ลุ้นข่าวดีเลิกเคอร์ฟิว สมช.ชงศบค.เคาะผ่อนคลายเฟส4เกือบหมด95%-ติดเชื้อเป็นศูนย์อีกวัน


เพิ่มเพื่อน    

    ลุ้นข่าวดีผลประชุม ศบค. 12 มิ.ย.นี้ ยกเลิกเคอร์ฟิว! "เลขาฯ สมช." ชงผลคลายเฟส 4  กลุ่มธุรกิจสีแดงถึง 95% "ผับ-บาร์-อาบอบนวด" รอก่อน เหตุยังเสี่ยงสูง คนไทยเฮต่อเนื่องไร้ผู้ติดเชื้ออีกวัน แถมป่วยโควิดหายกลับบ้านเพิ่มอีก 6 ราย "หมอ" ขออย่าการ์ดตกแม้สถานการณ์ดีขึ้น "โรงเรียนขอนแก่น" เตรียมพร้อมรับเปิดเทอม 1 ก.ค. "รถไฟสายใต้" เริ่มวิ่งแล้ว
    ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงเช้าวันที่ 11 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อปฏิบัติภารกิจตามปกติ โดยมี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ  ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้ารายงานและประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการลดการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค.ชุดเล็ก หารือแนวทางการผ่อนปรนในระยะที่  4 ในกลุ่มกิจการธุรกิจสีแดง พร้อมกับการเสนอยกเลิกการประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว)  เพื่อประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่จะต้องมีการป้องกันทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ให้พิจารณานำข้อสรุปเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย.ก่อนเริ่มผ่อนปรนมาตรการในวันที่ 15 มิ.ย.นี้
    พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า ได้รายงานแนวทางการผ่อนคลายระยะที่ 4 ต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก โดยนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ร่วมประชุมและใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยตนรายงานและให้ดำเนินการตามผลประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ เพราะถือว่าได้ใคร่ครวญมาดีแล้วให้ผ่อนคลายเกือบหมด 95%  ซึ่งนายกฯ ระบุว่า ศบค.ผ่อนคลายมา 3 ระยะแล้ว ทำมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมีความปลอดภัย  พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้การดำเนินชีวิตใกล้เคียงกับการใช้ชีวิตปกติสุขมากที่สุด แต่ยังต้องระมัดระวัง ทั้งนี้จะนำแนวทางที่ได้พิจารณาและที่รายงานให้นายกฯ ทราบเข้าที่ประชุม ศบค.ใหญ่ในวันที่ 12 มิ.ย. ทั้งนี้เมื่อที่ประชุม ศบค.ใหญ่มีมติ จะมีการออกข้อกำหนดฉบับใหม่ออกมา โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มิ.ย.
    "ส่วนการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว ขอให้รอฟังข่าวดีจากที่ประชุมใหญ่ ศบค. ซึ่งไม่ใช่ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน แต่เป็นการพิจารณายกเลิกหรือไม่ยกเลิก" พล.อ.สมศักดิ์กล่าว 
    ถามถึงการจัดการแข่งขันชกมวยจะอนุญาตหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า กีฬามวยอนุญาตให้จัดการแข่งขันได้โดยให้เป็นการถ่ายทอดสด แต่ไม่ให้มีผู้เข้าชม รวมถึงการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ส่วนผับบาร์ต้องขอไว้ก่อนเพราะถือว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ให้รออีกนิด 
    "ส่วนที่เป็นร้านอาหารทั่วๆ ไปอนุญาตให้จำหน่ายและนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮล์ในร้านได้ จากเดิมไม่ให้นั่งกินที่ร้านให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน ขณะที่อาบอบนวดยังไม่อนุญาต" เลขาฯ สมช.กล่าว 
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเสนอของฝ่ายความมั่นคงในการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน แต่ยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้ว่า ไม่ทราบ ต้องถามจาก พล.อ.สมศักดิ์ ไม่รู้เพราะไม่ได้เข้าประชุมด้วย และไม่ใช่เนวิเกเตอร์
