ก็ดีใจด้วย กับ "ทีวีดิจิทัล" ทุกช่อง!
"พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด" โฆษกสำนักนายกฯ แถลงผลประชุม ครม.เมื่อวาน (๑๐ เม.ย.๖๑) สรุปได้ว่า
"มาตรการเยียวยา"...........
ครม.โอเค แล้ว!
จะเยียวยาแบบไหน-อย่างไร รอดูนายกฯ ใช้อำนาจตาม ม.๔๔ ออกเป็นคำสั่ง
แถมพ่วงด้วย "ปลดล็อก"
ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ มีโฆษณาได้ อนุญาตเอกชนเข้ามาทำรายการได้
ทีวีดิจิทัลรอด "ตายโหง" ไปแล้ว
ก็เหลือแต่ "สื่อกระดาษ" ตัวใคร-ตัวมัน ยิ่งสูญพันธุ์ รัฐบาลไม่ว่าเผด็จการหรือประชาธิปไตย
ยิ่งชอบ และอยากเห็น!
แล้วเรื่องอุ้ม AIS-TRUE ขยายงวดจ่ายก้อนสุดท้ายในปี ๖๓ กว่าแสนสองหมื่นล้าน ออกไปเป็น ๕ งวด ๕ ปี ให้ดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕ ล่ะ........
"ตกลงว่าไง?"
พลโทสรรเสริญแถลง ว่า..........
"เรื่องของค่ายมือถือ ยังมีข้อถกเถียง ยังไม่ได้ข้อสรุป ให้รอไปก่อน”!
เรื่องอุ้มเศรษฐีไปสอยกัลปพฤกษ์นี้ ผมอ่านพาดหัว "กรุงเทพธุรกิจ" ฉบับที่ ๑๐ เมษาแล้ว อยากถาม
"แน่จริงเปล่า?" ที่ว่า......
"กสทช.-คสช." ถอยอุ้มมือถือ "ทีวีดิจิทัล" รอลุ้น
ทรู-เอไอเอส ขู่ล้มโต๊ะ "1800"
บอกตรงๆ อยากเห็น........
คืออยากเห็น ถ้า "ทรู-เอไอเอส" รวมหัว ไม่เข้าประมูลคลื่น ๑๘๐๐ กลางปีแล้ว
"ประเทศไทยจะชักแหง็กๆ"?!
มีคำพูดทั่วไปอยู่คำหนึ่ง ว่าถ้าจะเป็นหนี้ ต้องเป็นหนี้มากๆ จึงจะเป็นต่อ
เจ้าหนี้ "ต้องเอาใจ"
เพราะกลัวเบี้ยว ฉะนั้น ต่อรองอย่างไร เจ้าหนี้จะยอม
แต่ถ้าเป็นหนี้น้อยๆ เจ้าหนี้ไม่เกรงใจ ขย้ำเอาฝ่ายเดียว!
ดูท่าที ๒ ค่าย จากพาดหัวนี้ ยึดเป็นคติเตือนใจไว้เลย
๒ ค่าย.......
มีหนี้ต้องจ่ายรัฐ รายละ ๕-๖ หมื่นล้านเท่านั้น
ยังขู่ฟ่อ....ไม่อุ้ม จะล้มโต๊ะ!
สมมุติถ้าอุ้ม ในยอดหนี้ ๑๒๐,๐๐๐ ล้าน จากนั้น สองค่ายเอาเงินที่ยืดจ่ายออกไปนี้ ไปประมูลคลื่นในรอบต่อๆ ไปอีก
ยอดหนี้ ก็จะพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ
จาก ๑๒๐,๐๐๐ ก็จะ ++++ รัฐรวยตัวเลขหนี้ ด้วยดอกร้อยละ ๑.๕
ในขณะที่ลูกหนี้ เอายอดหนี้ไปสร้างกำไรสด ในฐานดอกร้อยละ ๗ ++++
เหมือน "มีดเล่มหนึ่ง".......
ตอนนี้ รัฐ "เจ้าหนี้" จับด้ามมีด "ลูกหนี้" จับปลายมีด
ฝ่าย "จับด้าม" เป็นฝ่ายได้เปรียบ
แต่ถ้าปล่อยให้ ๒ ค่าย สะสมยอดหนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์จะเปลี่ยน
ลูกหนี้ จะเป็นฝ่ายจับด้าม
เจ้าหนี้ จะตกเป็นฝ่ายจับปลาย!
