แม้ว่าสถานการณ์ของโรดระบาดจะแพร่กระจายจนทำให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นได้รับผลกระทบไปมากแค่ไหน แต่ถ้าคนในประเทศร่วมมือ และยังไม่หมดกำลังใจ ก็จะยังทำให้การเดินหน้าต่อในวันที่ทุกอย่างคลี่คลายไปแล้วง่ายมากขึ้น และจากเท่าที่ดูมาก็เห็นได้ชัดว่าประเทศไทยและคนไทยก็มีความเชื่อมั่นว่าเราจะกลับมาฟื้นคืนสภาพได้ภายในเร็ววันนี้
รวมกับการยื่นเข้ามาช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ยิ่งทำให้กำลังใจในประเทศนั้นฟื้นตัวกลับมาได้เร็วมากขึ้น ขณะที่ฝั่งธุรกิจเองก็ได้ให้ความช่วยเหลือจากกันและกันไปพอสมควร ส่วนด้านหน่วยงานภาครัฐก็ออกกิจกรรมต่างๆ มาเพื่อสนับสนุน และเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มธุรกิจเล็กๆ อย่างเอสเอ็มอีให้เกิดความแข็งแกร่งมากขึ้น
เพื่อหวังว่าหลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลายจะสามารถเดินหน้าต่อได้ทันที โดยหนึ่งในหน่วยงานที่เข้ามาช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอีอยู่ตลอดเวลา ก็คือสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพราะถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการช่วยพัฒนาเอสเอ็มอี โดยที่ผ่านมาได้ออกหลักสูตรออนไลน์และสร้างเครื่องมือให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียมากขึ้น เนื่องจากในช่วงโควิดต้องใช้เทคโนโลยีในการเข้ามาให้ความรู้ โดยจากการเรียนรู้ดังกล่าวนั้นจะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ง่ายขึ้น 2.ใช้สื่อที่เข้าใจง่ายขึ้น และ 3.เพื่อการแข่งขันในยุคดิจิทัล
และขณะเดียวกัน สสว.จึงดำเนินงานพัฒนาองค์ความรู้สำหรับเอสเอ็มอี หรือเอสเอ็มอี โนวเลจ เซ็นเตอร์ (SME Knowledge Center) ซึ่งวัตถุประสงค์คือ 1.จัดทำและพัฒนาองค์ความรู้และข้อมูลสำหรับเอสเอ็มอีเพื่อประโยชน์ในการทำธุรกิจ 2.จัดตั้งส่วนบริการ ที่มีการให้คำปรึกษา โดยเน้นให้ความรู้เป็นกลุ่มย่อย เช่น จัดทำกรณีศึกษา จัดเวิร์กช็อปหรือสัมมนาต่างๆ 3.ประเมินความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ และ 4.ดูแลระบบโครงสร้างให้เหมาะสม ทั้งผู้สอนและผู้ประกอบการ และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
สำหรับ SME Knowledge Center ได้จัดทำคลังข้อมูล 8 โมดูลด้วยกัน ได้แก่ ด้านดิจิทัล ด้านการบริการ ด้านต้นทุนและการขนส่งสินค้า ด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้านองค์ความรู้เฉพาะเรื่อง ด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านบัญชีและการเงิน และด้านมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ เพื่อผู้ประกอบการ 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มตัวแทนวิสาหกิจรายย่อย กลุ่มเริ่มต้นธุรกิจ กลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อม เช่น กลุ่มที่สานต่อธุรกิจของครอบครัวด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางหรือกลุ่มที่สามารถขยายธุรกิจไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ หรือเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้อย่างเต็มตัว
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา SME Knowledge Center มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือเข้ารับคำปรึกษาธุรกิจในด้านต่างๆ มากกว่า 4,500 ราย จากเป้าหมาย 4,000 ราย และมีผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ www.smeknowledgecenter.com มากถึง 250,000 ครั้งต่อปี ซึ่งเกินเป้าที่วางไว้ 200,000 ราย สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก โดยยังคงยึด 8 โมดูลเหมือนเดิม 1.ด้านดิจิทัล 2.การบริการ 3.ต้นทุน การขนส่งสินค้า 4.สิทธิประโยชน์ทางภาษี 5.องค์ความรู้เฉพาะเรื่อง 6.การตลาด/การตลาดต่างประเทศ 7.บัญชีการเงิน และ 8.มาตรฐานของผลิตภัณฑ์
รวมถึงมีการลงพื้นที่เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการระดับวิสาหกิจรายย่อยด้วยวิธีให้คำปรึกษาเฉพาะกลุ่ม ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่ดำเนินการอบรมความรู้แก่ผู้ประกอบทั่วประเทศ แบ่งเป็น 5 ภูมิภาค อาทิ ภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุดรธานี ศรีสะเกษ ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ ได้แก่ สงขลา นราธิวาส และภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา
และในช่วงโควิดนี้เองผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ยังต้องต่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆ ด้วย โดยเฉพาะการทำธุรกิจแบบนิวนอร์มอล ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ต้องสร้างทักษะใหม่ๆ ให้เข้มแข็งขึ้น ทั้งการพัฒนาคนในองค์กร การพัฒนาทักษะเดิมๆ และต้องเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว ลดความซ้ำซ้อนและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เป็นต้น
ซึ่งเชื่อว่าจากกิจกรรมดังกล่าวนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากให้กับผู้ประกอบการ และหากพร้อมที่จะปรับปรุง ก็คาดว่าจะเป็นผลดีในช่วงเวลาแบบนี้ ที่ถือว่าเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |