ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่าเขาจะไม่ดูการแข่งขัน ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล หากผู้เล่นไม่ยอมยืนตอนเปิดเพลงชาติ หลังเหมือนจะมีการเปิดทางให้ผู้เล่นสามารถคุกเข่าเพื่อเรียกร้องและร่วมเคลื่อนไหวสนับสนุน Black Lives Matter
    สหพันธ์ยูเอส ซอคเกอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเคยเปิดเผยแล้วว่า ได้ยกเลิกข้อบังคับให้ผู้เล่นต้องยืนระหว่างเพลงชาติ โดยระบุว่าเป็นนโยบายที่ผิด แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้อกับความเคลื่อนไหว Black Lives Matter ในช่วงนี้
    นโยบายดังกล่าว ได้รับการประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2017 หลังจากกัปตันทีมหญิงทีมชาติสำรัฐ เมแกน ราปิโน ได้ทำการคุกเข่าระหว่างเพลงชาติก่อนเกมการแข่งขัน เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับควอร์เตอร์แบ็คเอ็นเอฟแอล โคลิน แคเปอร์นิค ที่ได้มีการคุกเข่าเรียกร้องให้ทุกคนหันมาให้ความใส่ใจเรื่องการปฏิบัติแบบแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างไม่เป็นธรรม
    "ผมจะไม่ดูอีกต่อไปแล้ว" ทรัมป์ ทวีตแสดงความไม่พอใจเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา หลังข่าว แมทท์ เกตซ์ สมาชิกสภาคองเกรสรีพับลิกัน วิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ เอ็มแอลเอส หรือ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์
    "แล้วดูเหมือนว่าตอนนี้ ทาง เอ็นเอฟแอล ก็กำลังมุ่งหน้าไปทิศทางนั้นเช่นกันแล้ว แต่ผมคงไม่อยู่รับชมด้วยแน่" ทรัมป์ กล่าว
    โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานเอ็นเอฟแอล กล่าวในเดือนนี้ว่า ทางลีกได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาดที่ไม่ยอมฟังบรรดาผู้เล่นและขอประนามการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติในประเทศนี้ ท่ามกลางการประท้วงต่อความรุนแรงป่าเถื่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีต่อประชาชนคนผิวดำ
    ปัญหานี้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้วหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ จากกระทำอันเกินกว่าเหตุของตำรวจผิวขาวในมินเนอาโปลิส ที่เอาเข่ากดคอของเขาจนขาดอาการหายใจและเสียชีวิต
    ทรัมป์ ที่ผ่านมาเคยวิจารณ์ผู้เล่นต่างๆที่คุกเข่าระหว่างเพลงชาติในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีการทวีตบอกว่า ผู้เล่นเอ็นเอฟแอล ที่ทำเช่นนั้น ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและดูหมิ่นประเทศของเราและธงของเรา