แกนนำคณะก้าวหน้าย้อนเกล็ด 'บิ๊กตู่' เมื่อไม่ใช้มาตรา 112 แล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคงกฎหมายนี้ไว้ "หมอวรงค์" ติดแฮชแท็ก#save ม.112 ด่าเช็ด "ช่อ" บิดเบือนคำพูดนายกฯ เป็นผู้ชายเรียกว่ากะล่อน เป็นผู้หญิงเรียกว่าอะไรดี
มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตอนหนึ่ง "ทุกคนต้องสำนึกเรื่องการบิดเบือนสถาบัน เดิมเรามีกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ อยากบอกคนไทยว่าวันนี้มาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้ นี่คือสิ่งที่ท่านทรงทำให้แล้ว และคุณก็ละเมิดกันเรื่อยเปื่อย อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร คุณต้องการอะไรกัน วันนี้จำเป็นต้องปรับต้องพูดเพื่อให้บ้านเมืองสงบ”
คำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ถูกตั้งข้อสังเกตโดย นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งโพสต์ไว้ในทวิตเตอร์เมื่อ 16 มิ.ย.63 ว่า "เมื่อนายกฯ บอกเองว่า ทุกวันนี้ไม่ใช้มาตรา 112 แล้ว และก็เป็นที่รู้กันมานานว่ากฎหมายนี้มีปัญหา ถูกใช้ละเมิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคงกฎหมายนี้ไว้ รวมถึงควรมีการพิจารณากฎหมายอื่นที่ถูกใช้ปิดปากผู้เห็นต่าง เช่น พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 117 ข้อหายุยงปลุกปั่น"
นางสาวพรรณิการ์ยังได้ติดแฮชแท็ก #ยกเลิก 112 พร้อมโพสต์เพิ่มเติมว่า "ขออภัยพิมพ์ผิด แก้ไขนะคะ มาตรา 116 ค่ะ ข้อหายุยงปลุกปั่น เนื้อหากฎหมายเขียนไว้ตีความได้กว้างขวาง จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือปิดปากผู้ที่รัฐต้องการให้เงียบเสมอ"
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ตอบโต้นางสาวพรรณิการ์ ว่า ท่านนายกฯ พูดว่า "ทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้มาตรา112"
แต่ช่อกลับไปโพสต์ "เป็นที่รู้กันมานานว่ากฎหมายนี้มีปัญหา ถูกใช้ละเมิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน" แค่นี้ช่อก็มาบิดเบือนอีกแล้วว่า มาตรา 112 ถูกใช้เพื่อละเมิดเสรีภาพของประชาชน
ความจริงแล้ว ช่อน่าจะรู้กฎหมายนะ เมืองไทยนั้นมีสิทธิและเสรีภาพเต็มที่ น่าจะอันดับต้นๆ ของโลก เห็นต่างได้เต็มร้อย แต่ไม่ให้จาบจ้วง หมิ่นประมาท
"ผมไม่เห็นมีประชาชนคนไหนเดือดร้อนกับการแสดงความเห็นเลย เพราะทุกคนต้องระมัดระวัง การไปกระทบผู้อื่น มีพวกท่านเท่านั้นแหละ ที่ชอบไปก้าวล่วงและพูดว่า ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยมีต่างชาติช่วยไปขยายผล เรื่องแบบนี้ใครเขาก็รู้ว่า พวกท่านคิดอะไรอยู่ ที่สำคัญ การเป็นนักการเมืองต้องไม่โกหก บิดเบือนนะ ผู้ชายโกหกบิดเบือนเขาเรียกกะล่อน แต่ถ้าเป็นหญิง ไม่รู้ว่าควรจะเรียกอะไรดี?" นพ.วรงค์ระบุในโพสต์ พร้อมติดแฮชแท็ก save มาตรา 112
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แสดงความคิดเห็นว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในหลวงทรงมีพระเมตตาที่จะไม่ให้ลงโทษคนที่จาบจ้วงตามมาตรา 112 นั้น ไม่เกินคาดหมาย นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว นักการเมืองที่มีจิตใจฝักใฝ่ต่อต้านสถาบัน โดดงับทันทีเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112
"เตือนความจำนะ รัฐธรรมนูญมาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาตรา 6 พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ชัดเจนนะ พ่อแม่ของทุกคนเป็นที่เคารพสักการะ คงไม่มีใครด่าพ่อด่าแม่ตัวเองนะ ใครด่าพ่อด่าแม่ตัวเอง นับว่าเป็นลูกที่เลว อกตัญญู แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐยังมีกฎหมายคุ้มครองเลย เด็กชาวอังกฤษส่งเมลแจกของชำร่วยโอบามายังถูกสั่งห้ามเข้าสหรัฐตลอดชีวิตเลย"
อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า มาตรา 112 เปรียบเสมือนเกราะกำบังมิให้ผู้ใดล่วงละเมิดองค์พระประมุข หากอยากจะยกเลิกมาตรา 112 เราคงต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาทก่อน ให้ด่าใครก็ได้ ให้ร้ายใครก็ได้ ใครจะเสียหายอย่างไรก็ช่าง ไม่มีความผิด แล้วค่อยมาคิดยกเลิกมาตรา 112
ด้าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ได้พูดด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติ ประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พวกเราคนไทยเทิดทูนจงรักภักดีเป็นที่สุด เพราะยังมีคนไทยบางกลุ่มที่พยายามก้าวล่วง ปลุกระดมน้องๆ นักศึกษาที่เป็นผู้บริสุทธิ์ให้เดินตามและหลงเชื่อในทางที่ผิดๆ ซึ่งจะทำให้หมดอนาคตในชีวิตได้ นายกฯ ปรารถนาดีต่อลูกหลานและพี่น้องคนไทยทุกคน ไม่อยากเห็นใครออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น
นายสุภรณ์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับนายกฯ อย่างยิ่ง เราต้องคิดให้ได้ว่าที่พวกเราคนไทยได้อาศัยแผ่นดินนี้อยู่อย่างสงบสุขและร่มรื่นมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะด้วยพระบารมีบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ปกป้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของพระองค์ท่าน จิตสำนึกตรงนี้เราคนไทยทุกคนต้องจดจำใส่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ตราบชั่วชีวิตของพวกเราคนไทยทุกคน
"ยิ่งนายกฯ ได้บอกความจริงว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ของพวกเราทรงมีพระเมตตา รับสั่งไม่ให้ใช้กฎหมายมาตรา 112 ต่อคนกลุ่มนี้ ยิ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่สุด คนที่คิดบิดเบือน ก้าวล่วงยุยงปลุกปั่น ละเมิดสถาบันควรมีจิตสำนึกว่า พระองค์ท่านทรงเมตตารักและและห่วงใยพสกนิกรคนไทยทุกคน พระองค์ท่านปรารถนาให้คนไทยทุกคนมีความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ประเทศชาติมีความสงบสุขร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน โดยที่คนไทยต้องไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น จะได้มีวิถีชีวิตทำมาหากินอย่างปกติสุข และน้องๆ นักศึกษามีอนาคตในหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัวที่มั่นคง เป็นกำลังที่สำคัญของชาติในวันข้างหน้าตามที่นายกรัฐมนตรีห่วงใยและตักเตือนมาว่า อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่ไม่ปรารถนาดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเด็ดขาด"
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อยากเห็นคนเหล่านี้ที่คิดผิดก็คิดใหม่ได้ ควรกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ยังไม่สายเกินไป สังคมยังให้อภัยให้โอกาสเสมอ และก็อยากเตือนว่า คนที่ก้าวล่วงสถาบันระวังจะหมดอนาคตไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย ไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนหลายคนที่ต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสอาศัยแผ่นดินไทยทำมาหากิน ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข ต้องหนีจากแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ได้รับความลำบากเดือดร้อน ครอบครัวแตกแยก สุดท้ายในชีวิตไม่มีโอกาสใช้แผ่นดินพ่อแผ่นดินแม่ไว้กลบหน้ายามสิ้นลมหายใจ ตนเชื่อมั่นว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ปรารถนาที่อยากจะเห็นคนไทยด้วยกันมีวิถีชีวิตเป็นเช่นนั้นแน่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |