ผู้ปกครองหลายคนที่กำลังสงสัยว่าเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่?? ล่าสุด CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้การสวมหน้ากากอนามัยเป็นมาตรการสาธารณะ ที่พบได้บ่อยและถือว่าจำเป็นที่สุดในการป้องกันโรค COVID-19 แต่ทว่าความเหมาะสมของการใส่แมสก์ในเด็กเล็ก บางครั้งผู้ปกครองก็ยังเข้าใจไม่ถูกต้องในเรื่องนี้ อีกทั้งต้องทำความเข้าใจอย่างท่องแท้
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมได้ระบุไว้ว่า การใส่หน้ากากอนามัยนั้นสามารถป้องกันการแพร่กระจายของละอองในระบบทางเดินหายใจจากผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม คนสองกลุ่มควรได้รับการยกเว้นจากการสวมใส่แมสก์ในที่สาธารณะ อาทิ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้ที่หายใจลำบากหรือใครไม่สามารถถอดหน้ากากออกได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ ก็ควรงดเว้นในการใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น
สถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน ได้บอกว่า “ในบางสถานการณ์เด็ก (อายุมากกว่า 2 ขวบ) ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก“ ตราบใดที่พวกเขาสามารถอยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 6 ฟุต และสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวต่างๆ ได้ เช่น เวลาที่ลูกของคุณวิ่งเล่นนานๆ โดยที่เด็กๆ อยู่ห่างจากคนอื่นไม่ถึง 6 ฟุต และไม่ต้องสัมผัสโต๊ะ น้ำพุ หรืออุปกรณ์สนามเด็กเล่น หรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจมีผู้ติดเชื้อสัมผัสทิ้งไว้ ซึ่งข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจ”
ทั้งนี้ คำแนะนำในการใส่หน้ากากอนามัยที่อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ ซึ่งเริ่มจากการที่เราต้องสร้างความรู้ความเข้าใจใหม่ว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น สามารถแพร่กระจายได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีอาการป่วยปรากฏให้เห็น ดังนั้นคำเตือนก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ออกมาระบุว่า ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัย หากต้องออกไปในที่สาธารณะ แต่ล่าสุดข้อมูลจากสถาบันสุขภาพต่างๆ ได้ออกมาระบุว่า การใส่แมสก์นั้น เหมาะสำหรับผู้ป่วย หรือผู้ที่ดูแลผู้ป่วย ตลอดจนผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
แม้จะมีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะที่เหตุใดเด็กอายุ 2 ขวบ ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย ล่าสุด “ดร.ดารา คลาส” หัวหน้าศูนย์การแพทย์ บอกว่า “การใส่หน้ากากอนามัยในกลุ่มของเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จากการปนเปื้อนหรือได้รับเชื้อโรคเชื้อไวรัสจากคนทั่วไป เช่น การที่เด็กเล็กนอนอยู่ในรถเข็น หรือมีพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอดเวลานั่นเอง”
ประการสำคัญในส่วนของเหตุผลด้านความปลอดภัย “แอนดี้ เจเบิร์นสไตน์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการกุมารเวชศาสตร์ของ North Suburban Pediatrics ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า “เด็กวัยหัดเดินมีทางเดินหายใจขนาดเล็กกว่าเด็กและผู้ใหญ่ที่โตกว่า ดังนั้นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่สามารถถอดหน้ากากอนามัยของตัวเองได้อย่างง่ายดายเหมือนผู้ใหญ่ ประกอบกับทางเดินหายใจของพวกเขามีขนาดเล็ก ดังนั้นเมื่อใส่แมสก์อาจทำให้หายใจไม่สะดวก หรือได้รับออกซิเจนที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะหายใจไม่ออก ที่สำคัญเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่สามารถบอกให้ผู้ปกครองรับรู้ได้ว่า พวกเขากำลังสำลักเส้นใยผ้าจากหน้ากากอนามัย ประกอบกับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนผู้ใหญ่ หากเด็กเล็กตกอยู่ในภาวะที่หายใจไม่สะดวก อีกทั้งการที่เด็กไม่สามารถถอดแมสก์ออกได้ทัน ขณะที่พวกเขากำลังหายใจไม่ออก ซึ่งนั่นจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อย่างคาดไม่ถึง”
จากข้อมูลที่เกิดขึ้นนั้น CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค จึงได้แนะนำว่าผู้ที่ไม่สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้ด้วยตัวเอง และไม่สามารถสื่อสารหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ จึงไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กระทั่งเด็กที่อายุต่ำว่า 2 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคโควิด-19 นั่นเอง
โดยรวมแล้วผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับแนวทางของ CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ซึ่งไม่ใช่การอยู่กับข้อมูลในโลกโซเชียลมีเดีย ที่สำคัญหน้ากากอนามัยไม่ได้รับการออกแบบสำหรับทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และหากผู้ปกครองให้เด็กในช่วงอายุดังกล่าวใส่หน้ากากอนามัย นั่นแปลว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อของการตลาด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |