โรคห่าศตวรรษที่ 21 ในชื่อ “โควิด-19” ในระดับโลกยังคงไม่มีทีท่าว่าจะสร่างซาลงแต่ประการใด ซ้ำร้ายหลายประเทศที่คิดว่า “รอด” แล้ว แต่ กลับมาเกิด “ระลอกสอง” อย่าง “แดนมังกร” และ “แดนกีวี” ส่วนในไทยนั้นต้องบอกว่าสถานการณ์ดี๊ดีจริงๆ เพราะล่าสุดไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 23 วัน และในสถานกักกันของรัฐต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่ง “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษก ศบค.ก็วาดหวังว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องถึง 28 วัน ซึ่งเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายก็คงต้องลุ้นต่อเนื่องกันอีก 5 วัน ...๐ “ไทยแลนด์” โอนลี่จริงๆ โรคระบาดยังลูกผีลูกคนในระดับโลก เพราะตราบใดที่ยังไม่มี “วัคซีน” โควิด-19 ก็สามารถกลับมาหลอกหลอนในทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ดูเหมือน “การเมืองของพี่ไทย” นั้น จะไม่ยี่หระเรื่องดังกล่าวแต่ประการใด เพราะ ตั้งแต่คลายล็อกเฟส 3 เป็นต้นมา ปี่กลองทางการเมืองก็เชิดฉิ่งกันไปถ้วนทั่ว ...๐ ล่าสุดก็เกิดกับพรรคการเมืองที่มี ส.ส.เพียง 5 คน อย่างรวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ “กำนันเทือก” ปั้นมากับมือ เมื่อ “ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล” หรือหม่อมเต่า ประกาศไขก๊อกพ้นเก้าอี้หัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค ด้วย ซึ่งก็ทำให้ “ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” เลขาธิการพรรค ที่ต้องมารับหน้าเสื่อรักษาการหัวหน้าพรรคออกมาชี้แจงทันทีว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ แต่ “ปุถุชน” ทั่วไปคงตระหนักได้ว่า ถ้าไม่มีไฟย่อมไม่มีควัน ยิ่งเป็นการลาออกทั้งหัวหน้า และสมาชิกพรรค อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน แต่ดูเหมือน “รปช.” จะไม่แคร์เท่าใดนัก เพราะหลังจากชี้แจงแถลงไขปุ๊บ ก็เตรียม เสนอชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้นั่งเก้าอี้จับกัง 1 หรือเปล่าทันที ...๐ ไม่ใช่มีเพียง รปช.พรรคเดียวที่มีเอฟเฟ็กต์ เพราะ “พลังประชารัฐ” เองหลังยักแย่ยักยันมานานเฉียดๆ 1 เดือน ก็ได้ฤกษ์นัดประชุมในวันที่ 19 มิ.ย. เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่ง ล่าสุดก็เคาะกันแล้วแบบไม่พลิกโผแต่ประการใด เมื่อหัวหน้าพรรค พปชร.คนที่สองจะชื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค ในขณะที่ เลขาธิการพรรคนั้น เคาะชื่อ “อนุชา นาคาศัย” ส.ส.ชัยนาท จากกลุ่มสามมิตรแล้ว ส่วน “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.การคลัง ซึ่งเดิมเป็นแคนดิเดตชิงเลขาธิการพรรค จะถอยไปเป็น “ผู้อำนวยการพรรค” ตามที่ “บิ๊กป้อม” วางตัวไว้ ...๐ แต่ดูเหมือน “พปชร.” จะยังไม่จบง่ายๆ เสียแล้ว เพราะในการประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ขาประจำ” อย่าง “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. โยนระเบิดลูกใหม่และใหญ่ว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมถึงสมาชิกจะต้องไม่มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งก็ไม่รู้ “สิระ” จงใจกระแหนะกระแหนใคร แต่ที่ได้จังหวะยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญประชุมได้มีมติรับเรื่องการวินิจฉัยสถานภาพของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมผ่า” รมช.เกษตรฯ ที่ถูกศาลออสเตรเลียตัดสินในคดียาเสพติดนั้น จะทำให้สิ้นสภาพ ส.ส.และรัฐมนตรีหรือไม่ โดยให้ “ร.อ.ธรรมนัส” ชี้แจงภายใน 15 วัน แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนกรณีใครบางคน ...๐ ขณะที่ซีก “พรรคเพื่อไทย” แม้กระแสรอยร้าวจะไม่เปรี้ยงปร้าง เพราะอยู่ในช่วงขาลงหลังจากไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่รอยปริแตกก็เริ่มถ่างกว้างมากขึ้น เมื่อกลุ่มแคร์ของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ยังคงเดินหน้าเปิดตัวแบบไม่อินังขังขอบพรรคที่สังกัดแต่ประการใด ซึ่ง อาจจะเป็นเทคนิคทางการเมือง แยกกันเราอยู่ รวมกันเราตายก็ได้ แต่ในสายตาของประชาชีต่างก็เห็นชัดแจ้งว่า “กลุ่มแคร์” เป็นกลุ่มของนายเหนือที่แท้ทรูจริงๆ เพราะในรายชื่อนั้นก็เรียกว่าเป็นมือเท้าของสัมภเวสีแม้วอย่างปฏิเสธไม่พ้น ยิ่งการเปิดตัวอย่างเป็นทางการล่าสุดที่ให้ “ลักขณา ปันวิชัย” หรือคำ ผกา แห่งวอยซ์ทีวีเป็นผู้อ่านคำประกาศเปิดตัว แบบไม่ต้องเหนียมกันชัดๆ ...๐ ส่วนอดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในระดับบิ๊กเนม ทั้ง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” “ปิยบุตร แสงกนกกุล” และ “พรรณิการ์ วานิช” นั้น นับจากนี้ก็ต้องจับตาอย่างยิ่งว่า กกต.จะมีการตีเส้นอย่างไรในคำว่า “ตัดสิทธิทางการเมือง” เพราะ ล่าสุด “สนธิญา สวัสดี” อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการและอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรค พปชร. ได้ไปยื่นหนังสือในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งตีเส้นว่าใน 15 วันหากไม่มีอะไรเป็นดอกผลก็จะยื่นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง แหม! กว่าจะถึงตรงนั้นก็อยากฝากถาม กกต.ว่า ในส่วนของคดีของ “พ่อฟ้า” ที่ยังค้างคาอยู่ เมื่อไหร่จะสะเด็ดน้ำจ๊ะ หรือต้องรอ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ไปจ้ำจี้จ้ำไช ...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |