ตำรวจคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสฆ่าหญิงท้อง 8 เดือน ส่งฝากขัง ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ปมสังหารโหด แต่บอกญาติไม่ต้องยื่นประกันขอชดใช้กรรมที่ก่อ ญาติโยมมารอให้กำลังใจบอกเป็นพระนักพัฒนาแต่ไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวไม่คาดคิดจะก่อเหตุสลด ลูกวอนขอความเป็นธรรมยันผู้ตายไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหา อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

17 มิ.ย.63 - ร.ต.อ.สุริยา ลีนุรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้นำตัวนายอุ่ม อายุ 59 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองบัว ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง ผู้ต้องที่ก่อเหตุขับรถตู้พุ่งชนรถยนต์กระบะของนายธรรมปพณ และนางลำไพ สองสามีภรรยา จนด้านหน้ารถพังเสียหายและได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนางลำไพ ผู้เป็นภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน ได้เปิดประตูลงจากรถ เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ แต่อดีตเจ้าอาวาสกลับถือมีดอีโต้ที่พกใส่ในรถตู้ไปด้วยตามไปฟันนางลำไพเข้าที่บริเวณศีรษะ และข้อมือด้านขวา เป็นแผลฉกรรจ์จนเสียชีวิตคาที่พร้อมลูกในท้อง หรือตายทั้งกลมอย่างโหดเหี้ยม โดยอ้างว่า โกรธแค้นที่ถูกนางลำไพข่มขู่ขอเงินหากไม่ให้จะแฉความสัมพันธ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว  แต่จะให้ประกันหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอดีตเจ้าอาวาส ขึ้นรถเพื่อนำไปฝากขัง ก็มีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียดและไม่ยอมพูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อ ขณะที่ญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าจะมีการส่งฝากขังวันนี้ ต่างก็มารอให้กำลังใจอดีตเจ้าอาวาสที่โรงพัก ซึ่งชาวบ้าน บอกว่า อดีตเจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนาที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย แต่ก็ไม่รู้เรื่องส่วนตัว ก็ไม่คาดคิดเจ้าอาวาสจะก่อเหตุสลดแบบนี้

ขณะที่ น้องชาย อดีตเจ้าอาวาส บอกว่า จากที่มาเยี่ยมทุกวันตั้งแต่ถูกจับกุมก็พูดคุยกันปกติ ส่วนชนวนเหตุตนก็ไม่ได้สอบถามอะไรมาก เพราะเกรงพี่ชายจะคิดมาก พี่ชายบอกเพียงว่าไม่ต้องยื่นประกันตัวจะขอชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำ ถึงแม้ว่าชนวนเหตุจะเกิดจากเรื่องอะไรก็ตามแต่อีกฝ่ายเสียชีวิตไปแล้ว ทางญาติก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ขึ้น

ด้าน ลูกสาว และลูกเขยของผู้ตาย ก็ออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายด้วย พร้อมยืนยันว่า แม่ไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งเรื่องชู้สาวและที่เรื่องที่ไปขู่ขอเงิน เป็นเพียงคำพูดของทางญาติผู้ก่อเหตุ และคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาเท่านั้น แต่แม่เสียชีวิตไปแล้วไม่สามารถพูดอะไรได้ ทั้งนี้ ยังฝากถึงคนที่เสพข่าวและแสดงคิดเห็นต่อว่าแม่ในทางเสียหาย ทั้งที่ไม่รู้ความจริงและข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายอ้างก็ไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจะเขียนอะไรควรจะให้เกียรติคนตายและนึกถึงความรู้สึกของครอบครัวบ้าง ส่วนผู้ก่อเหตุก็อยากให้กฎหมายลงโทษให้หนักที่สุดเพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมฆ่าได้กระทั่งคนท้องแล้วตัวเองก็เป็นถึงเจ้าอาวาส