14 มิ.ย.2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า  ที่ประชุมกบง.มีมติเห็นชอบขยายมาตรการช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซแอลพีจี ในภาคครัวเรือน ให้ลดราคาอยู่ 318 บาทต่อถังขนาด15กิโลกรัม หรือเป็นการลดลงจากราคาปกติ 45 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ส่วนผู้มีรายน้อยถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับความช่วยเหลือลดราคาก๊าซแอลพีจี จากราคาปกติ 100 บาทต่อคนต่อเดือน โดยให้ขยายมาตรการออกไปอีก 3 เดือนจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 หลังจากมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดกำหนดความช่วยเหลือประชาชนในเดือนมิ.ย.นี้  

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือบริษัท ปตท.ขยายมาตรการลดราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะ ที่ปรับลดจาก 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ให้ขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือนจนถึงเดือนก.ค.นี้

ขณะที่การขยายมาตรการลดราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน คาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสนับสนุนประมาณ 248 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังพิจารณาสูตรการคำนวนโครงสร้างต้นทุนเอ็นจีวี จากเดิมใช้รูปแบบราคาตามต้นทุน หรือ Cost Plus โดยให้ใช้สูตรใหม่ที่อ้างอิงจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลก รวมถึงพิจารณาหลักเกณฑ์คำนวนโครงสร้างไบโอดีเซล ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป
ทั้งนี้ ยังได้ปรับหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้  ซึ่งจะส่งผลต่อราคาหน้าโรงกลั่นและทำให้ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันลดลงได้เฉลี่ย 50 สตางค์ต่อลิตร โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)หารือรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเพื่อเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้นำมาเสนอ กบง. พิจารณาอีกครั้ง

ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ซึ่งบรรจุแผนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจากที่ประชุมบอร์ดสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เร็วๆนี้