'จตุพร'แนะใช้งบปี64จัดเลือกตั้งท้องถิ่น เชื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้อีกทาง


เพิ่มเพื่อน    

15 มิ.ย. 63 - ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การยกเลิกเคอร์ฟิวทำให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลายในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถไปหยุดความยากจนที่กำลังจะเกิดได้ อีกทั้ง เรามาถึงจุดที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่มี ประชาชนก็ไม่มีความรู้สึกถึงความหวาดกลัวโควิด-19 แม้ทั่วโลกจะมีการระบาดค่อนข้างหนักก็ตาม

ส่วนซุปเปอร์โพล ชี้ว่ายุบสภาเป็นทางออกการเมืองที่ดีที่สุดพร้อมบอกว่า คนไทยอยากได้คน ซื่อสัตย์สุจริต มาพร้อมกับข่าวการเลือกตั้งท้องถิ่นที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่มีเงิน เพราะงบที่ใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นนำไปใช้ช่วยเหลือในเรื่องโควิด-19 หมดแล้ว

ดังนั้น ตนเคยอธิบายไว้ งบประมาณที่มาจากสัดส่วนของเงินกู้ที่ไม่รวมกับงบประมาณจากปกติรวมกระทั่งระยะเวลางบปี 2563 ที่จะใช้สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีงบค้างอยู่จำนวนเท่าไรเพราะว่างบแต่ละปี มีงบค้างท่อกันจำนวนมากรวมถึงการเตรียมการในการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 ซึ่งเป็นงบประมาณขาดดุล ตามที่ทราบกันต้องมีการกู้อีกครั้ง

ดังนั้นจำนวนเงิน ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เหลือของปี 2563 เงินกู้จำนวน 1.0 ล้านล้านบาทนั้นมองว่าหากยังไม่สามารถบริหารจัดการอย่างลงตัวให้ตรงกับความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจะทวีขึ้นตามลำดับ และความเดือดร้อนของคนแตกต่างกัน คนที่มั่งมีก็อยู่ได้ แต่คนที่หาเช้ากินค่ำมีความยากลำบากและมีการก่ออาชญากรรมจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้งบประมาณก้อนนี้ต้องเลือกใช้ให้สอดคล้องกับคุณค่าและความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างไร

ส่วนในปี 2564 นั้น ตนมองว่าในการทำงบประมาณในการวางแผนต่อไปนี้ต้องคิดในสภาวะของประเทศที่ไม่ปกติ เพราะหากคิดในสถานการณ์ของประเทศปกติ ก็อาจจะวางแผนไปตามงบประมาณเดิม แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า จำนวนงบประมาณที่เป็นรอยต่อสิ้นเดือนมิถุนายนก็จะสิ้นปีงบประมาณ

แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะบอกคือรัฐต้องใช้ความรอบคอบขั้นสูงสุด และจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องรีบตัดสินใจ ว่าจะใช้ทีมเศรษฐกิจเก่าหรือทีมใหม่ เพราะหากอยู่ในช่วง อึมครึมทั้งหลาย คนที่ทำหน้าที่ก็ไม่มีจิตใจในการทำงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

หากจำเป็นต้องปรับทีมเศรษฐกิจก็ต้องทำ แต่หากยืนยันที่จะให้ทำงานต่อก็ต้องบอกให้ชัดเพราะ หากยังปล่อยให้อยู่ในช่วงกึ่งๆกลางๆ เหมือนอยู่กลางแม่น้ำแบบนี้ท่ามกลางรอยต่อปีงบประมาณรวมถึง การเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดังนั้นวันนี้ทุกคนก็อยากรู้ว่า งบประมาณในส่วนเยียวยานั้นเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่ มีประชาชนตกค้างที่ไม่ได้รับการเยียวยา แต่มีคุณสมบัติครบถ้วนยังตกค้างอยู่จำนวนเท่าไร

รวมทั้ง หลังจากสิ้นเดือนมิถุนายนนี้เอาให้ชัดว่า ไม่สามารถเยียวยาได้ตามที่ประกาศหรือแม้แต่งบประมาณก้อน 4 แสนล้านจะไประงับยับยั้งความยากจนของประชาชนได้อย่างฉับพลันอย่างไร รวมถึงหากงบจำนวนนี้ไม่เกิดการสร้างงานหรือสร้างรายได้ขึ้นอย่างชัดเจนจะทำอย่างไร เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกขณะนี้ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจร่วมกันอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นจากสภาพการเหล่านี้ในการจัดสรรงบประมาณส่วนตัวมองว่าจะมีความจำเป็น หากจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งต้องเร่งรีบตัดสินใจ

นายจตุพร กล่าวถึงการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ว่า บางคนที่เป็นนายกฯ ส่วนท้องถิ่นก็อยู่ในตำแหน่งมาเกินวาระ บางคนเป็นติดต่อกันมาถึง 9 ปี ซึ่งเกินวาระและก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นกันเมื่อไหร่ บางคนก็สันนิษฐานกันว่าปลายปีหรือปีหน้าแต่ก็เอาความแน่นอนไม่ได้

แต่สำคัญที่สุดคือการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น อย่างไรก็ต้องเกิดขึ้นเพราะคนที่เป็นผู้บริหารท้องถิ่นชุดปัจจุบันนั้นเป็นเกินวาระโดยสภาพอยู่แล้ว ดังนั้นบางท้องที่ที่คนทำหน้าที่กันดีอยู่แล้วคนก็อาจไม่มีความรู้สึก แต่บางพื้นที่คนต้องการจะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นหากเป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าเงินงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นหมดไปแล้วนั้นก็ควรจะออกแบบมาให้ชัดว่าจะเลือกตั้งกันวันไหน ซึ่งอาจจะต้องใช้งบประมาณปี 2564

ตนก็เห็นว่าการให้เหตุผลเรื่องงบประมาณว่างบประมาณถูกโยกไปหมดแล้วนั้นไม่มีความชัดเจนและไม่เป็นประโยชน์อะไรกับสถานการณ์ ซึ่งความจริงแล้วการเลือกตั้งท้องถิ่นอาจทำให้คนตื่นตัว ไม่ว่าจะเป็น อบต.เทศบาล อบจ. พัทยา และกรุงเทพมหานคร นั้นอาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เพราะบรรดาคนเลือกตั้งทั้งหลายอย่างน้อยก็ต้องมีค่าใช้จ่ายหรือการจ้างงาน ในช่วงที่ต้องฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้

“เราก็ยังไม่รู้กันว่างบประมาณในการฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้นจะสามารถฟื้นฟูได้จริงหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันฟื้นฟูยาก หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน อีกทั้งยังสิ้นสุดการเยียวยาประชาชนในเดือนนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อประชาชนไม่มีเงิน แต่หากจะบอกว่าเลิกเคอร์ฟิวหรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นนั้นตนไม่เชื่อ เพราะสถานการณ์ของประเทศเดินไปไกลแล้ว ดังนั้นควรจะฟังบรรดากูรูด้านเศรษฐกิจ”

ส่วนข้อเสนอของซุปเปอร์โพลที่บอกว่า ยุบสภาเป็นทางออกการเมืองที่ดีที่สุดนั้น ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีก็สามารถที่จะยุบสภาได้เป็นเรื่องปกติของการเมืองในประเทศไทยเพียงแต่ในสถานการณ์ที่พรรคการเมือง แตกตัวออกไปตั้งพรรคนั้น ส่วนตัวมองว่า เลือกตั้งในกระดานหน้าก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ หากยังไม่แก้ไขกติกาให้เป็นที่เรียบร้อย ก็กลับมาที่จุดเดิมกันอีก และสภาพของประเทศก็ไม่พร้อมที่จะอยู่ภายใต้การเมืองแบบเดิม

ใครจะคิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาลมาถึงจุดที่ล้มเหลวทุกฝ่าย ซึ่งเป็นสภาพที่เราเคยพูดกัน ในการทำรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่าจะต้องมีการปฏิรูปการเมือง หาก การเมืองมีความแข็งแรงมีเสถียรภาพอำนาจเป็นของประชาชนทุกอย่างก็ดำเนินไปตามทิศทางครรลอง

แต่สภาพการ ณ วันนี้ตนยังมองว่า หากผลีผลามยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งก็ยิ่งจะพบกับทางตัน ดังนั้นเลือกตั้งที่ควรจะเลือกเวลานี้คือการเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะกติกาในระดับท้องถิ่นได้เป็นปัญหาอะไร แต่การเลือกตั้งในระดับชาติยังไม่มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นั้นไม่ว่าเดินไปทางไหนก็มีแต่ล็อคทั้งหมด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาให้ฉีกเท่านั้น และหากไม่คิดเรื่องนี้กันอย่างจริงจังประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"