    ถามว่าภาคธุรกิจอยากให้เลิกประกาศเคอร์ฟิว แต่รับได้หากยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายวิษณุกล่าวว่า  ก็เคยบอกไปแล้วว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผล 6 ประการ ตามมาตรา 9 ที่เราใช้มาช่วง 3 ที่ผ่านมา หากไม่ต้องการใช้หมดทั้ง 6 ประการ จะยกเลิกไป 4-5 ประการ เช่น เคอร์ฟิว การห้ามชุมนุม การไปในสถานที่ต่างๆ ก็ได้ แต่ พ.ร.ก.ยังคงไว้ หรือมิเช่นนั้นจะเลิกประกาศสถานการณ์ก็ได้ 
    "อย่างที่บอกตัว พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นแม่ ส่วนประกาศสถานการณ์เป็นลูก และข้อกำหนดที่ออกมา  เช่น เคอร์ฟิวคือหลาน หากจะยกเลิกประกาศก็อาจจะทำให้ข้อกำหนดไปด้วยกันก็ได้ แต่ผมตอบไม่ถูกเพราะไม่ได้ร่วมประชุมด้วย" รองนายกฯ กล่าว
เฮ! ไร้ผู้ติดเชื้อใหม่อีกวัน
    ขณะที่ พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,125 ราย ติดเชื้อในประเทศสะสม 2,444  ราย ผู้ป่วยยืนยันอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้สะสม 188 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 6 ราย ยอดผู้ป่วยรักษาหายแล้วสะสม 2,987 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 80 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย
    "ผู้ติดเชื้อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด จำแนกเป็นประเทศคูเวต  28 ราย รองลงมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย ซาอุดีอาระเบีย 7 ราย อินเดียและปากีสถาน 3 ราย  ตุรกี รัสเซีย และกาตาร์ 2 ราย สหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์ 1 ราย" พญ.พรรณประภากล่าว 
    ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า ในส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่ม 134,685 ราย ยอดผู้ป่วยทั่วโลกสะสม 7,452,809 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 5,271 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 418,919 ราย โดยประเทศที่ติดเชื้ออันดับหนึ่งยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20,852  ราย รวมสะสม 2,066,401 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 982 ราย รวมสะสม 115,130 ราย รองลงมาคือบราซิล มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 33,100 ราย รวมสะสม 775,184 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1,300 ราย รวมสะสม 39,797  ราย ในส่วนของทวีปเอเชียผู้ติดเชื้อมากที่สุดคืออินเดีย โดยอยู่ในอันดับ 6 ของโลก มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม  11,009 ราย รวมสะสม 287,155 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับ 85 
    ด้าน นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้วันนี้เป็นวันที่ 17 ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ แต่ทุกคนห้ามการ์ดตก จึงต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง รวมถึงเว้นระยะห่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นเวลาออกไปข้างนอกในพื้นที่ที่มีคนแออัด ยิ่งช่วงนี้ที่มีการผ่อนปรนกิจการต่างๆ มีหลายกิจการที่มีคนเข้าไปเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่ม  จึงขอให้ประเทศไทยไปถึงวันที่ 28 โดยที่มีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เมื่อนั้นจึงจะสามารถเบาใจได้มากกว่านี้ 
    "ประชาชนต้องยกการ์ดสูงอยู่ การป้องกันตัวเองยังต้องเข้มงวดเพื่อความปลอดภัย ในส่วนของคนไทยที่อยู่ต่างประเทศกำลังทยอยกลับมาเรื่อยๆ โดยสาเหตุที่ในสถานที่กักตัวของรัฐไม่พบใครติดเชื้อ  เนื่องจากคนที่กลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำแล้ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แต่หลังจากนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนไทยที่เดินทางกลับมาจากตะวันออกกลาง บราซิล หรือสหรัฐอเมริกา เมื่อนั้นก็ยังจะพบผู้ติดเชื้อในสถานกักตัวของรัฐได้อีก" นพ.อนุพงศ์กล่าว
    ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เรายังต้องสู้กับโควิด-19 ซึ่งคิดว่าอาจจะเป็นปีหรือสองปี  จน​กว่าจะมีวัคซีน เราต้องป้องกันตัวเองให้มาก โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านยังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะคือปัจจัยที่ 6 นอกจากนั้นการให้ความร่วมมือจากสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรนแล้วก็ยังสำคัญ จึงต้องมีมาตรการคัดกรองผู้ป่วย ไม่ให้คนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้าร้าน มีเจลแอลกอฮอล์ให้ และทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ดังนั้นจึงต้องให้ความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน
ขอ ปชช.อย่าการ์ดตก
    ถามว่ามีการสำรวจพบกลุ่มอายุที่ไม่ใส่หน้ากากสูงที่สุดอยู่ที่กลุ่มอายุ 15-​24 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษาในชั้นมัธยมปลาย มหาวิทยาลัย และชั้นแรงงาน จะดำเนินการอย่างไร ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรคกล่าวว่า แม้การติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ยังไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยปลอดเชื้อ 100%  เพราะการที่ติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการมีโอกาสเป็นไปได้อยู่ ดังนั้นระยะฟักตัวของเชื้ออยู่ที่ 14 วัน ถ้าหากระยะเวลา 2 เท่าของการฟักตัวคือ 28 วัน เมื่อไหร่ก็ตามที่พ้น 28 วันจะเบาใจมากกว่านี้ 
    "ระหว่างนี้อยากให้ทุกคนและเยาวชนใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะช่วงเปิดเรียนในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งการเปิดเรียนจะปลอดภัยทั้งครู นักเรียน ทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัย โรงเรียนก็จำเป็นที่ต้องสื่อสารไปยังเยาวชนที่การ์ดตกจะต้องช่วยกันให้ยกการ์ดขึ้น ถ้ายังไม่พ้น 28 วันเราก็ยังเบาใจไม่ได้ เพราะ  1 ก.ค.อาจมีการเปิดกิจการในระยะที่ 4 เพิ่มขึ้น หรือการเปิดน่านฟ้า จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้ใช้หน้ากากอนามัย" ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรคกล่าว
    ที่โรงเรียนเทศบาลคุ้มหนองคูและโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วยนายธวัชชัย รื่นรมย์ศิริ  รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และนายกฤษณวรุณ ไชยนิจ ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรอบสุดท้ายของสถาบันการศึกษาในความรับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อตรวจสอบมาตรการรองรับและเตรียมการที่จะต้องเปิดทำการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ที่กำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ในรูปแบบของโรงเรียนยุค New Normal 
    โดยคณะได้ตรวจประเมินและตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้าและออกของโรงเรียน จุดคัดกรอง จุดวัดอุณหภูมิ ห้องกักตัวเด็กกลุ่มเสี่ยง ห้องเรียน พื้นที่จัดกิจกรรม โรงอาหาร ห้องน้ำ จุดชำระล้าง ลานกีฬา รวมไปถึงพื้นที่โดยรอบของเขตโรงเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้ผู้ปกครองและนักเรียนที่จะถึงวันเปิดภาคเรียนในอีกประมาณ 2 สัปดาห์
    นายธีระศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียน 11 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 11 แห่ง ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น ทั้งหมดพร้อมที่จะเปิดทำการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 ก.ค.นี้แล้ว ในรูปแบบของโรงเรียนยุค New Normal ซึ่งขอให้ผู้ปกครองและนักเรียนทุกคนมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยเทศบาลได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดและเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการติดตั้งจุดล้างมือในพื้นที่โรงเรียนเพิ่มมากขึ้น การเว้นระยะห่าง การจัดการเรื่องห้องเรียน พื้นที่การละเล่น หรือจัดกิจกรรม ห้องน้ำ ห้องอาหาร และทุกจุดของเขตโรงเรียนมีการกำหนดจุดที่ชัดเจนเพื่อลดความแออัดและเลี่ยงการสัมผัสให้มากที่สุด ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเปิดเรียนครั้งนี้คือ ผู้ปกครองและนักเรียนจะต้องให้ความร่วมมือ ทั้งในเรื่องของการลงบันทึกข้อมูลผ่านระบบคิวอาร์โค้ดไทยชนะ การแจ้งอาจารย์ให้รับทราบว่าบุตรหลานมีอาการไข้หรือมีอาการใดที่น่าเป็นห่วง เพื่อที่โรงเรียนจะได้เตรียมแผนการต่างๆ รับมือได้ทันที 
