"หม่อมเต่า" ทิ้งบอมบ์ "ลุงกำนัน" แจงลาออกจาก รปช.เพราะเดินคนละทางกับคนคอนโทรลพรรคจึงไม่อยากทำให้ทะเลาะกัน โต้ปมสอบตก ลั่นทำงาน 1 ปีมีผลงานน่าพอใจ แจ้งนายกฯ ทันทีปรับ ครม.ตามสบายไม่ต้องห่วง แกนนำ รปช.ปัดขัดแย้งกัน ยันไม่มีเรื่องประเมินผลงาน พร้อมชู "เอนก" นั่ง รมต.แทนหากปรับ ครม. "ประวิตร" เคาะ "อนุชา" นั่งเลขาฯ พปชร. "สันติ" นั่ง ผอ.พรรค  ด้านโฆษกรัฐบาลยันนายกฯ ไม่มีแนวคิดนิรโทษกรรม "แคร์" เปิดตัวก๊วนสหาย "อ้วน-มิ้ง-เลี้ยบ" มากันครบ ลั่นพร้อมขับเคลื่อนสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปัดเชื่อมโยง "ทักษิณ"
    เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน มีความเคลื่อนไหวของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกและหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โดยเข้ามาทำงานที่กระทรวงแรงงานตามปกติ และเป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงแรงงาน รับฟังการชี้แจงเรื่องผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN) เข้าพบในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ โดยในช่วงแรกมีการสั่งห้ามสื่อมวลชนขึ้นไปดักรอสัมภาษณ์หน้าห้องทำงานบนชั้น 6 แต่ปรากฏว่าในเวลา 10.30 น.ได้เปลี่ยนใจลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บริเวณชั้น 1 อาคาร 15 ชั้น
    ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวถึงการลาออกว่า จริงๆ ตนมีแนวความคิดว่าการเลิกกับพรรค เลิกกับภรรยา  ไม่อธิบายดีที่สุด แต่ยังหวังว่าคนจะยังซัพพอร์ตพรรคนี้ต่อ ถ้ายังเดินไปในทิศทางพรรคการเมืองของประชาชน และได้เรียนท่านนายกฯ ทันทีที่ลาออก ได้บอกท่านว่าตามสบายเลยนะ ไม่ต้องห่วงตน แต่ตนยังไม่ลาออกจาก รมว.แรงงานเพราะรู้ว่าต้องปรับ ครม. 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงทิศทางการทำงานในกระทรวงแรงงานจะเป็นไปอย่างไร ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวว่ายังเหมือนเดิม ที่ทำมากระทรวงแรงงานก็มีทิศทางของเขา ตนก็พยายามผลักดันไปทางเรื่องเทคนิคอล โซลูชัน หรือทางด้านวิชาการมากขึ้น ก็ได้แค่ระดับหนึ่ง การจะเปลี่ยนทิศทางใหญ่ๆ หนักๆ จะทำทันทีไม่ได้ ต้องใช้เวลาเป็นปี เช่น สำนักงานเศรษฐกิจแรงงาน และธนาคารประกันสังคม แต่บางเรื่องได้เริ่มเดินหน้าไปแล้ว
    เมื่อถามว่าพรรคบอกไม่ผ่านโปรทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคและตำแหน่ง รมว.แรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคลตอบว่า "ไม่เป็นความจริง เพราะว่าไม่ได้มีเป้าแบบนั้น ผมทำงานได้ และค่อนข้างพอใจ เพราะบางอย่างมาจากศูนย์ การทำงานของ 5 เสือแรงงาน แต่ละกรมเดิมต่างคนต่างทำ ไม่ได้มีทิศทางในการควบคุม ตอนนี้ดีขึ้นมาก ผมทำจากศูนย์จนขึ้นมาระดับหนึ่ง จะให้พอใจต้องใช้เวลาเท่าไร สัก 5 ปีมั้ง  ส่วนที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคไม่ใช่เรื่องใครไม่พอใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าพอใจคืออะไร" 
    “ผมลาออก ผมคิดเอง ไม่มีใครว่าอะไรผมสักคำ เพราะอยากให้พรรคเดินดีกว่านี้ ที่กระทรวงไม่เกี่ยว ผมรู้ว่าเดี๋ยวก็จะมีคนอื่นมาอยากให้พรรคเดินไปในทิศทางที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน เมื่อทิศทางของพรรคไม่เดินไปอย่างนั้น ผมก็ออก ง่ายแค่นั้น ผมอยากเห็นพรรคการเมืองที่ไม่ปกติ แต่พอทำแล้ว คนที่เขาคอนโทรลพรรคเขาไม่ไปด้วย ก็ไม่รู้จะทำไปทำไมให้ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็จะมีการปรับ ครม. เขากำลังเจรจาต่อรองกัน ไม่มีผมจะได้ปรับง่ายขึ้น" ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าว
