นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่าเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากการที่รัฐบาลได้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 ที่ห้ามไม่ให้ออกนอกเคหะสถานในยามวิกาล และผ่อนคลายใน 12 กิจกรรม แต่ยังให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 นั้น นับเป็นสัญญานบวกในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะบรรยากาศในการลงทุนที่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กนอ.เล็งเห็นถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้มีการมาตรการส่งเสริมการลงทุน (โปรโมชั่น) โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ทั้งที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว นิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) จังหวัดสงขลา และที่นิคมอุตสาหกรรมยางพารา จังหวัดสงขลา ด้วย
นิคมอุตสาหกรรมยางพารา จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ในตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พื้นที่จำนวน 1,248 ไร่ แบ่งโซนพื้นที่ออกเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 629 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภค 619 ไร่ นับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการรองรับผลผลิตยางพาราพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมยางพาราทั้งระบบ โดยคาดว่าเมื่อมีการใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพแล้วจะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 7,000 อัตรา และก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท
สำหรับโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย/เช่าที่ดินของนิคมอุตสาหกรรมยางพารา แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ส่งเสริมการขายที่ดิน จะได้รับส่วนลดร้อยละ 5 ของอัตราราคาขายที่ดิน /ยกเว้นค่าบริการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก ในปีแรก นับจากวันที่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย / สัญญาซื้อขายที่ดิน และสามารถแบ่งชำระการซื้อที่ดินในการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินได้ภายใน 6 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องยื่นขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการต่อ กนอ. ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 โอนที่ดินภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และแจ้งเริ่มประกอบกิจการภายในระยะเวลา 2 ปี
และ 2.มาตรการส่งเสริมการเช่าที่ดิน จะได้รับยกเว้นค่าเช่าที่ดินในปีแรก นับจากวันที่ทำสัญญาเช่าที่ดิน และยกเว้นค่าบริการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกในปีแรก นับจากวันที่ทำสัญญาเช่าที่ดิน โดยผู้ที่ได้รับสิทธิดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ใช้ที่ดินเพื่อประกอบอุตสาหกรรมยางพาราขั้นปลาย (Downstream Rubber Industry) และผู้ใช้ที่ดินเพื่อประกอบอุตสาหกรรมยางพาราขั้นกลาง (Midstream Rubber Industry) ทำสัญญาเช่าที่ดินภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 และมีระยะเวลาการเช่าไม่น้อยกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ กนอ.ยังมีแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นผู้เช่ารายเดิมในส่วนของโรงงานมาตรฐาน โดยการปรับลดค่าเช่ารายเดือนจากเดิมที่ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 60 บาท/ตารางเมตร/เดือน เหลือเพียง 20 บาท/ตารางเมตร/เดือน และผู้เช่ารายใหม่ที่ปัจจุบันอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 165 บาท/ตารางเมตร/เดือน เหลือเพียง 20 บาท/ตารางเมตร/เดือน เช่นกัน โดยทั้งสองกรณีจะมีระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2563
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจจัดตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหรือขอคำปรึกษา สามารถติดต่อเข้ามาที่ กนอ. โทรศัพท์ 0-2253-0561 ต่อ 2123 หรือ Call Center 0-2207-2700 หรือติดต่อทาง www.ieat.go.th/golden-location/rubber-city และ E-mail : [email protected]
“นิคมอุตสาหกรรมยางพารา เป็นนิคมฯที่เน้นเพิ่มอุปสงค์การใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนการใช้น้ำยางพาราจากเกษตรกรในพื้นที่และในประเทศ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยางพาราขั้นกลางน้ำ และปลายน้ำ เช่น ยางคอมปาวด์ ยางแท่ง อุตสาหกรรมจากยางน้ำข้น ประเภทถุงมือยาง ยางฟองน้ำ ยางรถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มมูลค่ายางพาราโดยใช้นวัตกรรมในกระบวนการผลิต เพิ่มมูลค่าการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |