11 เม.ย .61- เวลา 22.00 น.ที่ผ่านมาระหว่างที่ ร.ต.อ.สิงห์ นารี สวป.สภ.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด  พร้อมสายตรวจและร.อ.เกษม รอดจีน ผบ.ร้อยทพ.นย.ที่ 532(จ้าวภูผา) และทหารพรานได้ร่วมทำการตั้งจุดสกัดร่วมตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อตรวจค้นและสกัดการขนสินค้าผิดกฏหมาย และสิ่งผิดกฏหมายทุกชนิด

ระหว่างที่กำลังตรวจนั้น พบรถกระบะสีดำยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู เลขทะเบียน ภศ.8738 กรุงเทพมหานคร กระบะตอนหลังปิดฝาด้วยพลาสติก ด้านกระจกหน้ารถยนต์มีสติกเกอร์ระบุสังกัดว่า “พัน.4รอ.มีสัญญลักษณ์รถถัง 2557 ด้านล่างชื่อเต็มว่า ทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์” มีนายชยุต  ประเสริฐฤทธิ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 1 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นผู้ขับขี่จึงขอเรียกตรวจค้น และขอให้เปิดฝากระบะด้านหลัง

เมื่อตรวจค้นพบ มีอาวุธสงครามจำนวนมากร.ต.อ.สิงห์ นารี และร.อ.เกษม รอดจีนจึงได้สั่งให้ตำรวจและทหารพรานได้ทำการตรวจค้นในรถยนต์อย่างละเอียด และพบอาวุธสงครามหลายชนิดประกอบด้วย

• 1.ปืนทราโว  จำนวน 2 กระบอก(มีเลขทะเบียน)
• 2.ปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก
• 3.ปลายกระบอกปืนเอ็ม 16 ส่วนบน จำนวน 20 อัน
• 4.แป้นปืน จำนวน   4 อัน
• 5.พลุ  จำนวน 3 แท่ง

ส่วนเอกสารอื่นๆที่พบประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย เงินสดจำนวน 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกา 1 เรือน รวมทั้งใบขับขี่รถยนต์ พร้อมเอกสารทะเบียนรถยนต์จำนวนหนึ่ง

ต่อมาน.อ.ประจวบ มะลิทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และพ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด ได้รับรายงานจึงได้เดินทางมายังที่หน้าสภ.ไม้รูดที่ใช้เป็นจุดที่ตั้ง และเข้าตรวจสอบอาวุธสงครามและพูดคุยกับนายชยุต ประเสริฐศรี ที่ยอมรับว่า ได้รับอาวุธสงครามทั้งหมดมาจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำมาขึ้นที่ท่าเรือชลาลัย บ้านคลองสน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จากนั้นจะขนไปขายให้กับผู้ที่ได้สั่งซื้อมา

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหายังไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก แต่ยอมรับว่า อาวุธทั้งหมดขึ้นที่ท่าเรือดังกล่าวจะนำไปขายให้กับผู้ที่สั่งซื้อมาที่จ.สระบุรี หรือพื้นที่ใกล้เคียงและขนอาวุธเพียงคนเดียว โดยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

น.อ.ประจวบ กล่าวว่า อาวุธสงครามที่ผู้ต้องหานำมานั้นมาจากประเทศเพื่อนบ้านและนำมาขึ้นที่ท่าเรือชลาลัย ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อนำไปขายให้กับผู้สั่งซื้อ เชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมซัดทอด พบว่า เดินทางมาหลายครั้งแล้ว แต่อาวุธเหล่านี้บางส่วนมีทะเบียน ขณะที่ปืนทราโว มีใช้ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ดเรศ กล่าวว่าเบี้ยงต้นต้องทำการสอบสวนต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนค้าอาวุธกลุ่มเดิมที่เคยถูกจับได้มาปีที่ผ่านมา และการลักลอบขนมาขึ้นที่ท่าชลาลัยที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าเข้าออก จึงอาจจะหลุดรอดไป อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นทหารหรือไม่อย่างไรจะทำการตรวจสอบต่อไป.