    "การเรียนการสอนนั้นทุกโรงเรียนมีการจัดระบบตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ซึ่งแต่ละโรงเรียนนั้นแตกต่างกัน บางโรงเรียนจัดการเรียนการสอนวันจันทร์ถึงวันเสาร์ บางโรงเรียนทำการสอนทั้งในโรงเรียนและระบบออนไลน์ บางโรงเรียนสลับเวลากันรับประทานอาหารเพื่อลดความแออัด ที่จะนำไปสู่การเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งในแนวทางการจัดการเรียนการสอนในยุค  New Normal นั้นเทศบาลได้เตรียมการมานานกว่า 1 เดือนแล้ว และการประเมินรอบสุดท้ายของคณะทำงานพบว่าโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งหมดพร้อมเปิดทำการเรียนการสอนแล้วทั้งหมด" นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นกล่าว
รถไฟสายใต้เริ่มวิ่ง
    วันเดียวกัน ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นวันแรกในการกลับมาเปิดเดินรถไฟสายใต้หลังหยุดยาวมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมกว่า 2 เดือน จากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตามยังเปิดเดินรถเฉพาะขบวนรถไฟท้องถิ่นทุกขบวนเท่านั้น โดยขบวนรถไฟเที่ยวแรกที่ออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่มี 2 ขบวน คือขบวนที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก และขบวนที่ 445  หาดใหญ่-ชุมพร ซึ่งออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ในเวลา 06.40 น.และเริ่มมีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟตามปกติ แต่ยังไม่คึกคักมากนัก
    ส่วนขบวนรถทางไกลขาขึ้นกรุงเทพฯ ทั้งรถด่วนและรถเร็วจะเริ่มเปิดบริการในวันที่ 12 มิ.ย. แต่ยังจำกัดแค่ 2 ขบวน คือ รถด่วนพิเศษขบวนที่ 38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ จะออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่เวลา 18.10 น. และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 32 หาดใหญ่-กรุงเทพฯ หรือขบวนทักษิณารัถย์ ซึ่งจะออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ในเวลา 18.45 น. ขณะนี้ทั้งสองขบวนมีผู้โดยสารทยอยจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าแล้วอย่างต่อเนื่อง
    ทั้งนี้ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่มีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกับรถไฟทุกขบวนอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่การคัดกรองบริเวณทางเข้า การกรอกคำร้องการเดินทางแล้วนำไปยื่นตอนซื้อตั๋วเช็กอิน เช็กเอาต์ 6 ครั้ง ทั้งตอนเข้าออกสถานีต้นทาง ขึ้นลงรถไฟ และลงรถไฟเข้าสถานีปลายทาง  และผู้โดยสารจะต้องนั่งตามตั๋วโดยสารที่กำหนดไว้เท่านั้น
    ที่สถานีรถไฟยะลา อ.เมืองยะลา บรรยากาศวันแรกของการเปิดให้บริการยังไม่ค่อยคึกคัก เนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบถึงการเปิดให้บริการมากนัก โดยในวันนี้มีเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารก่อนเดินทางเข้ามายังอาคารสถานีรถไฟ และการขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย โดยผู้โดยสารทุกคนต่างปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ขณะที่นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางมาตรวจความความพร้อมการเปิดให้บริการ ซึ่งพึงพอใจที่สถานีรถไฟยะลาได้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด พร้อมกำชับให้ดูแลผู้โดยสารอย่างดีที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"