รปช.ปัดขัดแย้งชู 'เอนก' เสียบแทน
     ที่ชั้น 28 อาคารทูแปซิฟิคเพลส ถ.สุขุมวิท พรรครวมพลังประชาชาติไทยเปิดแถลงข่าว โดยนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง รักษาการหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค รปช.แถลงว่า ม.ร.ว.จัตุมงคลยื่นใบลาออกผ่านนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีและ ผอ.พรรค รปช. เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 16  มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้นำเรื่องเรียนต่อที่ประชุมพรรค และมีมติให้จัดการประชุมใหญ่พรรควันที่ 5 ก.ค. 63 ซึ่งตามกฎหมายจะต้องประชุมกันก่อนวันที่ 30 เม.ย. แต่เพราะเกิดเหตุการณ์โควิด-19 จึงเลื่อนเป็นวันที่ 5 ก.ค. เป็นช่วงที่ครบวาระ 2 ปี จะต้องเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.), กรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการจริยธรรมและวินัยของพรรคชุดใหม่ ทั้งนี้ ในหนังสือลาออกของ ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคด้วย ระบุให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ลงในหนังสือฉบับนี้ (16 มิ.ย.) ตกใจนิดหน่อยที่ท่านตัดสินใจกะทันหัน ซึ่งมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง กก.บห.ด้วยโดยอัตโนมัติ อยู่ในฐานะรักษาการ และมีมติให้ตนรักษาการหัวหน้าพรรค
    นายทวีศักดิ์เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กก.บห.พรรค เป็นผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป ทุกท่านรู้จักดีในแวดวงวิชาการและการเมือง ขณะนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคลยังเป็น  รมว.แรงงานต่อไป แต่ขาดจากพรรค ซึ่งทุกคนเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว ตนเข้าใจหัวอกคนสูงอายุด้วยกัน ระลึกบุญคุณอยู่ ที่ผ่านมาพรรค รปช.ได้เสนอข้อคิดเห็นหลายประการไปยังท่านและกระทรวงแรงงาน จากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เดือดร้อนมาก ภายในพรรคเราระดมสมองเสนอข้อคิดไปยังกระทรวงอยู่เนืองๆ เราพยายามทำให้พรรคเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เราต้องการให้ประชาชนเห็นผลงาน มีการทำงานภายในไม่ไปยุ่มย่ามกับกระทรวง ไม่ไปยุ่มย่ามกับข้าราชการประจำโดยไม่จำเป็น  สำหรับนายเอนกยังเป็นหัวหน้าคณะทำงานปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประกันสังคม เป็นผลประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้แรงงาน 
    เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ม.ร.ว.จัตุมงคลไม่ผ่านโปรในการทำงาน นายทวีศักดิ์กล่าวว่า "ไม่มีใครพูดเรื่องโปร ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ไม่มีการประเมินผล ส่วนเหตุผลในการลาออกนั้น จากที่ตนพูดคุยใกล้ชิดท่านก็ไม่รู้สึกว่าท่านน้อยใจอะไร เรื่องปัญหาเบิกจ่ายประกันล่าช้าเป็นเรื่องระบบงานคอมพิวเตอร์ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ท่านน้อยใจอะไร ส่วนกรณีเสนอชื่อนายเอนกเป็น รมว.แรงงาน  ขึ้นอยู่กับการประชุมวันนั้น อาจจะเป็นคนเดียวกันหรือคนละคนก็ได้"
    ถามถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.ว่ามีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร นายทวีศักดิ์ระบุว่า "คงจะมีการพูดคุยเข้าใจกัน" ขณะที่นายเอนกกล่าวเสริมว่า "นายสุเทพย้ำกับตนว่าหัวหน้าพรรคเป็นที่เคารพของเราตลอดไป ไม่มีอะไรไม่พอใจ เรื่องไม่ผ่านโปรก็ไม่เป็นความจริง ท่านทำงานมาเป็นอย่างดี เราก็เสนอแนะไปตามปกติ ท่านเป็นหัวหน้าพรรคที่อยู่ในความเคารพของเราต่อไป ไม่มีความขัดแย้ง"
    เมื่อถามนายเอนกถึงความพร้อมในการเป็นหัวหน้าพรรค นายเอนกบอกว่าเป็นไปตามกระบวนการ ตนพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยดิ้นรนทะเยอทะยานเป็นรัฐมนตรี ต้องมีความเหมาะสม สุกงอมพร้อมเพรียงในหลายอย่าง
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการลาออกของ ม.ร.ว.จัตุมงคล จะส่งผลให้มีการปรับ ครม.ทันทีเลยหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีได้หันมามองและฟังคำถาม แต่ไม่ได้ตอบแต่อย่างใด
'ป้อม' เคาะ 'อนุชา' เลขาฯ 'สันติ' ผอ.
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ เรื่องปรับ ครม. ส่วนความพร้อมหากสมาชิกพรรคสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคยังไม่รู้เลย แล้วแต่สมาชิกพรรค ที่มีข่าวว่าจะเสนอชื่อตนเป็นหัวหน้าพรรคเพียงชื่อเดียวก็ไม่รู้ ทั้งนี้พรรคต้องเป็นหนึ่งเดียว คิดเป็นหนึ่งเดียว คิดเหมือนๆ กัน แต่ละคนต้องมาหลอมรวมให้เกิดความเข้มแข็งในพรรค และทำให้พรรคเข้มแข็ง 
    เมื่อถามว่านายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. เสนอในที่ประชุม ส.ส.พรรคให้ผู้ที่จะมาเป็น กก.บห.ต้องมีคุณสมบัติไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเป็นเรื่องที่นายสิระที่คิดเอง ไม่รู้ ต้องไปถามเขาดู เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่มีอะไร 
    พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า เรื่องปรับ ครม.แล้วแต่นายกรัฐมนตรีคนเดียวเลย ส่วนของ พปชร.การปรับ ครม.ไม่มีอะไรต้องขัดแย้งกัน นายกฯ รู้หมดว่าคนไหนเป็นอย่างไร นายกฯ ดูหมด ดูทุกพรรค และไม่ประเมิน แล้วแต่นายกฯ เพราะรู้ว่าจะปรับอย่างไรที่จะนำพา ครม.ไปได้อย่างไร 
    สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ชุดรักษาการในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ที่ทำการพรรค อาคารปานศรี ในเวลา 10.00 น. ล่าสุดมีการส่งหนังสือเชิญ กก.บห.ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเข้าร่วมประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นการลงนามโดยนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมแนบระเบียบวาระการประชุมเข้ามาด้วย ทั้งนี้ การประชุมวันดังกล่าวมีการบรรจุวาระการเตรียมการประชุมใหญ่พรรค ที่จะมีการกำหนดวัน เวลา สถานที่การประชุม  การเชิญสมาชิกเข้าร่วม ระเบียบวาระการประชุมใหญ่ โดยมีวาระสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามอง คือการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพรรคจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว แบบไม่มีการเสนอชื่อใครเข้ามาแข่ง 
    ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเรื่องตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง กก.บห.พรรค พปชร.ชุดใหม่  โดยเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรได้พูดคุยกับแกนนำพรรคบางส่วนว่า ได้ตัดสินใจจะให้นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่ ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง จะให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค ส่วน กก.บห.ชุดใหม่เบื้องต้นจะใช้ กก.บห.ชุดเก่าเกือบทั้งหมด เพราะมีสัดส่วนจากภาคต่างๆ ครอบคลุมอยู่แล้ว จะเปลี่ยนเพียงบางคนเท่านั้น เช่น สัดส่วนจากภาคใต้ นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต จะมาแทนนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง โดย กก.