NGO จับตาสรุปผลพาราควอต เผยหากมีการต่อทะเบียน ต้องมีเหตุผลรองรับที่ชัดเจน แต่ถ้ายังตะแบง อาจมีการฟ้องร้องศาลปกครอง วอนผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมอง ออกมาให้ข้อมูลส่งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ชี้ต้องมีการตรวจสอบจริงจัง ผู้เชี่ยวชาญสารเคมีอันตรายได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทผู้ผลิตหรือไม่ ด้านหมอธีระวัฒน์เผ คณะกรรมการพิจารณาฯ ต่อทะเบียนอย่าอ้างว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพ
น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช Thai-PAN กล่าวถึงการพิจารณาว่าจะมีการแบนหรือต่อทะเบียนพาราควอต โดยคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ที่จะมีขึ้นภายในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายมีข้อกังวลว่าจะมีการต่อทะเบียนใช้ต่อนั้น เนื่องจาก มีงานวิจัยว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน แต่กรมวิชาการเกษตรกลับบอกว่าไม่มีข้อมูลผลกระทบทางด้านสุขภาพ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะการพิจารณาพาราควอตยังไม่สิ้นสุด แต่หากสิ้นสุด และผลออกมาว่าอนุญาตให้ต่อทะเบียนตามที่หลายฝ่ายได้แสงดงความกังวล ทางเครือข่าย 398 เครือข่าย จาก 51 จังหวัด ก็จะมีการเดินหน้าเพื่อขอเหตุผลที่ชัดเจนจากคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจว่าผลกระทบต่อสุขภาพเป็นไปตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ และหากต้องมีการจำกัดการใช้จะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้มีประสิทธิภาพ หากเหตุผลไม่เป็นไปตามหลักการแน่นอนว่าอาจะจะต้องมีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้มีการเพิกถอนการต่อทะเบียนตามที่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ หรือหากเหตุผลเพียงพอก็อาจไม่ต้องฟ้องร้อง ซึ่งก็ต้องติดตามอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตามในเวทีของฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการใช้พาราควอตต่อหลายๆเวที ได้มีการใช้ข้อมูลของคุณหมอจาก รพ.รามาฯที่ระบุว่าไม่มีผลกระทบต่อสมอง ซึ่งไม่ใช่คุณหมอเฉพาะทางโรคทางด้านสมอง จึงอยากเรียกร้องให้คุณหมอเฉพาะทางทางด้านสมองได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าว และส่งข้อมูลไปยังคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนด้วย.” น.ส.ปรกชล กล่าว.
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า โดยทั่วไปพาราควอตมีการออกฤทธิ์เฉียบพลันสูง ผูได้รับสารมีอัตราการเสียชีวิตสูง ทำให้มีการรวบรวมข้อมูลพบว่า ในบางประเทศ บริษัทผู้ผลิตจะมีการให้งบสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาให้แก่ศุนย์รักษาผู้ได้รับสารพิษในโรงพยาบาลซึ่งมองด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้มีอุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์ในการรักษาโรคจากสารพิษนั้น แต่มองอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นการสะท้อนว่าบริษัทต้องการสร้างสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญบางคน ตนจะใช้คำว่าบางคนหันมาสนับสนุนสารพิษดังกล่าวทั้งที่รู้และไม่รู้ตัว ซึ่งในกรณีพาราควอตการใช้ยาถอนพิษได้ผลน้อยเพราะปัจจุบันยังไม่มียาถอนพิษทำให้บางประเทศมีนักวิชาการบางคนให้ข้อมูลทางด้านสุขภาพตรงกันข้าม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอาจมีความเป็นไปได้ว่าขณะนี้หรือในอนาคตจะมีการกระทำดังกล่าวในประเทศไทย ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และหากมีการต่อทะเบียนพาราควอต นอกจากการเปิดเผยรายชื่อผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อนที่มีการเตรียมการไว้แล้ว อาจต้องการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการปลุกคนในสังคมให้ลุกขึ้นมาทำความเข้าใจและเปลี่ยนแปลงสังคมด้วย
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในฐานะกรรมการปฏิรูประบบสาธารณสุข กล่าวว่า ตนคงไม่มีการรวบรวมข้อมูลทางด้านสุขภาพส่งไปยังคณะกรรมการเฉพาะกิจ แต่การที่ตนได้มีการเรียบเรียงข้อมูลนั้น ก็เพื่อเป็นการสรุปข้อมูลต่อสุขภาพจากการใช้พาราควอตที่มีมหาศาลให้กับกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีหน้าที่สำคัญแต่กลับบอกว่าไม่มีข้อมูลผลกระทบต่อสุขภาพ และการที่มีแพทย์จาก รพ.รามาฯ ได้ออกมาระบุว่าพาราควอตไม่มีผลต่อสุขภาพ ตนก็ได้มีการแจ้งไปยังรองคณบดี รพ.รามาฯ ให้ไปแจ้งยังแพทย์คนดังกล่าวว่าขณะนี้มีข้อมูลมากมาย ซึ่งหากแพทย์คนดังกล่าวซึ่งก็เป็นคณะกรรมการทางด้านวิชาการยังออกมาบอกว่าไม่มีหลักฐานก็ถือว่าไม่มีความรอบคอบในการหาข้อมูล.