานด้วยกันก็อยากที่จะมาบรรเลงเพลง รวมไปถึง พี่ตู่ นันทิดา ซึ่งเคยมาตั้งแต่ขบวนขันหมาก ก็จะมาร้องเพลงให้พี่ตั้วฟัง อยากให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ถ้าร้องได้ก็ร้องไปด้วยกัน

          ของที่ระลึกในงาน โดยตัวตนของพี่ตั้วเป็นคนชอบเขียน ชอบอ่านหนังสือ มีความผูกพันกับหนังสือ เราก็มีความรู้สึกว่าถ้าทำหนังสือจะทันไหม ทุกคนก็บอกว่าไม่น่าจะทัน แต่ปาฏิหาริย์ก็มีจริงคือพี่ที่เคารพและเพื่อนๆ สถาปัตย์  จุฬาฯ ร่วมกันระดมรูปภาพ ความคิด และบทความ โดยบอกเราว่าทันนะแต่ว่าต้องส่งทุกอย่างภายในวันเสาร์ จากนั้นนำส่งโรงพิมพ์วันอาทิตย์ แล้วหนังสือก็มาส่งเมื่อคืนนี้  ส่วนเพลงสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ที่เขียนไว้หลังหนังสือนั้น เราเชื่อว่ารุ่นพี่ที่สถาปัตย์จุฬาฯ ที่เคารพได้เลือกแล้ว ว่าบทเพลงนี้น่าจะเป็นบทเพลงที่มีความลึกซึ้งสำหรับพี่ตั้ว

          ในส่วนของกำหนดการลอยอังคาร เราอยากทำให้เร็วและสมบูรณ์ที่สุด คือเราให้เวลากับเขา พรุ่งนี้เก็บอัฐิ แล้วก็อาจจะไปลอยอังคารเลย น่าจะไปที่เดียวกับคุณแม่พี่ตั้วที่สัตหีบ ส่วนสภาพจิตใจของลูกๆ น้องหนังตอนที่เขาอยู่เกาหลีเขาจะคุยกับพี่ตั้วทุกวัน ด้วยความเป็นลูกสาวที่เขาห่วง ก็จะถามถึงทุกวันว่าเป็นยังไง ก็บอกเลยว่าหนังอาจจะเป็นเยอะกว่าหนุน ต่อหน้าคนอื่นเขาจะยิ้ม หัวเราะ แต่พอถึงบ้านจะมีคำถามเยอะ บางทีเคยปล่อยให้คุยกับลุง ให้ลุงช่วย  ส่วนตัวเองกลับบานไปมันก็แปลกๆ นะ มันยังแปลกอยู่เลย แต่เราก็ต้องอึด ต้องบอกกับตัวเองว่าเรายังมีหนุน หนัง เรายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ บอกกับตัวเองว่าต้องสู้

            เรื่องงานที่ค้างอยู่ ก็ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดลึกๆ ว่าละครที่ค้างอยู่ที่เหลือประมาณ 9-10 คิว ก็ปรึกษาพี่อ๊อฟ พี่แดง ว่าจะยังไง เผื่อพี่ตั้วจะมีผู้กำกับบางคนอยู่ในใจบ้าง รวมถึงได้คุยกับพี่อ๊อฟบ้าง พี่อ๊อฟเขาบอกว่าเขายินดีนะ เดี๋ยวพอเสร็จงานแล้วคงจะมานั่งคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนค่ายละครใครดูแลต่อ อย่างที่บอกว่าเราหันมาทำสายวิทยุ เพลง คอนเสิร์ต พี่ตั้วก็ทำละครไป แต่เราเองก็ยังช่วยกัน หลังจากนี้คงจะได้คุยกันกับทีม เรื่องของการทำอะไรสานต่อ เราทำให้อยู่แล้ว เพราะเรามีลูกๆ หนุน-หนัง ก็เพิ่งจะเรียนจบ ก็คงจะช่วยดูแลตรงนี้ ก็มีพี่เอก ที่กำลังทำหนังอยู่ ก็ช่วยกันทำไปนะ”

            ด้าน เอก ธเนศ พี่ชายของ ตั้ว ศรัณยู ได้เปิดเผยว่า “เราส่งตั้วทุกวันทุกคืน ยังเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ส่งให้ตั้วต่อไป ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ว่าสิ่งดีๆ จากคนที่รักตั้วมากมายก็ส่งมาให้ผ่านเปิ้ล น้องหนุน น้องหนัง และครอบครัว รวมถึงตัวเราเอง รู้สึกว่ามันเป็นบรรยากาศแห่งสิ่งดีงามที่เกิดขึ้น เราก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ทุกวันจะบอกกับพี่ตั้วว่าวันนี้เป็นวันแรกนะ วันนี้วันที่สองนะ ใครมาบ้าง ใครเป็นเจ้าภาพ ก็คุยกันตามความรู้สึก วันนี้เจอใคร คุยไปเรื่อยๆ เหมือนเขายังอยู่แต่เขาไม่ตอบเรา ตั้วอยู่กับเราเสมอ ความรักยังอยู่ในหัวใจเสมอ ไม่ได้หายไปไหน จากกันเพียงกายแต่ความรักไม่เคยหายไป หลังจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องดูแลหลานแล้วก็เปิ้ล มันรู้สึกได้เลยโดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องคิดเลยว่าจะต้องทำ ก็รู้สึกว่าภารกิจนี้น่าจะเป็นภารกิจหลักที่จะทำให้ตั้ว”

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @ple_hattaya