บห.ชุดใหม่จะมี พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค นายอนุชาเป็นเลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค 4 คน ได้แก่  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นผู้อำนวยการพรรค นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกตำแหน่งประธาน ส.ส.ของพรรคที่นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรีเคยดำรงตำแหน่ง ส่วนผู้บริหารชุดเก่าที่นำโดยนายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน รักษาการเลขาธิการพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รักษาการรองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล  รักษาการ กก.บห.จะไม่มีรายชื่ออยู่ใน กก.บห.ชุดใหม่
    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พล.อ.ประวิตรจะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเพียงชั่วคราวหรือ 6 เดือนเท่านั้น รวมถึง กก.บห.ชุดใหม่ด้วย จากนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรคอีกครั้ง เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรเข้ามาเพียงแค่แก้ปัญหาความวุ่นวายในพรรคเท่านั้น สำหรับหัวหน้าพรรคคนต่อไปจาก พล.อ.ประวิตรจะต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับและเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และฝ่ายกฎหมายพรรค เปิดเผยว่า เนื่องจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งในที่ประชุมสภาถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันหรืออาจมากกว่านั้น โดยเริ่มวาระแรกในวันที่ 1 ก.ค. ทำให้อาจต้องเลื่อนกำหนดการประชุมใหญ่สามัญของพรรคจากวันที่ 3 ก.ค.ให้เร็วขึ้น โดยจะเสนอในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 19 มิ.ย. เพื่อพิจารณา ควบคู่การกำหนดสถานที่ประชุม ที่มีความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 รองรับจำนวนผู้เข้าประชุมกว่า 300 คน โดยมีเสนอมาบ้างแล้ว เช่น อิมแพ็ค เมืองทองธานี
    วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101  (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีมติให้ ร.อ.ธรรมนัสหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.หรือรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่มีเหตุอันควรสงสัยที่จะมีคำสั่ง จึงมีคำสั่งว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง
     ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ถูกศาลออสเตรเลียตัดสินว่ามีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด สั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย  จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10)
'แคร์' เปิดตัวปัดโยงทักษิณ
     ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีนายกฯ ปฏิเสธกระแสข่าวแนวทางนิรโทษกรรมคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองว่า ไม่มีมูลความจริงใดๆ และไม่ทราบเจตนาผู้ปล่อยข่าวว่ามีความประสงค์สิ่งใด ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่รับผิดชอบและดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมต่างๆ รวมทั้งการขอพระราชทานอภัยโทษ ในกรณีต่างๆ นั้น กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม มีการดำเนินการตามเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดอยู่แล้ว รัฐบาลไม่สามารถไปก้าวก่ายหรือเสนอแนวทางใดๆ ได้
    วันเดียวกัน ที่วอยซ์สเปซ ตัวแทนกลุ่มแคร์ที่เป็นสมาชิกเริ่มต้น อาทิ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค, นางวีรพร นิติประภา, น.ส.ลักขณา ปันวิชัย, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, น.ส.รัสรินทร์   ชินโชติธีรนันท์, นายภูมิธรรม เวชยชัย และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ร่วมเปิดตัวกลุ่มอย่างเป็นทางการ  โดย น.ส.ลักขณาเป็นตัวแทนอ่านคำประกาศเจตนารมณ์ว่า "วันนี้ วันที่โลกทั้งใบต้องเผชิญกับวิกฤติโควิดไนน์ทีน ซึ่งส่งผลกระทบที่ลึกร้าวยาวนาน อัตคัดสาหัส แผ่ขยายเป็นวงกว้างกว่าทุกครั้งที่มนุษยชาติเคยเผชิญ และซ้ำร้ายยังเกิดในห้วงเวลาที่ประเทศไทยตกต่ำ เราจะก้าวเดินต่อไปอย่างไรกัน เพราะวันนี้ ประเทศไทยเหมือนตกอยู่ในกับดักที่ไร้ทางออก เราจะฟื้นคืนความหวังให้กลับมาได้อย่างไร 
    แคร์ คือกลุ่มคนจากหลากหลายวงการ หลากหลายสาขาวิชาชีพ หลากหลายประสบการณ์และหลากหลายวัย ที่ 'ห่วงใย' ต่ออนาคตของประเทศนี้ เราจะระดมคลังสมอง ขยายเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างความร่วมมือใหม่ให้ทุกคนมาร่วมกัน 'คิด-เคลื่อน-ไทย' เพื่อสร้างความเป็นไปได้นับล้านๆ ในการขับเคลื่อนประเทศอันเต็มไปด้วยศักยภาพของเรา ให้สามารถกลับไปหยัดยืนสง่างาม มีศักดิ์ศรี เคียงข้างอารยประเทศอีกครั้ง"
    นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า เราเริ่มต้นจากการเห็นปัญหาของประเทศ แล้วรวมตัวคนจากคนหลายๆ คนเข้ามา ขณะนี้เรามีสมาชิกอยู่ 30-40 ท่านแล้ว เราเริ่มต้นจากความคิดที่เป็นบวก เริ่มต้นจากความสร้างสรรค์มากกว่าการทำลาย เน้นหาคำตอบและหาทางออกให้แก่ประเทศ ต้องเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่เพ้อฝัน และต้องสานฝันให้เป็นจริง 
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า พวกเรายึดมั่นในประชาชนและพลังพลเมือง เราเชื่อว่าจะสะท้อนความต้องการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ที่ผ่านมาสังคมไทยฟังเสียงประชาชนน้อยเกินไป นับจากวันนี้เราเริ่มต้นก้าวเดิน และเคลื่อนไปทุกที่ที่ประชาชนอยู่ ไปหาประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อดึงความร่วมมือทุกคนมาช่วยกันคิด ช่วยกันขับเคลื่อนสังคมไทย 
    นพ.พรหมินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความเชื่อมโยงของกลุ่มแคร์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เราต้องดูที่เจตนาก่อน วันนี้ปัญหาของประเทศมีจำนวนมาก โดยเฉพาะวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก และมีข้อเรียกร้องหลายอย่าง เราเริ่มต้นจากความห่วงใยประเทศ  จึงรวมกลุ่มกันเข้ามานั่งพูดคุย ซึ่งมีบุคคลที่หลากหลาย โดยเราจับกลุ่มกันเพื่อหาทางออก หลักๆ ไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง แต่คุยกันในเรื่องที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์แก่ประชาชน สมาชิกเริ่มต้นถกเถียงกันอย่างชัดเจนว่าอันนี้ไม่ใช่พรรคการเมือง 
     เมื่อถามว่า ภาพของกลุ่มเหมือนอยู่ใต้ร่มเงาของนายทักษิณอยู่ จะทำให้ภาพแยกจากกันชัดเจนได้อย่างไร นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ไม่มีอะไรดีกว่าการปฏิบัติที่เป็นจริง ซึ่งถ้าใครมีเจตนาที่ดีแล้วอยากเข้ามาร่วมเราก็ยินดีหมด ยืนยันไม่มีความเชื่อมโยง เราเป็นอดีตรัฐมนตรี เคยทำงานให้บ้านเมือง มีประสบการณ์ และเราเห็นภาพรวม คิดว่าเคยทำอะไรให้ประชาชน โดยขณะนั้นเราเป็นรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลของนายทักษิณที่เปิดโอกาสให้เราคิด เราทำ และเกิดเป็นผลงานจริงขึ้นมา.