แค่ลูกหนี้บิดด้ามมีดนิดเดียว เจ้าหนี้ก็โอยยย...เลือดสาด บาดมือเหวอะแล้ว
"ข้าจะเสนอเงื่อนไขที่เจ้าไม่สามารถปฏิเสธได้" ไม่เคยดูหนัง Godfather รึไง?
แล้วฝ่ายรัฐ ทำไงล่ะ ทีนี้........
ก็ต้อง จ๋า...จ้ะ
"กำขี้ดีกว่ากำตด" ลูกหนี้จะเกี่ยงงอนอย่างไร ต้องยอมสถานเดียว!
ปีหน้าจะเลือกตั้งมิใช่หรือ?
ไอ้เบื๊อกคุยที่ญี่ปุ่นวันก่อน ว่าเพื่อถุยของเขาจะชนะถล่มทลาย ได้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลแน่
เมื่อเป็นอย่างนี้ รัฐบาล คสช.ทำ "หมูโสร่ง" กินดีกว่า
จำเป็นอะไร ที่ต้องปรุงเมนู "ผัดไทยห่อไข่" ประเคน ๒ ค่ายมือถือนั่น?
ของเขา.........
เมื่อเขาได้อำนาจคืน อยากอุ้ม...เขาก็ไปยืด-ไปขยายกันเองแหละ!
ขนาดตั้งกระทรวง เพื่อสร้างเงื่อนไข แก้กฎหมาย-แปลงสัมปทาน สนองธุรกิจโทรคมนาคมตัวเองเห็นๆ เขายังทำ
แล้วที่ให้อุ้มกันนี่ จะเหลือเรอะ?
ผมจะยกให้ดู ที่ผู้บริหารทรู-เอไอเอส อ้างเหตุให้อุ้ม นั้น สาธุชนทั้งหลาย ฟังแล้ว รับได้มั้ย?
นายวิเชาวน์ รักพงศ์ไพโรจน์ ผู้จัดการใหญ่กลุ่มทรู อ้างว่า.......
ในการประมูลคลื่น ๙๐๐ ที่ผ่านมา ตั้งราคาเริ่มต้นประมูลไว้กว่า ๑๖,๐๐๐ ล้าน
ประมูลจบ ราคาประมูลสูงกว่าที่ตั้งไว้ถึง ๖ เท่า
กลุ่มทรูจึงเห็นว่า.....
การประมูลที่ผ่านมา ราคาสูงกว่าราคาเริ่มต้นหลายเท่าตัว จึงน่าจะขอความช่วยเหลือจากรัฐ........
หากรัฐบาลไม่ช่วยเหลือ ก็พร้อมเคารพการตัดสินใจ
แต่มีประเด็นน่ากังวล คือ
หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าประมูลคลื่นความถี่ต่อไป ที่ กสทช.จะเปิดประมูล
เพราะ "ผู้เล่นในตลาดมีเท่าเดิม"!
ทางค่าย AIS "นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร" อ้างทำนองเดียวกันว่า.........
"เนื่องจากราคาประมูลคลื่นดังกล่าวสูงกว่าการประเมินไว้มาก หากรัฐผ่อนผันการชำระเงินค่าคลื่นออกไปก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม
โดยบริษัทจะสามารถนำงบประมาณเข้าไปร่วมการประมูลคลื่นในครั้งต่อๆ ไป"
ฝ่าย DTAC "นายราจีฟ บาวา" ฝรั่งฉวยโอกาส ยื่นข้อเสนอพันมือ-พันตีนทันที
"การประมูลคลื่น ๑๘๐๐ ในเดือน มิ.ย.ที่จะถึง เสนอว่า รัฐไม่ควรกำหนดราคาขั้นต่ำ โดยอิงราคาชนะการประมูลคลื่น ๑๘๐๐ เมื่อปี ๒๕๕๘
เนื่องจากผู้เข้าร่วมประมูลรายหนึ่ง ในครั้งที่ผ่านมาไล่ราคาจนสูงผิดปกติ..."
ถามจริงๆ เถอะ.....
ทั้ง ๓ ค่าย พวกคุณงั่ง จนไม่เข้าใจคำว่าประมูลและการแข่งขันการประมูลหรือ?
อ้างว่าสูงผิดปกติ ใครช่วยกันทำให้สูง ถ้าว่าผิดปกติ แล้วทำไมไม่ร้องค้านให้ล้มเลิกการประมูล ให้เริ่มต้นใหม่ล่ะ?
เห็นยกโขยงเข้าไปนั่งเคาะ-นอนเคาะราคากันข้ามวัน-ข้ามคืน
ได้แล้ว ก็ไชโยโห่ฮิ้ว ออกข่าว คุยโม้ ฉลองกันยกใหญ่!
เอาสัมปทานอากาศไปขายชาวบ้านเป็นรายเสี้ยววินาที รวยหันทันตาเห็น
ทีได้ไม่พูด แต่ทีต้องจ่าย ตามสัญญาที่ตัวเองอ่านแล้ว รู้แล้ว เข้าใจแล้ว พอใจแล้ว
ถึงเวลา กลับงัดแต้ม "ผู้เล่นในตลาดมีเท่าเดิม" ขึ้นมาขู่
ไม่งั้น..........
ประมูลครั้งต่อๆ ไป ไม่มีคนเข้าประมูลนะ!?
เหตุผลอ้างให้รัฐอุ้ม สรุปมี ๒ ประเด็น
๑.ราคาประมูลที่ผ่านมา สูงกว่าราคาเริ่มต้นมาก
๒.ต้องการเอาเงินจ่ายค่างวด ไปประมูลครั้งใหม่
ประเด็นแรก "หน้าด้าน" ไม่ใช่เหตุผล
ถ้ายอมด้วยเหตุนี้ จะเป็นบรรทัดฐาน ทุกการประมูลต่อไป ทั้งงานรัฐ-งานราษฎร์
ใส่ "ให้สูง" เพื่อได้ไว้ก่อน.......
ได้แล้ว ไปต่อรอง "ขอลด-ขอเพิ่ม" ภายหลัง คือประเพณี!
ประเด็นที่สอง อาศัยระบบกึ่งผูกขาด "รวมพวก" บีบรัฐ โดยใช้ "เงาเงิน" ก้อนเดียว
นำไปหมุนเวียนประมูลงานได้ต่อๆ ไปไม่สิ้นสุด
ถึงเวลาจ่ายสัญญาไหน........
ก็ให้อุ้มสัญญานั้นต่อ โดยอ้าง ถ้าไม่อุ้ม ไม่มีใครเข้าประมูล รัฐเสียหน้า-เสียตา ประชาชนด่าไม่รู้ด้วยนะ?
นี่...มันจะเป็นแบบนี้
สรุปแล้ว รัฐถือแต่ "ตัวเลข" ในกระดาษ พอกพูนเรื่อยๆ เยอะแยะ พร้อมจำนวน "ขยายงวดจ่าย"
สัญญานั้น-สัญญานี้ ทีละ ๕ ปี ๑๐ ปี......
"ยอดสะสม" มโหฬาร แต่ตัวเงิน มาแบบกะปริบ-กะปรอย รายงวด-รายปี
เผลอๆ แต่ละค่าย "ครบสัญญาคลื่น" หอบเงินเป็นแสนล้าน-เป็นล้านล้าน ถลกตูดไปไหนต่อไหนหมดแล้ว
ค่างวด "สัญญาขยาย" ยังไม่รู้จะจ่ายครบปีไหนเลย?
อย่าคิดว่า เหตุทำนองนี้ จะไม่เกิด...........
ลองเกิดได้แบบด้านๆ ในรัฐบาล "ไม่โกง-ไม่แบ่งปัน"
แล้วอนาคต.......
ถ้ามีรัฐบาลด้วยนโยบาย "โกงแล้วแบ่งปัน" มีหรือ ที่หมาไม่กินขี้ ยิ่งมีหน่อแนวจากรัฐบาล คสช.กินไว้ด้วย
มันจะยิ่ง "ยกเป็นเหตุอ้างอิง" ขม้ำกันทุกทิวาราตรีกาล!
เยี่ยงนี้แล้ว........
มาตรฐานในข้อตกลงสัญญาบรรดามีใต้สัญลักษณ์ประเทศไทย
มีใครในโลก.......
"ยึดและเชื่อถือ"?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |