แฟ้มภาพ

17 มิ.ย.63 - ในการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ ที่ส.ส.หลายคนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถสร้างคะแนนนิยมให้พรรคได้ในช่วงสถานการณ์โควิด โดยแหล่งข่าวยืนยันว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นตามสไตล์ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แต่ละคน บรรยากาศเหมือนมีความขัดแย้งซึ่งเป็นเรื่องปกติของพรรคที่มีเสรีภาพทางความคิด แต่ภายหลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เดินเข้ามาร่วมประชุมบรรยากาศเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะภายหลังจากที่ได้ตอบคำถาม ส.ส.แต่ละคนอย่างใจเย็น 

แหล่งข่าวระบุว่าในที่ประชุม ส.ส.ประชาธิปัตย์  นายจุรินทร์ กล่าวว่าตนอยู่ที่พรรคมานาน ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นในพรรค การรับฟังความเห็นในพรรคฯ นั้น ตนซึมซับวัฒนธรรมนี้ได้ และอยู่ในสายเลือด เข้าใจความเป็นประชาธิปัตย์และในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่คิดจะนำพรรคฯ ไปสู่ความเป็นพรรคอะไหล่ทางการเมือง โดยขอให้มองสถานการณ์ทั้งก่อนการเลือกตั้ง และในวันนี้ว่าเราอยู่ในสถานะอะไร วันนี้เราไม่ใช่พรรค 160 เสียง เรามี 52  เสียง ถ้าพวกเราจับมือเป็นเอกภาพ ตั้งใจทำงานไปด้วยกัน เรามีสิทธิ์นำพรรคไปข้างหน้าได้ภายใต้ข้อจำกัด

"ประชาธิปัตย์ในยามนี้เหมือนกับเครื่องบินที่กำลังเทคออฟผ่านเมฆเครื่องก็สั่นไปทั้งลำ ผมเป็นกัปตันก็ต้องพาเครื่องฝ่าเมฆไปให้ได้ ขออย่างเดียว ขอความร่วมมือจากพวกเรา ผมพร้อมรับฟังเสมอแม้บางสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยแต่ก็จะพยายามจัดเวทีให้ได้พูดคุยกัน" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ความยาก คือ เมื่อพรรคมีมติให้ร่วมรัฐบาล เราไม่ได้อยู่ในสถานะพรรคแกนนำ  เราเป็นพรรคลำดับ 3 การที่จะเอาเงื่อนไขของพรรค 3 ข้อไปปฏิบัติก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องประกันรายได้ เรื่องการแก้ไข รธน. นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะเรื่องประกันรายได้ ทั้งผมและเลขาฯพรรค (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) ต้องใช้พละกำลังและความอดทนพอสมควร เพื่อผลักดันให้เดินหน้าไปได้ มีอุปสรรคทั้งเรื่องหลักคิด งบประมาณ กระบวนการทำต่างๆ และกว่าจะได้บัตรสีชมพูให้เกษตรกรก็หลายรอบ และวันนี้ก็ได้แล้ว และก็ต้องติดตามให้ได้ทุกคน เพราะกระบวนการราชการไม่เหมือนกับที่คิด แต่คิดว่าวันนี้ประกันรายได้มันไปได้แล้ว และประสบความสำเร็จพอสมควร  มั่นใจว่าแม้ไม่ดังหวือหวาเหมือนนโยบายแจกเงินสด แต่ก็ได้รับการตอบรับไม่น้อยเมื่อดูจากผลสำรวจของหลายสำนัก โดยเฉพาะของสำนักงานสถิติแห่งชาติ นโยบายประกันรายได้อยู่ลำดับต้นๆ ดังนั้นผู้แทนของพรรค โดยเฉพาะผู้แทนเขต ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพิ่มเติม

ส่วนมติตั้ง กมธ.วิสามัญ พรก.กู้เงิน 3 ฉบับ ผมเห็นด้วยและสนับสนุน และไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามที่ พปชร. จะกำหนด จึงได้คุยกับ ประธานวิป ให้ไปช่วยผลักดันในที่ประชุมวิป และผมเป็นคนหนึ่งที่คุยกับนายกฯ ด้วยตัวเอง ถึงเหตุผลในการตั้ง กมธ. วิสามัญชุดนี้ ว่า รัฐบาลต้องเป็นคนตั้ง เพื่อจะได้แสดงให้เห็นว่าเราไม่กลัวการตรวจสอบ หากเป็นวิธีการปกติ กมธ.สามัญ ก็ต้องตรวจสอบ และไม่ใช่เป็นคนในซีกรัฐบาล ทำให้นายกฯ มองเห็นมุมที่แตกต่าง และยอมรับครับ

"ผมไม่ทำให้พรรคเสียศักดิ์ศรีหรอกครับ  ผมกำชับ รมต. ของพรรค และมีการประชุม ครม. พรรค ทุกวันอังคาร เป็นการซักซ้อมการปฏิบัติหน้าที่ ช่วงหลังมาประชุมทุกวันจันทร์ 5 โมงเย็น โดยมี ส.ส. ได้เข้าประชุมด้วย เพื่อช่วยกันทำหน้าที่  การปฏิบัติงานมี 2 มุม บางมุมอาจจะจริงที่ว่าปชป. ไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุด แต่ก็มีบางมุมที่คนบอกว่า ยุคนี้ค่อยๆ ดีขึ้น เพราะสิ่งที่ปรากฏมีรูปธรรมของผลงานจับต้องได้ นำไปขยายผลต่อไปได้  อย่างไรก็ตามขอให้ ปชป. มีเอกภาพในพรรคฯ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทั้ง สส. และ กก.บห. ต้องช่วยกันขอให้มาช่วยกันทำให้พรรคแข็งแรง”" นายจุรินทร์ กล่าว